ในยุคนี้หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไป ไม่เว้นแม้แต่เรื่อง ชีวิตคู่ ที่ดูจะเป็นเรื่องที่หลายคนว้าวุ่นใจสับสน จนแทบจะเป็นปัญหาโลกแตกกับคำถาม อยู่ก่อนแต่ง VS แต่งก่อนอยู่ ว่าในยุคสมัยนี้ แบบไหนดีกว่ากัน? เรามักจะถูกสอนมาว่าต้อง แต่งงาน ให้เรียบร้อย เข้าตามตรอกออกตามประตูให้ถูกต้องกันเสียก่อนถึงจะใช้ชีวิตอยู่กินกันได้ แต่หันไปทางไหนกลับเจอแต่เพื่อนฝูงหลายคู่ที่อยู่กินกันอย่างเปิดเผย ค่านิยมเรื่องการแต่งงานเปลี่ยนไป แล้วชีวิตคู่ของเราล่ะจะเอาอย่างไรดี? แน่ละ.. มันเป็นเรื่องที่ทุกคนอยากรู้ ว่า ข้อดี-ข้อเสีย ระหว่าง แต่ง กับ ไม่แต่ง มันมีอะไรบ้าง จะได้เอาไปวางแผนชีวิตคู่กัน เรื่องแบบนี้คงไม่มีใครอยากพลาดหรอก จริงไหม?มาเริ่มกันที่ อยู่ก่อนแต่ง กันก่อนเลย ข้อดี ที่ผู้หญิง และผู้ชายหลายคนเลือกแนวทางนี้อย่างแรกเลยคือ อยากศึกษาคู่ชีวิต บางสิ่งบางอย่างถ้าไม่ใช้ชีวิตร่วมกันมันจะไม่เห็นข้อผิดพลาดของอีกฝ่าย เรื่องที่ดูเหมือนสุดแสนธรรมดาเช่นนอนกรนเสียงดัง , ความไม่เป็นระเบียบมักง่ายกับข้าวของในบ้าน , กิจกรรมชีวิตคู่ (เรื่องอย่างว่า) หรือนิสัยใจคอที่พอเราใช้ชีวิตร่วมกันทุกวัน ๆ เราจะเห็นทุกสิ่งทุกอย่างของอีกฝ่าย ถ้ามันไม่ดีหรือเลวร้ายจริง ๆ ก็เลิกกันในตอนที่ยังไม่แต่งงานนี่แหละ ดีกว่าลั่นระฆังวิวาห์ไปแล้ว เลิกกัน จะเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่าตอนยังไม่แต่ง สถานะ เคยแต่งงานแล้ว กับ เคยมีแฟนแล้ว มันต่างกันนะ.. ถ้ายังไม่แต่งเพื่อนฝูงยังแค่รับรู้ว่า “อ๋อ! เค้าเลิกกับแฟน” ยังมีออปชันให้เราแก้ตัว รอจน มั่นใจ จริง ๆ แล้วค่อยแต่ง ถ้ามันไม่ใช่ เคยมีแฟนแล้ว ย่อมหาคนใหม่ได้ง่ายกว่า เคยแต่งงานแล้ว ที่รูปงานแต่งจะตามเราไปตลอดยังมีอีกหลายเหตุผลเช่นหลายคู่ อยากให้ทุกอย่างพร้อม ถึงค่อยแต่งงาน ทั้งเรื่องการงาน , การเงิน , ความมั่นคงในชีวิต เมื่อทุกอย่างพร้อมถึงขีดสุด ใช้เวลาศึกษาคู่ชีวิตที่อยู่ร่วมกันจนมั่นใจ ค่อยตัดสินใจแต่งงานก็ยังไม่สาย หลังแต่งงานแล้วจะไปฮันนีมูนสักเดือนก็ทำได้ ก็มันพร้อมจนไม่ต้องห่วงอะไรแล้วนี่ ที่เหลือจากนี้คือใช้เงินที่เก็บมากับชีวิตหลังแต่งงานให้เต็มเหนี่ยว ทำทุกอย่างตามที่วางแผนไว้ได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องการแต่งไปแล้วโดยที่ชีวิตยังไม่พร้อม ยังต้องมีภาระมากมาย ไม่แปลกที่หลายคู่จะรอให้ทุกอย่างมัน พร้อม ก่อนดีกว่า แล้วค่อยตัดสินใจแต่งงาน จนถึงเหตุผลเรื่องการอยู่ด้วยกันโดยที่ยังไม่มีงานวิวาห์ มันไม่ถูกคาดหวังจากคนรอบข้าง ไม่ต้องคอยถูกตั้งคำถามว่าแต่งงานไปแล้วทำไมยังไม่มีบ้าน , มีรถ มีนู่นนี่สักที มันก็ย้อนกลับไปเหตุผลเมื่อสักครู่คือรอให้มันพร้อม อยู่ด้วยกัน ศึกษากันไปเรื่อย ๆ จึงเป็นทางเลือกของหลายคู่รักที่ยังไม่ตัดสินใจแต่งงานมาถึง ข้อเสีย ของการอยู่ก่อนแต่งมันก็มีนะ คือถ้าศึกษากัน อยู่ด้วยกันแบบนานนนน น.หนูล้านตัว นานมาก ๆ จากความสบายใจ มันจะกลายเป็น ความกดดัน เมื่อต้องถูกตั้งคำถามจากเพื่อนฝูง และผู้ใหญ่ว่าทำไม ยังไม่แต่งสักที และการยังไม่แต่งงานแบบถูกต้อง คุณก็ต้องทำใจนะว่าสมัยนี้มีคนมองว่า ไม่แต่งงาน = โสด โอกาสจะปวดหัวที่คนรักของเราจะมีคนมาจีบมันมีสูงกว่าการแต่งงานไปแล้ว ต้องมีความเชื่อใจกันสูงมาก และถ้าเสียเค้าไป ก็คือเสียไปแบบฟรี ๆ อยู่ด้วยกันก่อนแต่งมา 10 ปี สถานะของเราจะเสียเปรียบคำว่า สามีภรรยาตามกฎหมาย ที่แม้เค้าจะมาทีหลังเราแค่ 1 วัน ก็ไม่สามารถเรียกร้องสิทธิ์อะไรได้เลยมากันที่ แต่งก่อนอยู่ มันก็ย้อนกลับไปที่อ่านมาเมื่อสักครู่ การแต่งงานแบบถูกต้อง เป็นการประกาศต่อสาธารณะชนว่าเป็นคู่ชีวิตกันอย่างเปิดเผย ทะเบียนสมรส จะทำให้ได้สิทธิ์ต่าง ๆ มากมายเช่น สินสมรส หรือทายาทโดยชอบธรรม ถ้าเป็นข้าราชการด้วยจะยิ่งมีสิทธิ์กับคำว่า คู่สมรส และถือเป็นการเดินทางที่สิ้นสุดของความโสด ชีวิตหลังแต่งงานมันจะทำให้เกิดความรับผิดชอบ โอกาสที่จะถึงฟางเส้นสุดท้ายมีมากกว่ายังไม่แต่ง ก่อนจะถึงขั้นตอนของ การหย่า จะมีกระบวนการความคิดมากกว่า เพราะมันหมายถึงความล้มเหลวของชีวิตคู่เลย โอกาสที่จะคุยกันเอง หรือมีผู้ใหญ่มาเป็นกาวใจปรับความเข้าใจมีมากกว่าสถานะ แฟน ที่ผู้ใหญ่จะมองว่าเป็นเรื่องของเด็ก ความสัมพันธ์ของคู่รักจะเหนียวแน่น และในอนาคตเมื่อวุฒิภาวะสูงขึ้น มองย้อนกลับไปอาจจะคิดว่าในอดีตที่ทะเลาะกันจนเกือบจะเลิก คือเรื่องไร้สาระมากและการแต่งงานยังเป็นการเติมความฝันในชีวิต เป็นจุดเริ่มของครอบครัวที่สมบูรณ์พร้อมที่จะมีลูก ไม่ต้องกังวลกับสถานะของลูกที่จะเกิดมาเพราะเกิด โดยชอบธรรม และข้อดีอีกอย่างหนึ่งของการแต่งงานแล้วเราจะมีเวลาส่วนตัวให้กันมากขึ้น มีงานเลี้ยง , มีเพื่อนชวนออกทริปหลายวันแบบเราไม่อยากไป คำว่า “สามีนัดดูหนัง” , “วันนี้ภรรยาทำกับข้าวไว้แล้ว” มันมีน้ำหนักในการปลีกตัวมากกว่าแน่นอน เพราะทุกคนต่างรู้ว่าครอบครัวสำคัญกว่าไม่มีใครว่าหรือตำหนิ จะได้เอาเวลา มาเติมรักให้กัน ได้อย่างเต็มที่ แถมยังมีวันพิเศษ ครบรอบแต่งงาน ที่สุดแสนจะโรแมนติกเพิ่มขึ้นในปฏิทิน เริ่มลังเลกันแล้วใช่มั้ย..จะเห็นได้ว่า อยู่ก่อนแต่ง VS แต่งก่อนอยู่ ต่างมี ข้อดี-ข้อเสีย แตกต่างกัน คงไม่มีใครเข้าใจสถานะความรักของเราได้ดีกว่าตัวเราเอง องค์ประกอบ , ปัจจัยสภาพแวดล้อมชีวิตของทุกคนไม่เหมือนกัน มันไม่มีอะไรถูกอะไรผิด แต่สิ่งที่เป็นเรื่องผิดแน่ ๆ คือความไม่ซื่อสัตย์กับชีวิตคู่ ความไม่ทุ่มความใส่ใจให้กัน สิ่งที่อยากจะบอกคือ ความรัก สำคัญที่สุดในตัวมันเอง ถ้ารักกันเสียอย่างปัญหาอะไรมันก็ไม่เกิด อ่านบทความนี้จบแล้วถ้าเค้าอยู่ใกล้ ๆ อย่าลืมเดินเข้าไปกอดแล้วบอกรักกัน รับประกันว่าความรักของเราจะต้องยืนยาวอย่างแน่นอน และวันหน้ามาติดตามเรื่องราวดี ๆ แบบนี้กันได้อีกครับ 🤗..ภาพประกอบโดย ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5