‘อุตุฯ’ คาดปีนี้ไทยร้อนระอุ อุณหภูมิทะลุ 44 องศา
น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด จึงทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีผลกระทบระหว่างวันที่ 25-26 เมษายน 2563 ซึ่งมีลักษณะพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมถึงฟ้าผ่า และลูกเห็บตกบางพื้นที่ โดยจะทำให้ประเทศไทยตอนบนคลายความร้อนลง
สำหรับจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ ประกอบด้วย ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์ ถัดมาคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดเลย ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา และบุรีรัมย์ ภาคกลาง ได้แก่ จังหวัดสุพรรณบุรี อุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด และภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
น.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ประเมินว่า อุณหภูมิสูงสุดของปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 44 องศาเซลเซียส ซึ่งใกล้เคียงกับปีก่อน โดยอุณหภูมิสูงสุดขณะนี้อยู่ที่ 43.5 องศาเซลเซียส ที่จังหวัดตาก ในวันที่ 21 เมษายน 2563 แต่ทั้งนี้ต้องรอสรุปผลอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เพราะหลังสิ้นสุดพายุฤดูร้อนอุณหภูมิอาจจะเพิ่มสูงขึ้นอีกได้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ประเมินว่า วันที่ 27 เมษายน 2563 จะเป็นวันที่ร้อนที่สุดในรอบปี เนื่องจากดวงอาทิตย์ตั้งฉากกับกรุงเทพมหานคร แต่ด้วยอิทธิพลของพายุฤดูร้อนอาจทำให้วันดังกล่าวมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 36-38 องศาเซลเซียส
“หลังจากพายุฤดูร้อนอ่อนกำลังลง ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศร้อนโดยทั่วไป แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง โดยสภาพอากาศจะร้อนถึงร้อนจัดต่อเนื่องจนถึงช่วงกลางเดือนพฤษภาคมหรืออาจจะเร็วกว่านั้น ประเทศไทยก็จะเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการ โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบวันเวลาที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม แม้จะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ประเทศไทยก็ยังคงมีสภาพอากาศร้อนต่อเนื่องถึงเดือนมิถุนายน 2563 โดยอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 37-38 องศาเซลเซียส” น.อ.สมศักดิ์ กล่าว