หนึ่งในประเทศที่ได้รับคำชมเรื่องการจัดการกับปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ COVID-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากคือประเทศเกาหลีใต้ ของประธานาธิบดีมุน แจ อิน ตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อที่ค่อย ๆ ลดลงเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ได้เป็นอย่างดี ความสำเร็จของเกาหลีใต้ในครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือของหลาย ๆ ฝ่าย รวมทั้งการใช้มาตรการเชิงรุกในการตรวจคัดกรอง การควบคุมเชื้อไวรัส รวมทั้งการระดมอุปกรณ์ทางการแพทย์ ระบบทางสาธารณสุข และการยกระดับแก้ไขปัญหาที่กระชับฉับไวทันต่อสถานการณ์ ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกาหลีใต้จัดการกับปัญหาโรคระบาดได้อย่างเป็นระบบนั้น เกิดจากบทเรียนเมื่อ 2 ปีก่อน ที่ต้องเผชิญกับปัญหาโรคระบาดที่มีชื่อว่าไวรัสเมอร์ส (MERS) ที่คราวนั้นเกาหลีใต้ไม่สามารถรับมือได้ ระบบการจัดการล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า กลายเป็นประสบการณ์เจ็บปวด ซึ่งก็ได้ส่งผลให้เกิดการปฎิรูประบบสาธารณสุขเกี่ยวกับการรักษาโรคทางเดินหายใจขนานใหญ่ และเกาหลีก็ได้นำบทเรียนในคราวนั้นมาปรับใช้กับวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ได้อย่างเห็นผล เกาหลีใต้ตั้งรับกับปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ COVID-19 ตั้งแต่แรก ๆ แม้ว่าในช่วงต้น จะมียอดผู้ป่วยสะสมสูงเป็นจำนวนหลักพัน จากกรณี Super Spreader ก็ตาม แต่ประธานาธิบดีมุน แจ อิน ก็ได้มีมาตรการให้สุ่มตรวจประชาชนเป็นจำนวนมากและเป็นวงกว้าง โดยผู้ที่ได้รับการสุ่มตรวจไม่จำเป็นต้องมีอาการ หรือมีความเสี่ยงในการติดเชื้อ พร้อมกับนำข้อมูลการตรวจทั้งหมดไปลงทะเบียนไว้ในฐานข้อมูลส่วนกลาง เรียกได้ว่าเป็นการปูพรมตรวจหาผู้ติดเชื้อกันเลย และยังได้นำแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ จัดทำระบบติดตามตัวผู้ติดเชื้ออย่างเคร่งครัด รวมทั้งสร้างระบบกักกันผู้ที่สัมผัสผู้ติดเชื้อ การเตรียมความพร้อมของรัฐบาล ทั้งการให้ความรู้และขอความร่วมมือจากประชาชน จนได้รับเสียงตอบรับมากมาย อีกปัจจัยที่ทำให้ประเทศเกาหลีใต้รับมือกับโรคไวรัส COVID-19 ได้ดีก็คือ ระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง มีการระดมกำลังผลิตอุปกรณ์ในการตรวจเชื้อ การผลิตอุปกรณ์ในการลดและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ สร้างโรงพยาบาลสนาม และสร้างสถานที่เฉพาะสำหรับผู้ติดเชื้อ การดำเนินการดังกล่าวสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที ทำให้มีอุปกรณ์ที่เพียงพอต่อการใช้งาน จึงทำให้ลดความเสี่ยงได้เป็นอย่างมาก นอกจากนั้น ยังมีการสื่อสารให้ความรู้ความเข้าใจถึงวิธีปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันโรคให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง รวมทั้งมีการติดตามทดสอบทักษะของประชาชนด้วยว่ามีความรู้ในการป้องกันตนเองได้จริงหรือไม่ และยังมีระบบการแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉินกับประชาชนในรายพื้นที่ (Area-based Emergency Alerts) รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ประกาศต่อสาธารณชนว่าการรับมือกับไวรัส COVID-19 นั้น นอกจากระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็งแล้ว การบริหารจัดการจะต้องโปร่งใส และให้ข้อมูลที่จริงใจและชัดเจนกับประชาชนมากที่สุด เพื่อให้ได้ความเชื่อใจกลับมาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะความเชื่อมั่นต่อกันนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่สุดของประเทศ รัฐบาลได้กระจายอำนาจจากส่วนกลางไปยังส่วนท้องถิ่นเพื่อรับมือกับปัญหา ตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจขึ้นมาร่วมมือกับศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลี (KCDC) และให้หน่วยงานของรัฐทั้งหมดร่วมมือกันเพื่อ Joined-up response ทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้นั้น เป็นเพราะความร่วมแรงร่วมใจกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน จนทำให้สามารถบริหารจัดการภายใต้วิกฤตการณ์ได้อย่างดีและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ขอบคุณภาพปก Martin Sanchez kremlin.ru ขอบคุณภาพประกอบ kremlin.ru / United States Mission Geneva / กรมควบคุมโรค / Martin Sanchez