เจ้าของร้านงง ส่งมือถือ แต่ลูกค้าได้ก้อนอิฐ พบพิรุธเพียบ โร่แจ้งความ
เจ้าของร้านขายมือถือแจ้งความ หลังส่งมือถือทางพัสดุ แต่ลูกค้าโวยได้รับก้อนอิฐ พร้อมเรียกร้องให้ชดใช้เงินคืน ตรวจสอบพบพิรุธ ส่วนลูกค้าที่สั่งก็ใช้เฟซปลอม
วันที่ 20 ต.ค. 63 นายศราวุธ จิตตวิวัฒนา และ น.ส.วิริษฐา ฉายวิมล สองสามีภรรยา เจ้าของร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ หลังจากมีลูกค้าอ้างว่าทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.สุรินทร์ ติดต่อผ่านเฟซบุ๊กมาซื้อโทรศัพท์มือสองที่ร้าน ซึ่งตกลงซื้อไอโฟน xs max สีทอง ในราคา 19,500 บาท
โดยลูกค้าเลือกแบบเก็บเงินปลายทาง จึงคิดค่าบริการเพิ่มอีก 300 บาท รวมเป็น 19,800 บาท จากนั้นทางร้านก็ทำการแพ็กมือถือเครื่องดังกล่าว ตามที่ลูกค้าตกลงซื้อ แล้วให้ลูกน้องนำไปส่งที่บริษัทขนส่งสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองบุรีรัมย์
ต่อมา เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. วัน 17 ต.ค. ที่ผ่านมา ลูกค้าขอให้ส่งใบเสร็จไปให้ด้วย แต่พอวันต่อมาลูกค้าแชทมาต่อว่าทางร้านว่า ทำไมถึงส่งก้อนอิฐมาให้ พร้อมแสดงความไม่พอใจและเรียกร้องให้ทางร้านชดใช้เงินค่าโทรศัพท์คืนให้
ซึ่งทางเราก็ตกใจและรู้สึกงงมาก ว่าทำไมลูกค้าถึงได้รับก้อนอิฐแล้วมือถือที่ส่งให้หายไปไหน จึงบอกให้ลูกค้าถ่ายรูปกล่องสินค้าส่งกลับมาให้ดู ลูกค้าก็บอกว่าบังเอิญตอนที่เปิดสินค้าดูได้ถ่ายคลิปเก็บไว้พอดี จึงขอให้ส่งมาให้ดู แต่พอดูคลิปพบว่ากระดาษกาวที่ปิดรอบกล่องไม่ใช่ที่ทางร้านใช้ เหมือนกับว่ากล่องถูกแกะแล้วใช้เทปกาวอันใหม่ปิด จึงบอกให้ลูกค้าใจเย็น ๆ ก่อนทางร้านจะช่วยตรวจสอบให้
จากนั้นทางร้านจึงขอตรวจสอบข้อมูลกับทางบริษัทขนส่งที่ส่งสินค้า ทางบริษัทให้ดูภาพจากกล้องวงจรปิด ปรากฏว่ามีชายปริศนาซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใคร เข้าไปแจ้งยกเลิกสินค้าของทางร้านที่จัดส่งไปให้กับลูกค้า แต่ทางพนักงานกลับไม่ได้ขอดูบัตรประชาชนของชายปริศนาที่มาแจ้งยกเลิกสินค้า
ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วการส่งสินค้าหรือแจ้งยกเลิกสินค้าจะต้องขอดูบัตรประชาชน แล้วบันทึกไว้ว่าใครเป็นคนมาแจ้งยกเลิก และจะต้องแสดงใบเสร็จให้พนักงานดูด้วย แล้วจู่ ๆ พนักงานก็เซ็นต์ยกเลิกสินค้าโดยที่ไม่ตรวจสอบเลย
ทางร้านก็เริ่มเอะใจถึงความผิดปกติหลายๆ อย่าง จึงตรวจสอบไปยังเฟซบุ๊กของลูกค้าอีกรอบ กลับพบว่าเป็นเฟซบุ๊กปลอมที่เพิ่งเปิดใช้ไม่นาน และลูกค้าไม่ได้ทำงานในโรงพยาบาลตามที่กล่าวอ้าง ที่สำคัญหากลูกค้าได้รับก้อนอิฐจริงทำไมถึงไม่ไปแจ้งความ แล้วทางร้านพยายามติดต่อไปให้มาเจอกันที่ร้านหรือที่โรงพัก เพื่อจะได้เจรจาตกลงกันเรื่องที่ไม่ได้รับสินค้า ลูกค้ากลับบ่ายเบี่ยงอ้างว่าไม่สะดวกซึ่งผิดปกติของผู้เสียหายทั่วไป
อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทางบริษัทขนส่งดังกล่าว ช่วยตรวจสอบด้วยว่ามือถือที่ส่งไปถึงปลายทางกลายเป็นก้อนอิฐได้ยังไง แล้วชายปริศนาที่ไปแจ้งยกเลิกสินค้าเป็นใคร ตอนนี้โทรศัพท์มือถืออยู่กับใคร เพราะทางร้านได้รับความเสียหายเพราะมูลค่ามือค่อนข้างสูงเกือบ 2 หมื่นบาท
ทั้งเกรงว่าอาจจะมีการทำเป็นขบวนการหรือไม่ แล้วต่อไปใครจะกล้าใช้บริการส่งสินค้ากับบริษัทขนส่งอีก ก็อยากฝากเตือนคนที่ขายสินค้าออนไลน์ที่จำเป็นต้องใช้บริการขนส่งสินค้าลักษณะนี้ ก็ต้องรอบคอบและระมัดระวังให้มากขึ้นด้วย