รีเซต

เจโทรทุ่ม 60 ล้านเยน ส่งแคมเปญกระตุ้นคนไทยกินอาหารญี่ปุ่น หนุนร้านอาหารในไทยสั่งนำเข้าวัตถุดิบ

เจโทรทุ่ม 60 ล้านเยน ส่งแคมเปญกระตุ้นคนไทยกินอาหารญี่ปุ่น หนุนร้านอาหารในไทยสั่งนำเข้าวัตถุดิบ
ข่าวสด
3 กันยายน 2563 ( 16:18 )
173

 

นายอัทสึชิ ทาเคทานิ ประธาน องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร กรุงเทพฯ) เปิดเผยว่า เจโทรฯ ได้ใช้งบประมาณ 60 เยน สำหรับจัดแคมเปญ “Let’s eat JAPAN อาหารญี่ปุ่น! ยิ่งทานยิ่งสนุก! ยิ่งทานยิ่งอร่อย!” ระหว่างวันที่ 5 ก.ย.-14 ธ.ค.นี้ เพื่อประชาสัมพันธ์เสน่ห์ของวัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่น รวมทั้งเพื่อเผยแพร่ให้ร้านอาหารที่ได้รับการรับรองเครื่องหมาย “Japanese Food Supporter” เป็นที่รู้จักในวงกว้างในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันไทยเป็นประเทศที่มีสถิติการนำเข้าวัตถุดิบอาหารจากญี่ปุ่นสูงเป็นอันดับ 7 ของโลก

 

โดยในปี 2562 มีมูลค่าการนำเข้า 39,500 ล้านเยน และพบว่ามีร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยกว่า 3,637 ร้าน เพิ่มขึ้นจาก 3,004 ร้าน ในปีก่อนหน้า แต่อย่างไรก็ดี จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจไม่เพียงในไทยแต่ทั่วโลก ทำให้ในช่วงเดือนม.ค-มิ.ย. ไทยมีมูลค่าการนำเข้าวัตถุดิบอาหารจากญี่ปุ่นลดลง 4.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หรืออยู่ที่ 20,130 ล้านเยน แต่อย่างไรก็ดี เจโทรฯ ยังตั้งเป้าหมายให้ปีนี้ทั้งปีจะเติบโตกว่าปีที่แล้ว จึงทำให้เป็นที่มาของการจัดแคมเปญ “Let’s eat JAPAN” เพื่อหวังจะกระตุ้นให้เกิดการบริโภคอาหารญี่ปุ่น โดยเฉพาะช่วงนี้คนไทยยังไม่สามารถเดินทางไปญี่ปุ่นได้ แต่ยังสามารถทานอาหารญี่ปุ่นที่มีรสชาตใกล้เคียงกับที่ทานในประเทศญี่ปุ่นได้

 

ประธาน เจโทรฯ ประเทศไทย ยังกล่าวอีกว่า ด้วยผลกระทบของเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่เพียงแค่ไทยแต่กระทบทั่วโลก ทำให้เจโทรฯ ได้ทำการสำรวจบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย ผ่านหอการค้าญี่ปุ่น ในช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย. ว่าเกิดโควิด-19 แล้วจะยังทำธุรกิจในไทยต่อหรือไม่ โดยผลสำรวจมากกว่า 60% ยังคงมั่นใจที่จะดำเนินธุรกิจในไทย และเกิน 70% ยังคงมั่นใจว่าจะลงต่อและเพิ่มการลงทุนในไทย ซึ่งทั้งหมดยังสะท้อนว่าภาคเอกชนญี่ปุ่นยังมั่นใจเศรษฐกิจ สังคมและรวมถึงไม่มีความกังวลต่อการเมืองของไทยในขณะนี้ด้วย

 

ขณะเดียวกันเพื่อช่วยเหลือสนับสนุนธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทย ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์โควิด-19 เจโทรฯ จึงจัดแคมเปญดังกล่าว เพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นธุรกิจร้านอาหารให้กลับมาฟื้นตัวและส่งเสริมให้อาหารญี่ปุ่นได้รับความนิยมเพิ่มอย่างกว้างขวางมากขึ้น ในช่วงที่คนไทยยังไม่สามารถเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นได้ในขณะนี้

 

ทั้งนี้ แคมเปญ “Let’s eat JAPAN อาหารญี่ปุ่น! ยิ่งทานยิ่งสนุก! ยิ่งทานยิ่งอร่อย!” เป็นความร่วมมือของร้านอาหารที่ได้รับการรับรองเครื่องหมาย “Japanese Food Supporter” ในประเทศไทยจำนวนมากกว่า 150 ร้านค้า ที่นำเสนอเมนูที่ใช้วัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่น กับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ AIS และผู้ให้บริการจัดส่งอาหาร Gojek และ GrabFood เพื่อประชาสัมพันธ์เสน่ห์ของวัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่น รวมทั้งกระตุ้นธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทย โดยแคมเปญประกอบด้วย แคมเปญ ‘คุ้ม 3 ต่อ’ กับ “Let’s eat JAPAN อาหารญี่ปุ่น! ยิ่งทานยิ่งสนุก! ยิ่งทานยิ่งอร่อย!”

 

คุ้มที่ 1 “Share 555! - มอบส่วนลด 50% สำหรับเมนูที่เข้าร่วมแคมเปญให้กับลูกค้าเอไอเอส และเอไอเอส ไฟเบอร์” เมื่อรับประทานอาหารที่ร้าน ระหว่างวันที่ 16 ก.ย.-15 พ.ย.นี้ โดยมีจำนวน 58 ร้านค้าที่เข้าร่วมแคมเปญ ส่วนคุ้มที่ 2 “Share 555! - มอบโค้ดส่วนลดบนแอปพลิเคชันเดลิเวอรี่” ระหว่างวันที่ 16 ก.ย- 14 ธ.ค. นี้ สำหรับแอพพลิเคชัน Gojek จากจำนวนร้านค้าที่เข้าร่วม 42 ร้านค้า และวันที่ 14 ก.ย.-12 ธ.ค.นี้ สำหรับแอพพลิเคชัน GrabFood โดยมี 59 ร้านค้าที่เข้าร่วม และ คุ้มที่ 3 “Japan Diner 3000! - ประกวดภาพถ่ายอาหารจาก 516 ร้านค้าที่ได้รับเครื่องหมาย “Japanese Food Supporter” แล้วโพสต์ลง โซเชี่ยลมีเดีย ระหว่างวันที่ 5 ก.ย.- 27 พ.ย.นี้ เพื่อลุ้นรับรางวัลรับประทานอาหารญี่ปุ่นมูลค่า 3,000 บาท จากร้านดังจำนวน 36 ร้านค้า

 

ขณะเดียวกันหลังจากนี้เจโทรฯ ยังมีการจัดงานจับคู่ธุรกิจญี่ปุ่น-ไทย อีก 3-4 โครงการ อาทิเครื่องจักรด้านอาหาร เพื่อเพิ่มประสิทธิการผลิต รวมถึงหุ่นยนต์ที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรม และสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพ เพื่อสนับสนุนส่งเสริมภาคเอกชนญี่ปุ่น ในการทำธุรกิจในไทย และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจร่วมกันทั้งประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง