LINE MAN ชี้ "คนละครึ่งพลัส" ดันยอดขายโต 5 เท่า

คุณยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai เผยสถิติโครงการคนละครึ่งบนระบบ ฟู้ด เดลิเวอรี รอบก่อนหน้านี้ พบว่ามีร้านค้าเข้าร่วมโครงการมากกว่า 100,000 ราย และในจำนวนนี้ กว่าร้อยละ 60-70 ของร้านค้าที่ร่วมโครงการ เลือกขายบนแพลตฟอร์ม LINE MAN  นอกจากนี้ กว่าร้อยละ 90 ของยอดการใช้สิทธิคนละครึ่งบนแพลตฟอร์มเดลิเวอรีทั้งหมด ยังเกิดขึ้นบน LINE MAN สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำตลาดและความเชื่อมั่นทั้งจากร้านค้าและผู้บริโภค ที่สำคัญ โครงการคนละครึ่ง ยังช่วยผลักดันยอดขายของร้านค้าให้เติบโตขึ้นได้จริง โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1-5 เท่า และมีบางร้านค้า เติบโตได้สูงถึง 16 เท่า

คุณยอด คาดว่า คนละครึ่งพลัสในครั้งนี้ จะยังคงคึกคัก และน่าจะคึกคักมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งบริษัทฯ ได้อัดงบการตลาดมากถึง 300 ล้านบาท ผ่านแคมเปญต่างๆ ขณะเดียวกัน ยังช่วย Up-Skill และ Re-Skill ร้านค้าเพิ่มเติม โดยร่วมกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ Depa ให้ความรู้เกี่ยวกับการทำบัญชีรายรับรายจ่าย และการใช้เทคโนโลนีอย่างซอฟต์แวร์จัดการร้าน (POS) เพื่อส่งเสริมให้ร้านค้าเติบโต และปูทางไปสู่การเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ดีขึ้น

ด้านผู้ประกอบการร้านอาหาร มีมุมมองที่สอดคล้องกัน ทั้งเชื่อว่าคนละครึ่งพลัส บนแพลตฟอร์มเดลิเวอรี คือ โอกาสสำหรับร้านค้ารายย่อยในการเพิ่มยอดขาย และสร้างตัวตนให้เป็นที่รู้จัก และต่อยอดการเติบโตในอนาคต

คุณ คุณฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย บอกว่า ยอดขายของร้านอาหารย่ำแย่ต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนเมษายน คนละครึ่งพลัส จึงเป็นเหมือนสเตียรอยด์ ที่ฉีดแล้วเศรษฐกิจฐานรากจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วในช่วง 2 เดือน และการมีคนละครึ่งพลัส บนแพลตฟอร์มเดลิเวอรี ยังช่วยเพิ่มช่องทางการขายให้กับร้านค้า ให้มียอดขายที่ดีขึ้น 

ส่วนคุณ คุณาพงศ์ เตชวรประเสริฐ กูรูร้านอาหาร เจ้าของเพจขายดีไปด้วยกัน ได้เล่าถึงเสียงสะท้อนของร้านค้าทั่วประเทศ โดยบอกว่า ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการมาก่อนหน้านี้แล้ว ยืนยันว่าโครงการนี้ช่วยเพิ่มยอดขายและช่วยเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ได้จริง แม้จะมีความกังวลเรื่องภาษีย้อนหลัง แต่ยังเชื่อว่าโครงการนี้คือโอกาสที่ดี 

ขณะที่รายใหม่ พบว่ายังมีความลังเลในการตัดสินใจ เนื่องจากประเด็นเรื่องภาษีเช่นกัน แต่ส่วนตัวแล้ว ในฐานะเป็นผู้ประกอบการร้านอาหาร มองว่าการเสียภาษีไม่ใช่อุปสรรค แต่กลับเป็นโอกาสในการยกระดับธุรกิจให้เติบโตยั่งยืน เพราะการอยู่ในระบบภาษีช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและต่อยอดสู่การขยายกิจการในอนาคต

และอีกหนึ่งเสียงสะท้อนจาก คุณ ธนันท์รัท เกื้อหนุน เจ้าของร้านตำยำยั่ว by โบตั๋น บอกว่า โครงการคนละครึ่งถือเป็นความหวังของผู้ประกอบการ เพราะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น และการมีเดลิเวอรีด้วยนั้น ยังช่วยลดความแออัดของหน้าร้านลง และสร้างโอกาสเพิ่มยอดขายได้ดีขึ้นอีก เขาบอกด้วยว่า จากการเข้าร่วมโครงการฯ ไปครั้งก่อนหน้า ช่วยให้ทางร้านมียอดขายเติบโตขึ้นได้ 2-3 เท่า ทั้งยังเป็นที่รู้จักและมีตัวตนมากขึ้น 

สำหรับโครงการคนละครึ่งพลัส ฟู้ด เดลิเวอรี จะเปิดลงทะเบียนร้านค้า เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านแอปถุงเงิน ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 โดยร้านค้าสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 นาฬิกา และร้านค้าจะสามารถเลือกเข้าร่วมโครงการได้เพียงแพลตฟอร์มเดียวจากนั้นจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน ซึ่งร้านค้าสามารถรับออเดอร์ได้ตั้งแต่ เวลา 06.00-21.00 นาฬิกา ของทุกวัน และจะสิ้นสุดโครงการ ในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 รับออเดอร์ได้ถึงเวลา 21.00 นาฬิกา

สำหรับ LINE MAN ได้มีแคมเปญพิเศษในโครงการคนละครึ่งพลัสรอบนี้ เช่น ร้านค้าที่ลงทะเบียนกับ LINE MAN ในวันที่ 3 พฤศจิกายน จะได้รับสิทธิ ค่า GP ที่ร้อยละ 7 สำหรับออเดอร์คนละครึ่งพลัส จนจบโครงการ แต่หากลงทะเบียนหลังจากวันที่ 3 ไปนั้น จะได้รับสิทธิค่า GP อยู่ที่ร้อยละ 9 จนจบโครงการ ,ขยายระยะทางส่งฟรีเป็น 5 กิโลเมตร ,สื่อโฆษณา ณ จุดขาย (POSM) เพื่อให้ลูกค้าทราบว่าร้านสามารถสั่งผ่านโครงการ "คนละครึ่งพลัส" ได้ และส่วนลดค่าบริการระบบจัดการร้านอาหาร (POS) สูงสุด 8,000 บาท เป็นต้น ส่วนไรเดอร์จะมีการเพิ่มเงินอัดฉีดในไรเดอร์เพื่อรองรับปริมาณงานที่มากขึ้น