น้ำยาล้างจาน แบบไหนดี มีคุณภาพ และน่าซื้อมาใช้ | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล ปกติผู้เขียนชอบล้างจานค่ะ เพราะเป็นชอบจัดการสิ่งต่างๆ รอบตัวให้ดีขึ้น สะอาดขึ้นและเป็นระเบียบมากขึ้น พอเห็นจานก็มักคิดเพียงว่าฉันต้องจัดการสิ่งนี้ และการจัดการจานที่เปื้อนคราบอาหาร อย่างแรกที่เราต้องมีคือนำสะอาด ฟองน้ำสำหรับล้างจานและน้ำยาล้างจานค่ะ โดยผู้เขียนไม่ต้องการถุงมือ ผ้าปิดปากหรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ ค่ะ เพราะไม่ได้เป็นคนแพ้ง่าย แต่ที่ขาดไม่ได้เลยคือน้ำยาล้างจานค่ะ และดูเหมือนว่าสิ่งนี้มักปราบเซียนเสมอ เพราะบางทีเราก็พบว่าจานไม่สะอาด จานเสื่อมสภาพ มือลอก มือแดง คันมือ หรือมีกลิ่นติดจานเกินไปจนรู้สึกว่าน่าจะส่งผลต่อสุขภาพ เคยเจอเหตุการณ์ปวดหัวประมาณนี้ไหมค่ะ? ซึ่งสิ่งที่ผู้เขียนเคยเจอบ่อยๆ คือ คราบไขมันยังหลงเหลือหลังจากล้างจานค่ะ แต่ปัญหานี้ก็หายไปนานมาแล้ว เพราะมาพบว่า จริงๆ แล้ว น้ำยาล้างจานเลือกซื้อแบบกล่องสุ่มไม่ได้! เพราะว่าแบบที่มีคุณภาพดี แบบที่ปราบคราบไขมันหมดจด แบบที่เหมาะสมกับคนอย่างเรา ผิวมือแบบเรา จำเป็นต้องเลือกค่ะ โดยแนวทางการเลือกน้ำยาล้างจานนั้น ในบทความนี้ผู้เขียนได้รวบรวมมาให้แล้ว ที่รับรองว่าอ่านจบรู้เรื่องและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทันทีค่ะ ส่วนจะมีเนื้อหาอะไรน่าสนใจบ้างนั้น อ่านต่อกันเลยจ้า ดังนี้ 1. ตรวจสอบค่าพีเอช (pH) คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า น้ำยาล้างจานที่มีค่า pH สูง (ด่าง) มากเกินไป อาจทำให้ผิวมือแห้งกร้าน ระคายเคือง หรือเกิดผื่นได้ เนื่องจากไปทำลายชั้นน้ำมันตามธรรมชาติของผิว ในทางตรงกันข้ามถ้าน้ำยาล้างจานมีค่า pH ต่ำ (กรด) มากเกินไป อาจกัดกร่อนภาชนะบางชนิด เช่น อลูมิเนียม หรือภาชนะเคลือบ ทำให้เกิดรอยด่าง หรือสีซีดจางค่ะ ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องตรวจสอบค่า pH ซึ่งในสถานการณ์จริงผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่มักไม่ระบุค่า pH แต่เรามีวิธีในการสังเกตได้ค่ะ ดังนี้ สังเกตจากส่วนผสม: น้ำยาล้างจานสูตรอ่อนโยน มักมีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น สารสกัดจากพืช หรือไม่มีสารเคมีรุนแรง ซึ่งโดยทั่วไปจะมีค่า pH ใกล้เคียงกับผิวหนังของคนเรา ในขณะที่น้ำยาล้างจานสูตรเข้มข้น มักมีสารลดแรงตึงผิวสูง เพื่อขจัดคราบมันได้ดี ซึ่งอาจทำให้ค่า pH สูงขึ้นเล็กน้อยค่ะ โดยเราควรหลีกเลี่ยงน้ำยาล้างจานที่มีส่วนผสมของกรด เช่น กรดซิตริก หรือกรดฟอสฟอริก เนื่องจากอาจกัดกร่อนภาชนะและทำให้ผิวมือระคายเคืองนะคะ สังเกตจากฟอง: ปกติน้ำยาล้างจานที่มีฟองมาก มักมีสารลดแรงตึงผิวสูง ซึ่งอาจทำให้ค่า pH สูงขึ้น ส่วนน้ำยาล้างจานที่มีฟองน้อย มักเป็นสูตรอ่อนโยน ซึ่งค่า pH อาจจะใกล้เคียงกับผิวหนังมากกว่าค่ะ สังเกตจากการใช้งาน: หากหลังจากล้างจานแล้วรู้สึกว่าผิวมือแห้งตึง หรือมีอาการระคายเคือง แสดงว่าน้ำยาล้างจานนั้นอาจมีค่า pH สูงเกินไป และถ้าหากสังเกตเห็นว่าภาชนะบางชนิดมีรอยขีดข่วน หรือสีซีดจางลง อาจเป็นเพราะน้ำยาล้างจานมีฤทธิ์เป็นกรดค่ะ อ่านรีวิวจากผู้ใช้งาน: รีวิวจากผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย จะช่วยให้เราทราบว่าผลิตภัณฑ์นั้นอ่อนโยนต่อผิวหรือไม่ รวมไปถึงรีวิวจากผู้ที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์นั้น จะช่วยให้เราทราบถึงประสิทธิภาพในการทำความสะอาด และผลกระทบต่อผิวมือค่ะ 2. การขจัดคราบไขมัน