ปูตินลงนามหลักการทัพเรือใหม่ ชี้ สหรัฐฯ เป็นภัยคุกคามหลัก

---ปูตินลงนามหลักการกองทัพเรือ---

การลงนามหลักการของกองทัพเรือรัสเซียที่มีการทบทวนใหม่นี้ เกิดขึ้นที่พิพิธภัณธ์ประวัติศาสตร์ของนครเซนต์ปีเตอรส์เบิร์ก ที่ป้องมปราการปีเตอร์และพอล ก่อนที่พิธีสวนสนามของกองทัพเรือรัสเซียจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ (31 กรกฎาคม) ที่ผ่านมา

ประธานาธิบดีปูติน ได้ลงนามกฎหมายเพื่ออนุมัติกฎบัตรใหม่ของกองทัพรัสเซีย

หลักการที่มีการทบทวนใหม่นี้ ระบุว่า ความท้าทายและภัยคุกคามหลักที่รัสเซียกำลังเผชิญในแง่ของการเดินเรือ คือ การที่สหรัฐฯ พยายามครอบงำมหาสมุทรทั่วโลก และการรุกล้ำโครงสร้างทางการทหารของนาโตมายังชายแดนรัสเซีย

ส่วนความท้าทายอื่น ๆ คือการที่ มีความพยายามโดยบางชาติที่จะเปลี่ยนกติกาทางกฎหมายที่มีอยู่แล้วในการกำกับเส้นทางทางทะเลและช่องแคบต่าง ๆ ตลอดจนเผยแพร่การก่อการร้าย โจรสลัด และลักลอบขนส่งสินค้าผิดกฎหมายในทะเลหลวง

ส่วนความเสี่ยงที่กองทัพเรือรัสเซียเผชิญ คือ การขาดการมีส่วนร่วมของเรือพาณิชย์รัสเซียในการขนส่งสินค้าของโลก การพึ่งพาการค้าด้วยการขนส่งสินค้าทางเรือ และท่อส่งใต้ทะเล การความบาตรจากนานาชาติ และการเกิดขึ้นที่ยากจะคาดเดาของโรคระบาดอันตราย ตลอดจนการที่รัสเซียยังขาดแคลนจุดหรือฐานทัพสำหรับการเติมเสบียง 

อย่างไรก็ตาม หลักการใหม่นี้ กล่าวถึงวิสัยทัศน์ในการสร้างโครงสร้างดังกล่าวในทะเลแดง 

สำหรับเป้าหมายสูงสุดของรัสเซีย คือ การพัฒนาบทบาทให้เป็นชาติทรงพลังด้านกองทัพเรือ และเน้นยจุดยืนนี้ต่อชาติอื่น ๆ โดยจะมีการขยายกองเรือสำหรับการพาณิชย์และสำหรับกองทัพเรือ ตลอดจนการสร้างเรือบรรทุกเครื่องบินเพิ่ม

--- ทัพเรือรัสเซียพร้อมประจำการขีปนาวุธ Zircon เร็ว ๆ นี้---

การลงนามดังกล่าว มีขึ้นในวันเดียวกันกับการสวนสนามของกองทัพรัสเซีย ซึ่งประธานาธิบดีปูติน ยังประกาศว่า ขีปนาวุธร่อนความเร็วเหนือเสียง Zircon จะเข้าประจำการในอีกไม่กี่เดือนนี้ 

ขีปนาวุธ Zircon มีการทดสอบครั้งแรกในปี 2020 เป็นขีปนาวุธที่ยิงจากเรือผิวน้ำ มีพิสัยยิงไกลราว 1,500 กิโลเมตร และสามารถเคลื่อนที่ได้เร็ว 9 เท่าของเสียง 

ผู้นำรัสเซียยังกล่าวว่า ไม่มีอุปสรรคใดที่จะสามารถยับยั้งขีปนาวุธ Zircon ได้ และเรือลำแรกที่จะมี Zircon ไปประจำการคือเรือฟริเกต Admiral Gorshkov 

ปูตินยังกล่าวด้วยว่า รัสเซียจะปกป้องผลประโยชน์ทางทะเลอย่างเด็ดเดี่ยวและด้วยแสนยานุภาพที่มีทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ปูตินไม่ได้กล่าวถึงสถานการณ์ในยูเครนขณะกล่าวสุนทรพจน์ในวันกองทัพเรือแต่อย่างใด

---รัสเซียย้ำ หลักการทัพเรือไม่มีเป้าหมายเพื่อการเผชิญหน้า---

ทั้งนี้ หลักการของกองทัพเรือรัสเซียมีขึ้นครั้งแรกในปี 2001 โดยในฉบับก่อนหน้าในปี 2015 นี้ มีการปรับแก้โดยกล่าวถึงการขยายอิทธิพลของนาโต และการเข้าครอบครองแคว้นไครเมียไปแล้ว และกำหนดให้รัสเซียต้องเพิ่มกองเรือในอาร์กติก ทะเลดำ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และมหาสมุทรแอตแลนติก

สำหรับการปรับยุทธศาสตร์ล่าสุดนี้ ยูริ บอริซอฟ อดีตรองนายกรัฐมนตรีรัสเซียเคยกล่าวเมื่อเดือนพฤษภาคมว่า ปฏิบัติการทางทหารในยูเครน และสงครามไฮบริดเต็มรูปแบบนี้ที่ชาติตะวันตกใช้ต่อรัสเซีย ทำให้รัสเซียตระหนักได้ว่า การสร้างแสนยานุภาพเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติในมหาสมุทรโลกนั้นเป็นเรื่องจำเป็น 

รัสเซียได้ปรับหลักการของกองทัพเรือใหม่ โดยพิจารณาจากการเปลี่ยนแปลงของภูมิรัฐศาสตร์และสถานการณ์ทางยุทธศาสตร์การทหารของโลก

บอริซอฟยังกล่าวด้วยว่า หลักการใหม่นี้ ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อการเผชิญหน้า แต่ต้องการยกระดับความมั่นคงทางทะเล และลดการพึ่งพาปัจจัยภายนอกและสภาพตลาดของกองทัพรัสเซียมากกว่า

ด้านอนาตอล ลีเวิน นักวิจัยด้านรัสเซียและยุโรป ที่สถาบัน Quincy Institute of Responsible Statecraft กล่าวกับสำนักข่าว Al Jazeera ว่า กองทัพเรือรัสเซียอาจประสบความยากลำบากในการแข่งกับกองเรือสหรัฐฯ และนาโตในแง่ของจำนวน 

แต่สิ่งที่รัสเซียมีมากพอ ๆ กับสหรัฐฯ คือ อาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งประธานาธิบดีปูตินได้เน้นย้ำเรื่องนี้มาตลอดด้วยเช่นกัน เพราะเป็นเรื่องที่รัสเซียยังเป็นมหาอำนาจอยู่

————

แปล-เรียบเรียง: ธันย์ชนก จงยศยิ่ง

ภาพ: Reuters