ตชด.บุกรวบแก๊งค้ายา ยึด 1 แสนเม็ด ไอซ์อีกกิโลครึ่ง
เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ได้มีการเผยแพร่คลิปที่กเจ้าหน้าที่กองกำกับการ 4 กองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ( กก. 4 บก. สกส. บช.ปส. ) ร่วมกับ ตชด. 137 อ.สวนผึ้ง เข้าจับกุมคนร้ายในคดีค้ายาเสพติด ได้ที่บริเวณริมถนนเพชรเกษม ต.โคกหม้อ อ.เมือง จ.ราชบุรี เมื่อนที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา พร้อมนำตัวไปขยยาผลถึงขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยคนร้ายได้ไหวตัวทันได้วิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่สามารถติดตามรวบตัวไว้ได้ทันควัน และมีการขยายผลสืบสวนติดตามจับกุมเครือข่ายอีก
โดยวันนี้ที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 137 อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.ตชด.13 พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ อำมาตย์โยธิน ผกก.4 บก.สกส.บช.ปส. ร่วมกับ พ.ต.ต. วัฒนพล ดาแก้ว ผบ.ร้อย ตชด.ที่ 137 ร่วมกับนายศุภสิทธิ์ ถีราวุฒิ ปลัดอำเภอสวนผึ้ง ได้แถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 16 ก.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนกองร้อยที่ 137 ได้รับแจ้งจากสายลับว่านายจักราวุฒิ หรือ เบนซ์ เกษโพธิ์แก้ว มีพฤติการณ์จำหน่ายยาบ้าในพื้นที่บ้านเขาย้อย ม.5 ต.เขาย้อย อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี
โดยสายลับแจ้งว่าบ้านนายจักราวุฒิฯ บ้านเลขที่ 94/2 ม.5 ต.เขาย้อย อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี เปิดร้านอาหารตามสั่งและจำอยู่ภายในห้องนอนของนายจักราวุฒิฯ โดยสายลับแจ้งว่าสามารถแฝงตัวอยู่ภายในห้องนายจักราวุฒิฯได้ สายลับเข้าไปหานายจักราวุฒิฯ ที่บ้าน พบยาบ้าภายในห้องนอนนายจักราวุฒิฯจึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมแสดงตัวเข้าจับกุมตัวนายจักราวุฒิฯพร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 2,000 เม็ด ในห้องนอนของนายจักราวุฒิฯ
จากการสอบสวนนายจักราวุฒิ ให้การอันเป็นประโยชน์แก่เจ้าหน้าที่โดยแจ้งว่าตนนั้น สามารถสั่งซื้อยาบ้าจากนายชูเกียรติ หรือ จอม มุมมาลา ได้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้วางแผนเพื่อทำการล่อซื้อ โดยนายจักราวุฒิฯ ติดต่อนายชูเกียรติฯ ผ่านทางแอพพลิเคชั่นแมสเซนเจอร์ ซึ่งทั้งสองได้ตกลงกันว่าจะนำยาบ้าจำนวน 3 มัด ( 7,000เม็ด ) และยาไอซ์จำนวน 2 ขีด ( 200 กรัม ) มาให้นายจักราวุฒิฯ ในราคา 75,000 บาท โดยนัดส่งของกันที่บริเวณลานจอดรถร้านขนมแห่งหนึ่งริมถนนเพชรเกษม
โดยนายซูเกียรติ ได้ใช้รถยนต์ HONDA CITY RS สีขาว หมายเลขทะเบียน ภ 9764 กรุงเทพฯ(ป้ายแดง) เมื่อถึงเวลานัดหมายเจ้าหน้าที่พบรถยนต์คันดังกล่าวที่นายชูเกียรติฯใช้ในการขนส่งยาเสพติด จอดอยู่ จึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุม แต่นายชูเกียรติฯ ไหวตัวทันจึงขับรถหลบหนีไปทางหน้าร้านขายขนมริมถนนเพชรเกษม แต่รถยนต์เกิดเสียหลัก ทำให้เฉี่ยวชนกับรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ที่ขับตามมาจนเกิดความเสียหาย จากนั้นนายซูเกียรติฯ ได้ลงจากรถวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้วิ่งตามจนสามารถจับกุมได้ ควบคุมตัวนายชูเกียรติฯ มาทำการตรวจค้นรถยนต์ของนายชูเกียรติฯ จากการตรวจค้นในรถยนต์พบยาบ้า จำนวน 10,000 เม็ดและยาไอซ์ จำนวน 2 ขีด ซึ่งนายชูเกียรติฯรับว่าเป็นยาเสพติดที่จะนำมาส่งให้กับนายจักราวุฒิฯเป็นความจริง จากการสอบปากคำเบื้องต้นนายซูเกียรติฯ ให้การว่า ตนนั้นยังมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ที่บ้านเช่าหลังหนึ่ง ที่แขวงเขตทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ จึงได้นำตัวนายชูเกียรติฯ ไปตรวจค้นบ้านเช่าหลังดังกล่าว พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่บริเวณห้องนอน จำนวน 45 มัด รวม 90,000 เม็ด ยาไอซ์ 1 ถุง ประมาณ 1 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 1 แสน 8 หมื่นบาท ยาเคตามีน 4 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 4 ขีด นายชูเกียรติฯ ให้การว่า ยาบ้าดังกล่าวติดต่อขอซื้อมาจาก ( เป้าหมาย ) ผ่านทาง แอพพลิเคชั่นไลน์ โดยนายชูเกียรติฯ จะไปรับยาเสพติดดังกล่าว ในเขตพื้นที่ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี โดยเป้าหมาย จะนำยาเสพติดวางไว้ที่บริเวณข้างทาง โดยติดต่อกันผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ไม่เคยพบหรือเห็นหน้าเป้าหมายมาก่อน จากการสอบเพิ่มเติม นายชูเกียรติฯยังเคยติดต่อ ขอซื้อยาเสพติด จากเป้าหมายที่ 2 ชื่อนายเขียว ในเขต อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้ผ่านทางแอพเมสเซนเจอร์ แต่ในวันดังกล่าวไม่สามารถติดต่อ นายเขียวฯ ได้ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสืบสวนติดตามกลุ่มเครือข่ายผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว