Metaphor: ReFantazio คือผลงาน RPG ล่าสุดจาก Studio Zero ผู้สร้างซีรีส์ Persona อันโด่งดัง หลังจากที่แฟนๆ รอคอยกันมานาน ในที่สุดเกมนี้ก็ได้ฤกษ์วางจำหน่าย และแน่นอนว่าตัวผมเองก็เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ตั้งตารอคอยเกมนี้อย่างใจจดใจจ่อ หลังจากที่ได้สัมผัสกับโลกแห่ง ReFantazio เป็นเวลากว่า 80 ชั่วโมง ผมพร้อมแล้วที่จะมาแบ่งปันประสบการณ์และความรู้สึกที่ได้รับจากการเล่นเกมนี้ เนื้อเรื่องที่เข้มข้นและเต็มไปด้วยปริศนา เรื่องราวใน Metaphor: ReFantazio เกิดขึ้นในโลกแฟนตาซีอันงดงาม ที่ซึ่งเวทมนตร์และสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติล้วนมีอยู่จริง ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นเด็กหนุ่มไร้ชื่อ ผู้สูญเสียความทรงจำ และต้องออกเดินทางค้นหาตัวตนที่แท้จริงของตนเอง พร้อมกับไขปริศนาเบื้องหลังโลกแห่ง ReFantazio สิ่งที่ทำให้เนื้อเรื่องของเกมนี้น่าติดตาม คือ การผสมผสานระหว่างธีมแฟนตาซีแบบคลาสสิก กับประเด็นทางสังคมที่สะท้อนปัญหาในโลกความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งชนชั้น การกดขี่ทางเชื้อชาติ และการแย่งชิงอำนาจ ซึ่งถูกนำเสนอผ่านตัวละครที่มีมิติ มีความซับซ้อนทางอารมณ์ และมีแรงจูงใจที่แตกต่างกันไป ยิ่งไปกว่านั้น เนื้อเรื่องยังเต็มไปด้วยปริศนาและจุดหักมุม ที่ทำให้ผู้เล่นคาดเดาไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป และต้องติดตามอย่างใจจดใจจ่อจนถึงวินาทีสุดท้าย ระบบการต่อสู้ที่ลุ่มลึกและท้าทาย ระบบการต่อสู้ของ Metaphor: ReFantazio เป็นแบบ Turn-Based ที่ผสมผสานความเป็น Action เข้าไป โดยผู้เล่นจะต้องควบคุมตัวละคร โจมตี และหลบหลีกการโจมตีของศัตรู เพื่อสะสมเกจ ก่อนที่จะเข้าสู่โหมด Turn-Based จุดเด่นของระบบการต่อสู้อยู่ที่ ระบบ Archetype ซึ่งเป็นเสมือนอาชีพของตัวละคร โดยผู้เล่นสามารถเลือก Archetype ให้กับตัวละครแต่ละตัวได้อย่างอิสระ และแต่ละ Archetype ก็จะมี Skill และความสามารถที่แตกต่างกันไป นอกจากนี้ เกมยังมีระบบ Persona ที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับตัวละคร และมี Skill ที่หลากหลาย ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ได้ โลกอันกว้างใหญ่และมีชีวิตชีวา โลกใน Metaphor: ReFantazio มีความกว้างใหญ่ เต็มไปด้วยสถานที่ที่น่าสนใจให้สำรวจ ไม่ว่าจะเป็นเมือง หมู่บ้าน ป่า ภูเขา และดันเจี้ยน แต่ละสถานที่ ก็จะมีบรรยากาศ และเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป และยังมี NPC มากมาย ที่ผู้เล่นสามารถพูดคุย และทำเควส เพื่อรับรางวัล กราฟิกสวยงาม ดนตรีประกอบอลังการ Metaphor: ReFantazio มาพร้อมกับกราฟิกสไตล์อนิเมะ ที่สวยงาม มีรายละเอียด และสีสันสดใส ตัวละครถูกออกแบบมาอย่างมีเอกลักษณ์ และมีเสน่ห์ ส่วนดนตรีประกอบ ก็ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งเพลงประกอบฉาก และเพลงประกอบการต่อสู้ ล้วนช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่น และสร้างบรรยากาศให้กับเกมได้เป็นอย่างดี ประสบการณ์การเล่น ส่วนตัวผมรู้สึกประทับใจกับ Metaphor: ReFantazio มาก เนื้อเรื่องที่เข้มข้น ระบบการต่อสู้ที่สนุก โลกที่กว้างใหญ่ และกราฟิกที่สวยงาม ล้วนทำให้ผมรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกแห่ง ReFantazio จริงๆ ในช่วงแรกของการเล่น ผมอาจจะรู้สึกว่าเกมค่อนข้างยาก และต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจระบบต่างๆ แต่เมื่อเล่นไปสักพัก ก็จะเริ่มเข้าใจ และสนุกไปกับเกมได้อย่างเต็มที่ สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดในเกมนี้คือ เนื้อเรื่อง ที่ทำให้ผมรู้สึกอิน และอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ตัวละครแต่ละตัวก็มีเสน่ห์ และทำให้ผมรู้สึกผูกพัน นอกจากนี้ ผมยังชอบระบบ Archetype ที่ทำให้ผมสามารถปรับแต่งตัวละคร และวางแผนการต่อสู้ได้อย่างอิสระ โดยรวมแล้ว Metaphor: ReFantazio เป็นเกม RPG ที่ยอดเยี่ยม และคุ้มค่าแก่การเล่น หากคุณเป็นแฟนเกม JRPG หรือ Persona ผมขอแนะนำให้ลองเล่นเกมนี้ดู รับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวัง ข้อดี เนื้อเรื่องเข้มข้น น่าติดตาม: Metaphor: ReFantazio ไม่ได้นำเสนอโลกแฟนตาซีแบบทั่วๆ ไป แต่สอดแทรกประเด็นสังคม การเมือง และปรัชญา เข้าไปในเนื้อเรื่องอย่างแนบเนียน ทำให้ผู้เล่นได้ขบคิด และตั้งคำถามไปพร้อมๆ กับการดำเนินเรื่อง ตัวละครแต่ละตัวก็มีมิติ มีความเป็นมนุษย์ ไม่ใช่แค่ตัวละครแบบขาวดำ มีทั้งด้านดี และด้านที่ต้องแก้ไข ทำให้เนื้อเรื่องมีความสมจริง และน่าติดตาม ยิ่งไปกว่านั้น พล็อตเรื่องยังเต็มไปด้วยปริศนา และจุดหักมุมที่คาดเดาไม่ได้ รับรองว่าแฟนๆ ที่ชอบเนื้อเรื่องเข้มข้นจะต้องถูกใจอย่างแน่นอน ระบบการต่อสู้สนุก ท้าทาย: ระบบการต่อสู้แบบ Turn-Based ผสม Action ของ Metaphor: ReFantazio ทำให้การต่อสู้ไม่น่าเบื่อ และต้องใช้กลยุทธ์ ผู้เล่นต้องคิดวางแผน เลือกใช้ Skill และ Persona ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ระบบ Archetype ก็ทำให้ผู้เล่นมีอิสระในการปรับแต่งตัวละคร และสร้างทีมที่เข้ากับสไตล์การเล่นของตัวเอง นอกจากนี้ เกมยังมีระดับความยากให้เลือก ตั้งแต่ง่ายไปจนถึงยากมาก จึงเหมาะกับผู้เล่นทุกระดับ โลกสวยงาม มีชีวิตชีวา: โลกใน Metaphor: ReFantazio ถูกออกแบบมาอย่างประณีต มีรายละเอียด และเต็มไปด้วยเสน่ห์ ไม่ว่าจะเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนและร้านค้า ป่าที่อุดมสมบูรณ์และมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่ หรือดันเจี้ยนที่ซับซ้อนและอันตราย การสำรวจโลกจึงเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น และสนุกสนาน ยิ่งไปกว่านั้น NPC ในเกมก็มีบทบาทและเรื่องราวเป็นของตัวเอง ทำให้โลกดูมีชีวิตชีวาและสมจริง กราฟิกสวยงาม ดนตรีประกอบอลังการ: Metaphor: ReFantazio นำเสนอภาพในสไตล์อนิเมะที่สวยงาม มีเอกลักษณ์ ตัวละครและฉากต่างๆ ถูกออกแบบมาอย่างละเอียดและมีชีวิตชีวา ดนตรีประกอบก็ทำหน้าที่เสริมสร้างบรรยากาศให้กับเกมได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นเพลงที่ฟังแล้วรู้สึกผ่อนคลายในเมือง เพลงที่ตื่นเต้นเร้าใจในฉากต่อสู้ หรือเพลงที่เศร้าซึ้งในฉากดราม่า ข้อเสีย ช่วงแรกของเกมอาจจะยากและต้องใช้เวลาทำความเข้าใจ: Metaphor: ReFantazio มีระบบการต่อสู้ที่ค่อนข้างซับซ้อน มีทั้งระบบ Archetype, Persona และ Skill มากมาย ซึ่งผู้เล่นใหม่อาจจะต้องใช้เวลาทำความเข้าใจ และลองผิดลองถูกสักพัก กว่าจะคุ้นเคยและเล่นได้อย่างคล่องแคล่ว เหมือนกับตอนเริ่มเล่นเกม Persona ภาคแรกๆ ที่ระบบเยอะจนงง แต่พอเข้าใจแล้วจะสนุกมากครับ บางครั้งเกมอาจจะเนือยไปบ้าง: อย่างที่บอกไป Metaphor: ReFantazio มีเนื้อเรื่องที่เข้มข้น ซึ่งบางครั้งก็ต้องเล่าผ่านบทสนทนา หรือคัตซีนที่ค่อนข้างยาว ทำให้จังหวะของเกมอาจจะดูเนือยๆ ไม่เร้าใจเท่าเกมแอ็คชั่น โดยเฉพาะในช่วงกลางๆ ของเกมที่เน้นการสำรวจ และพูดคุยกับ NPC แต่หากคุณเป็นคนที่ชอบเสพเนื้อเรื่อง และดื่มด่ำกับบรรยากาศ ก็อาจจะไม่รู้สึกว่าเป็นข้อเสียก็ได้ สรุป Metaphor: ReFantazio เป็นเกม JRPG ที่ยอดเยี่ยม ที่ Studio Zero ได้ทุ่มเทสร้างสรรค์ออกมา เพื่อมอบประสบการณ์ ที่น่าจดจำ ให้กับผู้เล่น ด้วยเนื้อเรื่องที่เข้มข้น ระบบการต่อสู้ที่สนุก โลกที่สวยงาม และดนตรีประกอบที่อลังการ เกมนี้จึงเหมาะสำหรับผู้เล่นที่กำลังมองหาเกม JRPG คุณภาพสูง ที่สามารถเล่นได้นานหลายสิบชั่วโมง แม้ว่า เกมจะมีข้อเสียอยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้ว Metaphor: ReFantazio ก็เป็นเกมที่คุ้มค่าแก่การเล่น และเป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นเอก จาก Studio Zero ที่แฟนๆ JRPG ไม่ควรพลาด คะแนน 9.5/10 เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !