ในช่วงที่ยุคนี้คนเริ่มหันมาอ่าหนังสือกันเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นวันนี้อยากจะมาแนะนำหนังสือที่จะมาช่วยสร้างความ Productive และ ฮีลใจกันเล่มแรก Manifest 7 ขั้นตอนสู่สิ่งที่ปรารถนา หนังสือ Manifest 7 ขั้นตอนสู่สิ่งที่ปรารถนา จะพูดเกี่ยวกับการตั้งจิตดลบันดาล ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน ซึ่งหลังจากที่ได้อ่านเล่มนี้ ทำให้ได้แง่คิดมากมาย เช่นการตั้งจิตดลบันดาล เราควรจะตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนโดยปราศจากความกลัวและความกังวล ให้เราคิดเพียงแค่ว่าหากโลกนี้ไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ หรือทุกอย่างบนโลกใบนี้ล้วนแล้วสามารถเกิดขึ้นอย่างง่ายดาย ให้เราลองตั้งเป้าหมายว่าเราอยากจะเป็นอะไร อยากจะเป็นแบบไหนหัดชมตัวเอง พูดถึงตัวเองในสิ่งที่ดีในเป็นนิสัย ทำไมเราถึงต้องพูดชมตัวเองในเป็นนิสัย นั่นก็เพราะว่า การพูดชมตัวเองนั้นเป็นสิ่งที่ยากกว่าการพูดกล่าวโทษตัวเอง ประโยคที่ชื่นชอบที่สุดในหนังสือเล่มนี้ คือ การฝึกรักตัวเอง คือ พลังขับเคลื่อนเบื้องหลังพลังจิตดลบันดาล หมายถึง การรักตัวเองถือเป็นขั้นพื้นฐานของสิ่งต่างๆ บนโลกใบนี้ เมื่อเรารักตัวเอง เราจะไม่ปล่อยตัวเองให้ต้องเจอกับพลังลบหรือสิ่งที่บั่นทอนจิตใจ เราจะสามารถโอบรับกับทุกสิ่ง ถ้าเรารักตัวเองเราจะลอยเหนือความกลัว ความกังวล เพราะการรักตัวเองจะเป็นพลังให้เราเอาชนะทุกสิ่งและทำให้เรามั่นใจในแบบที่เราเป็น "ไม่มีของขวัญใดที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่าการรักตัวเอง"บางครั้งเราอาจจะหวาดกลัวที่จะเริ่มสิ่งใหม่ ไม่มีความมั่นใจในตัวเองเพราะเรามัวแต่หวาดกลัวความล้มเหลว ดังนั้นหากเราอยากทำอะไร อยากเป็นสิ่งใด เราก็แค่แกล้งทำมันไปจนเกิดความเคยชิน เพราะสุดท้ายเราก็ยังได้ลงมือทำมัน เล่มต่อมา คือ Zero Reset Magic ศิลปะแห่งการรีเซตจิตใจ เป็นอีกหนึ่งเล่มที่เราอยากจะแนะนำให้อ่านมากๆ เพราะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เรารู้ดาวน์ หนังสือเล่มนี้เป็นหนึ่งในเล่มที่ฮีลใจเราขึ้นมาได้มากพอสมควรเลยในเล่มนี้มีหลายประโยคที่เมื่อเราได้อ่านแล้วมันสร้างพลังใจให้เราพอสมควร เช่นเราทุกคนล้วนมีความฝัน ไม่ว่าจะฝันสิ่งใด หรือฝันอยากมีสิ่งใด เราลองย้อนกลับมาถามตัวเองอีกสักครั้งกับความฝันนั้น เราเชื่อมั่นหรือไม่ว่าวความฝันนั้นมันจะเกิดขึ้นจริงได้มั้ย เราต้องการมันจริงหรือไม่สิ่งสำคัญที่สุดของการรีเซตพลังงาน คือ การรักษาความรู้สึกดีหรือความสบายใจของตัวเอง เพราะความรู้สึกดีต่อตัวเองจะเป็นกุญแจที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงตัวเองบางวันเราอาจจะเจอสิ่งที่ดี 90 เปอร์เซ็นต์ เจอเรื่องแย่ 10 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นเราอย่าเอา 10 เปอร์เซ็นต์ที่เจอเรื่องแย่มาทำลาย 90 เปอร์เซ็นต์ที่เราได้รับ เราสามารถสร้างกำลังใจตัวเองได้จากเรื่องดีถึงแม้ว่ามันจะเล็กน้อย แต่มันก็คือความสุขเล็กน้อยที่เราได้รับประโยคที่ชอบมากที่สุดในเล่มนี้ คือ การที่เราทำไม่ได้ มันไม่ใช่เรื่องแย่ แต่ที่แย่ว่า คือ ความคิดของเราที่คิดว่า "ถ้าเราทำไมได้ คือ เราไม่ได้เรื่อง" ไม่ว่าเราจะทำได้แค่ไหน มันจะเป็นตามสิ่งที่เราคิดหรือไม่เป็นตามสิ่งที่เราคิด แต่สุดท้ายเราก็ได้ลงมือทำเต็มที่แล้วและนี่ก็เป็น 2 เล่มที่เรารู้สึกว่าอยากจะแนะนำให้ทุกคนได้ลองอ่านกัน รับรองว่าจะทำให้ทุกคนตกหลุมรักหนังสือเล่มนี้แน่นอน แม้ในวันที่เราเจอเรื่องร้ายๆ อย่างน้อยก็มีหนังสือดีๆ ที่คอยเป็นกำลังใจให้เราภาพถ่ายโดยผู้เขียน