หลายคนยังไม่รู้ว่า สารลดแรงตึงผิว คือ สารเคมีชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติพิเศษในการลดแรงตึงผิวของน้ำ ทำให้น้ำสามารถแทรกซึมเข้าไปในรูพรุนเล็กๆ ของคราบไขมันได้ดีขึ้น และช่วยดึงคราบไขมันออกมา ทำให้ล้างออกได้ง่ายขึ้น โดยส่วนมากน้ำยาล้างจานสูตรเข้มข้น มักมีปริมาณสารลดแรงตึงผิวสูง จึงสามารถขจัดคราบมันฝังแน่นได้ดี ซึ่งการเลือกน้ำยาล้างจานที่มีสารลดแรงตึงผิวที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของคราบที่ต้องการขจัด ภาชนะที่ใช้ และความอ่อนโยนต่อผิวหนัง หากมีผิวแพ้ง่าย ควรเลือกน้ำยาล้างจานที่มีส่วนผสมของสารลดแรงตึงผิวที่ไม่มีประจุ มักอ่อนโยนต่อผิวกว่าชนิดอื่นๆ หรือสูตรที่ระบุว่าอ่อนโยนต่อผิว แต่ถ้าต้องการขจัดคราบฝังแน่น ควรเลือกน้ำยาล้างจานที่มีส่วนผสมของสารลดแรงตึงผิวประจุลบ ซึ่งพบได้ในน้ำยาล้างจานทั่วไป มีประสิทธิภาพในการขจัดคราบไขมันดีเยี่ยม แต่อาจทำให้ผิวแห้งได้หากใช้ในปริมาณมาก และตัวอย่างของสารลดแรงตึงผิวประเภทนี้ ได้แก่ Sodium Lauryl Sulfate (SLS) และ Sodium Laureth Sulfate (SLES) โดยน้ำยาล้างจานที่มีส่วนผสมของประจุลบนี้ มักจะมีราคาถูกกว่าชนิดอื่นๆ นะคะ 3. กลิ่น กลิ่นของน้ำยาล้างจานนั้นมีผลต่ออารมณ์และประสบการณ์ในการล้างจานเป็นอย่างมาก กลิ่นหอมอ่อนๆ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นขณะทำงานบ้าน ในขณะที่กลิ่นฉุนแรงอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจได้ กลิ่นหอมช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในห้องครัว ทำให้การล้างจานกลายเป็นกิจกรรมที่เพลิดเพลินมากขึ้น กลิ่นบางชนิด เช่น กลิ่นดอกไม้ หรือกลิ่นผลไม้ อาจช่วยลดความเครียดและทำให้รู้สึกผ่อนคลาย การได้กลิ่นหอมระหว่างทำงานจะช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และวิธีเลือกน้ำยาล้างจานที่มีกลิ่นหอม ให้ทำตามนี้ อ่านฉลาก: ตรวจสอบส่วนประกอบและกลิ่นของน้ำยาล้างจาน ลองดมกลิ่น: ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรลองดมกลิ่นของน้ำยาล้างจานเพื่อดูว่าชอบกลิ่นนั้นหรือไม่ พิจารณาความเข้มข้นของกลิ่น: เลือกกลิ่นที่หอมอ่อนๆ ไม่ฉุนจนเกินไป เลือกยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ: ยี่ห้อที่มีชื่อเสียงมักมีการควบคุมคุณภาพที่ดีและมีกลิ่นหอมที่หลากหลาย 4. ประเมินความปลอดภัย การเลือกน้ำยาล้างจานที่ปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเราต้องสัมผัสกับน้ำยาล้างจานโดยตรงขณะล้างจาน ดังนั้นการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ปลอดภัยและได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือจึงเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากว่าสารเคมีบางชนิดในน้ำยาล้างจานอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ ระคายเคืองผิวหนัง หรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ ได้หากสัมผัสเป็นเวลานาน และน้ำยาล้างจานบางชนิดอาจมีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมเมื่อถูกทิ้งลงสู่ธรรมชาติ รวมไปถึงสารเคมีตกค้างจากน้ำยาล้างจานอาจปนเปื้อนเข้าไปในอาหารได้ค่ะ โดยวิธีเลือกน้ำยาล้างจานที่ปลอดภัย มีดังนี้ อ่านฉลากอย่างละเอียด: ส่วนผสม: ตรวจสอบส่วนผสมต่างๆ ที่ระบุบนฉลาก หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีที่เราไม่รู้จักหรือสงสัยว่าอาจเป็นอันตราย คำเตือน: อ่านคำเตือนบนฉลากอย่างละเอียด เพื่อป้องกันการเกิดอันตราย วิธีใช้: ปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้ผลิตภัณฑ์อย่างเคร่งครัด เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีเครื่องหมายรับรอง: อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) เป็นเครื่องหมายรับรองที่บ่งบอกว่าผลิตภัณฑ์นั้นผ่านการตรวจสอบและปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค เครื่องหมายรับรองอื่นๆ เช่น เครื่องหมายรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม หรือเครื่องหมายรับรองจากองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร เลือกผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติ: น้ำยาล้างจานที่ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น สารสกัดจากพืช มักจะมีความปลอดภัยสูงกว่า หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นฉุนแรง: กลิ่นฉุนแรงอาจบ่งบอกถึงปริมาณสารเคมีที่สูง 5. เลือกสูตรที่อ่อนโยนต่อผิว ผิวแพ้ง่ายมีความบอบบางและไวต่อการระคายเคืองจากสารเคมีต่างๆ การเลือกใช้น้ำยาล้างจานที่อ่อนโยนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวมือแห้งกร้านและเกิดอาการแพ้ น้ำยาล้างจานสูตรอ่อนโยนมีส่วนผสมที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรืออาการแพ้ ช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวมือ ทำให้ผิวไม่แห้งกร้านและแตก ซึ่งวิธีการเลือกน้ำยาล้างจานสูตรอ่อนโยน มีดังนี้ค่ะ อ่านฉลาก: ตรวจสอบส่วนผสมและคำอธิบายบนฉลาก เลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า "อ่อนโยนต่อผิว", "สำหรับผิวแพ้ง่าย", "ปราศจากสารเคมีรุนแรง” หลีกเลี่ยงสารเคมีที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น สารกันบูดบางชนิด สีสังเคราะห์ น้ำหอมสังเคราะห์ เลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรอง เช่น เครื่องหมายรับรองจากองค์กรที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพผิว หรือเครื่องหมายรับรองความปลอดภัย ลองใช้กับบริเวณผิวเล็กๆ ก่อน เพื่อทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้งานจริง 6. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเลือกใช้น้ำยาล้างจานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อโลกของเรา การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ง่ายและมีบรรจุภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้ จะช่วยลดปริมาณขยะและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมากค่ะ ดังนั้นให้เลือกน้ำยาล้างจานที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ หรือมีส่วนผสมที่ย่อยสลายได้ง่าย เพราะว่าน้ำยาล้างจานบางชนิดมีส่วนผสมของสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดมลภาวะต่อน้ำและดิน การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีบรรจุภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้จะช่วยลดปริมาณขยะที่ถูกทิ้ง การผลิตน้ำยาล้างจานบางชนิดอาจต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาติในปริมาณมาก การเลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจะช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจะช่วยสนับสนุนผู้ผลิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมค่ะ ซึ่งวิธีเลือกน้ำยาล้างจานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีดังนี้ อ่านฉลาก: ตรวจสอบส่วนผสมและคำอธิบายบนฉลาก เลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า "ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ", "ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ", "ไม่ทดลองกับสัตว์", "บรรจุภัณฑ์รีไซเคิลได้" เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น สารสกัดจากพืช น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรง เช่น ฟอสเฟต คลอรีน สารกันบูดบางชนิด เลือกบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล เช่น พลาสติก PET HDPE หรือกระดาษ สนับสนุนแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยเลือกแบรนด์ที่มีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจนค่ะ 7. ลองใช้หลายยี่ห้อ การเลือกน้ำยาล้างจานที่ถูกใจและเหมาะสมกับความต้องการส่วนบุคคลนั้นสำคัญมากค่ะ เพราะแต่ละยี่ห้อมีสูตรและส่วนผสมที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำความสะอาด ความอ่อนโยนต่อผิว และกลิ่นที่แตกต่างกันออกไป โดยผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายควรเลือกสูตรอ่อนโยนที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง การลองใช้หลายยี่ห้อจะช่วยให้เราค้นหาสูตรที่เหมาะกับสภาพผิวของเรามากที่สุด แต่ละยี่ห้อจะมีประสิทธิภาพในการขจัดคราบไขมันและสิ่งสกปรกที่แตกต่างกัน การลองใช้หลายยี่ห้อจะช่วยให้เราเปรียบเทียบและเลือกผลิตภัณฑ์ที่ทำความสะอาดได้ดีที่สุด กลิ่นของน้ำยาล้างจานมีผลต่ออารมณ์และความรู้สึกในการล้างจาน การลองใช้หลายยี่ห้อจะช่วยให้คุณผู้อ่านค้นหากลิ่นที่ชอบและรู้สึกผ่อนคลาย โดยวิธีการลองใช้หลายยี่ห้อ ให้ทำตามนี้ค่ะ ซื้อขนาดเล็ก: เริ่มต้นด้วยการซื้อน้ำยาล้างจานขนาดเล็กหรือแบบเติม เพื่อทดลองใช้ก่อนตัดสินใจซื้อขนาดใหญ่ แบ่งปันกับเพื่อนหรือคนในครอบครัว: หากต้องการลองหลายยี่ห้อพร้อมกัน อาจแบ่งซื้อกับเพื่อนหรือคนในครอบครัว แล้วช่วยกันทดลองใช้ อ่านรีวิว: การอ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริงจะช่วยให้คุณผู้อ่านได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์แต่ละยี่ห้อ สังเกตปฏิกิริยาของผิว: หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์แล้ว ให้สังเกตอาการของผิว เช่น ผิวแห้ง ระคายเคือง หรือแพ้ เปรียบเทียบผลลัพธ์: เปรียบเทียบผลลัพธ์หลังจากการใช้งานแต่ละยี่ห้อ เพื่อดูว่ายี่ห้อใดให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด 8. พิจารณาตามประเภทของภาชนะ การเลือกน้ำยาล้างจานให้เหมาะสมกับประเภทของภาชนะนั้นสำคัญมาก เพราะแต่ละชนิดของภาชนะจะมีวัสดุและความบอบบางที่แตกต่างกัน การเลือกน้ำยาที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ภาชนะเสียหายได้ เช่น สีซีดจาง ขูดขีด หรือเกิดรอยด่าง และตัวอย่างของภาชนะบางชนิดมีความบอบบาง เช่น แก้วคริสตัล หรือภาชนะเคลือบ และตัวอย่างการเลือกใช้น้ำยาล้างจานที่เหมาะสมสำหรับแต่ละประเภทของภาชนะ มีดังต่อไปนี้ ภาชนะแก้วและเซรามิก ควรเลือกน้ำยาล้างจานที่อ่อนโยน ไม่กัดกร่อนผิว เพราะอาจทำให้สีซีดจางหรือเกิดรอยขีดข่วนได้ ภาชนะสแตนเลส สามารถใช้น้ำยาล้างจานทั่วไปได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงน้ำยาที่มีฤทธิ์เป็นกรดสูง ภาชนะพลาสติก ควรเลือกน้ำยาล้างจานที่อ่อนโยน ไม่ทำลายสีและไม่ทำให้พลาสติกเสียรูป ภาชนะไม้ ควรใช้น้ำยาล้างจานที่อ่อนโยนและล้างออกให้สะอาด เพื่อป้องกันการเกิดคราบและกลิ่นอับ 9. ซื้อตามปริมาณการใช้งาน การเลือกซื้อน้ำยาล้างจานให้เหมาะสมกับปริมาณการใช้งานจริง นอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังช่วยลดปัญหาการมีน้ำยาล้างจานเหลือใช้ หรือหมดเร็วเกินไปอีกด้วย ครอบครัวใหญ่จะใช้น้ำยาล้างจานมากกว่าครอบครัวเล็ก หากทำอาหารบ่อย หรือมีแขกมาบ้านบ่อย ก็จะต้องใช้น้ำยาล้างจานมากขึ้น ภาชนะที่สกปรกมาก หรือมีคราบติดแน่น จะต้องใช้น้ำยาล้างจานในปริมาณที่มากกว่า โดยให้สังเกตว่าคุณผู้อ่านใช้ปริมาณน้ำยาล้างจานประมาณเท่าไรในหนึ่งเดือน เมื่อทราบปริมาณการใช้ต่อเดือนแล้ว ให้เลือกขนาดบรรจุภัณฑ์ที่ใกล้เคียงกับปริมาณการใช้งานของเราค่ะ 10. พิจารณาความสะดวกในการใช้งาน การเลือกน้ำยาล้างจานให้ตอบโจทย์ความสะดวกในการใช้งาน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณา นอกจากประสิทธิภาพในการทำความสะอาดและความปลอดภัยแล้ว ความสะดวกในการใช้งานยังช่วยให้การล้างจานเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งรูปแบบของน้ำยาล้างจานมีหลากหลายค่ะ ดังนี้ แบบเหลว: เป็นรูปแบบที่พบเห็นได้ทั่วไป สะดวกในการใช้งาน เพียงแค่เทลงฟองน้ำหรือใส่ลงในเครื่องล้างจาน แบบเจล: มีความเข้มข้นสูง ช่วยลดปริมาณการใช้น้ำยา แต่อาจต้องใช้แรงในการขัดมากกว่าแบบเหลว แบบเม็ด: สะดวกในการพกพา เหมาะสำหรับการเดินทาง แต่ต้องละลายน้ำก่อนใช้งาน แบบสเปรย์: สะดวกในการฉีดพ่นบนภาชนะที่มีคราบติดแน่น ขวดปั๊ม: สะดวกในการควบคุมปริมาณการใช้น้ำยา ขวดเติม: ช่วยลดปริมาณขยะจากบรรจุภัณฑ์ อย่างไรก็ตามน้ำยาล้างจานที่ดีควรล้างออกง่าย ไม่ทิ้งคราบหรือฟิล์มบนภาชนะ ไม่ทำให้มือแห้ง โดยน้ำยาล้างจานสูตรอ่อนโยนจะช่วยลดการระคายเคืองต่อผิวมือ และน้ำยาชนิดนั้นต้องไม่ทิ้งกลิ่น เพราะว่าน้ำยาล้างจานที่ไม่มีกลิ่นแรงจะไม่ทำให้เกิดกลิ่นติดอยู่บนภาชนะค่ะทุกคน และนั่นคือคำตอบของคนที่สงสัยว่า น้ำยาล้างจานเลือกแบบไหนดี จะเห็นได้ว่าหากเราทำความเข้าใจดีๆ นั้น ไม่ได้ยากจนเกินไปที่จะนำมาตดสินใจเลือกซื้อน้ำยาล้างจานสำหรับใช้ในบ้านของเราค่ะ สำหรับผู้เขียนนั้นลองมาเยอะจนเหนื่อยเหมือนกันค่ะ แต่สุดท้ายก็ตกตะกอนได้ว่าน้ำยาล้างจานแบบไม่มีสีคืออะไรที่ดีสำหรับผู้เขียนแล้ว เพราะพบว่ากลิ่นไม่แรง กลิ่นไม่ติดจาน ราคาสมเหตุสมผล มีความเข้มข้นที่จะสู้กับไขมันได้ และไม่ทำให้ผิวมือแห้งและไม่แพ้จนหนังลอกหลังหลุด เลยคิดว่านี่แหละใช่เลย โดยพบว่าน้ำยาล้างจานแบบใสทุกยี่ห้อใช้แล้วดีจริงสำหรับที่นี่ค่ะ ยังไงนั้นคุณผู้อ่านก็ต้องลองใช้หลากหลายยี่ห้อ ด้วยการใช้แนวทางข้ออื่นๆ ในบทความนี้ควบคู่กัน เพื่อเลือกสิ่งที่ดีและใช้มาล้างจานค่ะ และผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปก โดย Liliana Drew จาก Pexels ภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกโดยผู้เขียนใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล ติดต่อผู้เขียน: บทความอื่นที่น่าสนใจโดยผู้เขียน https://food.trueid.net/detail/Pzp9QR68pLdl https://news.trueid.net/detail/BDjOXpG04lRM https://intrend.trueid.net/article/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%8B%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9C%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B5-%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%AA-%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%A5-%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C-%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%87-trueidintrend_283345 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !