วิจัยพบการนอนในเด็กวัยรุ่นแย่ลง! เพราะใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนเวลานอน

งานวิจัยชี้เด็กๆ มักมีคุณภาพการนอนแย่ เหตุใช้สมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ในช่วงเวลานอนตอนกลางคืน
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Southern Denmark ได้ศึกษางานวิจัยที่ตีพิมพ์แล้วทั้งหมด 49 ชิ้นในระหว่างปี 2009 - 2019 เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบการนอน กับการใช้อุปกรณ์สื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ รวมทั้งชนิดและระยะเวลาด้วย นอกจากนี้ ยังพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ช่วงเวลานอน การเริ่มต้นการนอน คุณภาพการนอน การตื่นนอนในช่วงกลางคืน รวมถึงระยะเวลาการนอนและความเหนื่อยล้าในช่วงกลางวัน
นักวิจัย พบว่า การใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มีส่วนสัมพันธ์กับการนอนที่ล่าช้า และคุณภาพการนอนที่ย่ำแย่ ในเด็กอายุ 6 - 12 ปี ในขณะที่เด็กอายุ 13 - 15 ปี มักมีปัญหาการง่วงนอน
งานวิจัยระบุว่า เด็กในกลุ่มอายุ 6 - 15 ปีมักมีอาการดังกล่าว เพราะพวกเขามักเล่นวิดีโอเกม คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต และดูโทรทัศน์ในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นประจำ ขณะที่เด็กอายุต่ำกว่านั้น มักจะดูโทรทัศน์และเล่นแท็บเล็ต
เด็กๆ ในทุกกลุ่มอายุ มักสัมผัสกับแสงสีฟ้าจากหน้าจออุปกรณ์ ซึ่งอาจส่งผลต่อการผลิตฮอร์โมน “เมลาโทนิน” ซึ่งทำหน้าที่ในการควบคุมการนอน และนำไปสู่ระยะเวลาการนอนที่ไม่ได้คุณภาพ อีกทั้งไปรบกวนวงจรการตื่นและการนอนตามธรรมชาติอีกด้วย
ทั้งนี้ นักวิจัยแนะนำว่าผู้ปกครองควรควบคุม การใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เพื่อปรับปรุงคุณภาพการนอนและหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อสุขภาพ
“การใช้สื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ มีผลทำให้คุณภาพการนอนของวัยรุ่นแย่ลง เนื่องจากสื่อปฏิสัมพันธ์ (interactive media) อาจไปกระตุ้นมากเกินไป และเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขาเผชิญกับปัญหาการนอนน้อย” นักวิจัย ระบุ
สำหรับระยะเวลาการนอนที่เหมาะสมของเด็กแต่ละช่วงวัย คือ
ทารกอายุ 4 - 12 เดือน = 12 - 16 ชั่วโมง
อายุ 1 - 2 ปี = 11 - 14 ชั่วโมง
อายุ 3 - 5 ปี = 10 - 15 ชั่วโมง
อายุ 6 - 12 ปี = 9 - 12 ชั่วโมง
อายุ 13 - 18 ปี = 8 - 10 ชั่วโมง
—————
ที่มา:
- ระบบบริการสาธารณสุขแห่งชาติ ประเทศอังกฤษ (NHS)
- https://www.dailymail.co.uk/.../Children-use-electronic...
- https://www.nhs.uk/.../sleep.../how-much-sleep-do-kids-need/