BTS เข้าถือหุ้นANAN รุกเปิดตัวบิ๊กโปรเจ็กต์

ทันหุ้น –จับตา “ANAN ควง BTS” เล็งเปิดตัวบิ๊กโปรเจ็กต์เร็วๆ นี้ ด้าน “ชานนท์ เรืองกฤตยา” แจงขายหุ้นให้ BTS จำนวน 7.5% ส่งผลให้ BTSขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 3 หวังช่วยสนับสนุนการลงทุนและพัฒนาโครงการร่วมกันในอนาคต ต่อยอดการเติบโต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายงานของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแบบรายงานการได้มา หุ้นของ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN โดย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ซึ่งเป็นการได้มา เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มา คิดเป็น 7.5% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มาคิดเป็น 7.5% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

ขณะที่นาย ชานนท์ เรืองกฤตยา รายงานการขายหุ้น บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN จำนวน 249,975,000 หุ้น ที่ราคาหุ้นละ 1.33 บาท เมื่อ เมื่อ 11 พฤศจิกายน 2563 คิดเป็นมูลค่า 332.46 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามการเข้าซื้อหุ้น ANAN ครั้งนี้ของ BTS จะส่งผลให้ BTS ขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 3 ของ ANAN รองจากนายชานนท์ เรืองกฤตยา ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 และ นายพิพัฒ พะเนียงเวทย์ ผู้ถือหุ้นอันดับ 2

*สนับสนุนธุรกิจร่วมกัน

นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ANAN เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า จะมีการร่วมทุนกันระหว่างบริษัท กับ บีทีเอส กรุ๊ป ในการพัฒนาโครงการธนาซิตี้ บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ซึ่งได้มีการการลงนามความร่วมมือ (MOU) กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ โดยตั้งเป้าให้เป็น Smart City และ Technology & Innovation Hub เพื่อพลิกโฉมวงการที่อยู่อาศัยให้สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองยุคใหม่

“มองว่า BTS จะช่วยสนับสนุน ANAN ในฐานะที่เป็นบริษัทผู้พัฒนาระบบขนส่งมวลชนอันดับหนึ่ง และ ANAN เองก็เป็นผู้พัฒนาโครงการติดรถไฟฟ้าอันดับหนึ่งเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ANAN และ BTS มีหลายโครงโครงการที่อยู่ระหว่างการศึกษาลงทุนร่วมกัน” นายชานนนท์ กล่าว

*ไตรมาส 4 ยอดโอนทะลัก

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง ANAN ว่า รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/2563 ที่ 292 ล้านบาท +25% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และดีกว่าไตรมาส 2/2563 ที่ขาดทุน 575 ล้านบาท โดยมีกำไรพิเศษจากการขายธุรกิจร้านค้าปลีกในคอนโดหลังหักภาษีจำนวน 237 ล้านบาท ซึ่งหากไม่รวมรายการดังกล่าวจะมีกำไรปกติ 56 ล้านบาท ลดลง 77% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ดีกว่าไตรมาส 2/2563 ที่ผลการดำเนินงานปกติขาดทุน 15 ล้านบาท และใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด

ทั้งนี้ กำไรปกติฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาส 2/2563 เนื่องจากมีคอนโดใหม่เริ่มโอนในช่วงปลายเดือนกันยายน 5 โครงการ ซึ่งจะไปโอนเต็มทีในงวดไตรมาส 4/2563 ขณะที่กำไรปกติลดลง จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากฐานสูงในปีก่อน สำหรับรวมงวด 9 เดือน 2563 ยังมีผลขาดทุนสุทธิ 132 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่กำไร 586 ล้านบาท ส่วนผลการดำเนินงานปกติขาดทุน 94 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่กำไร 594 ล้านบาท

ปรับกำไรสุทธิปี 2563 ขึ้นจากเดิม 50% เป็น 268 ล้านบาท ลดลง 62% จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากการรับรู้กำไรพิเศษในงวดไตรมาส 3/2563 ส่วนกำไรปกติคาดการณ์ที่ 306 ล้านบาท ลดลง 52% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยยังคงประเมินกำไรสุทธิ ไตรมาส 4/2563 จะปรับตัวดีขึ้นโดดเด่น เนื่องจากคอนโดใหม่ที่เริ่มโอนในช่วงปลายไตรมาส 3/2563 จำนวน 5โครงการจะโอนมากขึ้นในงวดไตรมาส 4/2563 สำหรับกำไรสุทธิปี 2564 ยังคงประเมินที่ 776 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 190% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ดีขึ้นจากจากฐานต่ำ จากภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่าจะฟื้นตัว โดยจะเป็นการโอนโครงการเดิมเป็นหลัก

รวมสิทธิส่งเสริมคุณภาพชีวิต เกาะติดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทันเรื่องราวกระแสสังคม

สัมผัสประสบการณ์ข่าวได้ที่ แอปพลิเคชัน ทรูไอดี (ดาวน์โหลดเลยที่นี่!!)