ธรรมชาติของชีวิตหรือว่าสัจธรรมของชีวิตนั้นถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่พวกเราทุกคนจะต้องเข้าใจและยอมรับกับมันให้ได้ เป็นความจริงที่เราทุกๆ คนไม่อาจที่จะหลีกเลี่ยงมันได้ ในบางครั้งเราก็ไม่อาจฝืนความเป็นจริง ไม่อาจห้ามใจธรรมชาติ หรือไม่อาจไปเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นไปอย่างที่ใจเราต้องการ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนถูกกำหนดมาโดยธรรมชาติทั้งสิ้น ถ้าหากว่าเราไม่เข้าใจถึงกฎของธรรมชาติเราก็จะไม่มีทางที่จะเข้าใจสัจธรรมของชีวิตเลยแม้แต่น้อย และจะไม่มีทางที่จะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างมีความสุขอีกเลย ในเนื้อหานี้ผู้เขียนก็เลยนำทั้ง 16 ข้อที่ถ้าใครได้รู้แล้วก็จะเข้าใจถึง "ธรรมชาติของชีวิต" และยอมรับไปกับมันได้มากขึ้น 1. ไม่มีใครที่ช่วยเราได้นอกจากตัวเราเองดั่งพุทธศาสนสุภาษิตที่เขาบอกเอาไว้ว่า "อัตตา หิ อัตตโน นาโถ" หรือมีความหมายก็คือ "ตนย่อมเป็นที่พึ่งแห่งตน" คำนี้ถือเป็นสัจธรรมอย่างมากที่ถูกใช้มาตั้งแต่อดีตจนมาถึงปัจจุบัน ปัญหาบางสิ่งบางอย่างต่อให้จะเป็นคนใกล้ตัวที่เราสนิทด้วยหรือใครก็ตามที่เรานั้นไว้ใจมันก็คงไม่มีใครที่จะมาช่วยเราได้ทั้งนั้น มีแค่ตัวเราเองเท่านั้นที่จะสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้ด้วยตัวเอง หรืออาจจะมีเพียงน้อยคนที่เขาเต็มใจหยิบยื่นมือมาช่วยเรา ธรรมชาติสอนให้เราได้รู้จักพึ่งพาตัวเองให้เป็น เรียนรู้ที่จะดูแลและรับผิดชอบชีวิตของตัวเองได้ เพราะไม่มีใครที่จะมาช่วยเราได้ตลอดเวลานอกจาก "ตัวเราเอง" 2. สังคมมักมีหลากหลายด้านเสมอผู้คนในสังคมยุคนี้ค่อนข้างมันมีหลากหลายเอามากๆ ไม่ได้มีแค่อย่างใดอย่างหนึ่งเสมอไป ย่อมมีทั้งคนดี คนไม่ดี คนป่วย และก็ยังมีผู้คนอีกมากมายหลายประเภท หากว่าเราเจอใครต่อใครที่เรารู้สึกว่าไม่ค่อยน่าประทับใจสักเท่าไหร่ ทำให้ชีวิตไม่มีความสุข เราก็ต้องถอยห่างออกมาให้ไกลแล้วก็ไปหาสังคมที่ดีกว่านี้ ซึ่งผู้เขียนก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยเช่นกัน แต่ถึงแม้เราจะหนีออกมาจากที่ตรงนั้นได้มันก็มีค่าเท่ากันเพราะเราไม่รู้ว่าที่อื่นๆ มันจะเป็นแบบเดียวกันกับที่เราเคยเจอมาหรือเปล่า ขอให้ยอมรับแล้วอยู่กับมันให้ได้แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว 3. จิตใจของคนเราบังคับกันไม่ได้ความคิดหรือจิตใจของคนเราบางครั้งบางทีมันก็ไม่สามารถที่จะห้ามหรือว่าบังคับกันได้ การที่เราไปคอยบังคับจิตใจของคนอื่นโดยที่อีกฝ่ายเขาไม่เต็มใจอยากจะทำ คอยบีบบังคับอีกฝ่ายให้ทำตามที่ตัวเองปรารถนามันเป็นอะไรผิดอย่างมหันต์เอามากๆ มันคงปฏิเสธไม่ได้ที่คนเรามักจะมีความชอบที่แตกต่างกัน อีกฝ่ายเขาจะคิดยังไงจะชอบอะไรมันก็เป็นสิทธิ์ของเขา เราไม่มีสิทธิ์ที่จะไปห้ามอะไรเขาได้ ในเมื่อเขาเลือกเส้นทางเดินของตัวเองดีแล้วก็ควรปล่อยเขาไป สิ่งที่เราพอจะทำได้คือคอยซัพพอร์ตอยู่เบื้องหลังเพื่อให้เขาได้สมหวังตามที่เขาได้ตั้งใจไว้ 4. รักอะไรไม่สำคัญเท่ากับรักตัวเองแม้ว่าในบางครั้งคนใกล้ตัวเขาจะไม่เห็นคุณค่าและก็ไม่เคยรักเราในสิ่งที่เราเป็นได้เลย แต่เราก็อย่าลืมไปว่าเราก็ยังมีตัวเราเองที่ยังคงสำคัญมากถึงมากที่สุด ถึงใครเขาจะไม่เห็นค่าก็ช่างเขาปะไร ขอให้คิดเอาไว้อยู่เสมอว่าตัวเราเองนี่แหละมีค่ามากกว่านั้นเยอะ รักอะไรรักได้แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราเองก็ต้องไม่ลืมที่จะหันกลับมารักตัวเราเองบ้าง เพราะการที่เรารักตัวเองมากๆ คนอื่นจะยิ่งไม่กล้ามารังแกหรือเอาเปรียบเราได้อีก จงรักตัวเองให้มากๆ เข้าไว้เพราะว่าไม่มีอะไรที่สำคัญมากไปกว่า "ตัวเราเอง" อีกแล้ว 5. อยู่คนเดียวคือทางออกที่ดีของชีวิตขึ้นชื่อว่าการอยู่คนเดียวแล้วหลายๆ คนมักจะมองว่ามันแปลก คนอื่นๆ เขาก็มีเพื่อนฝูงมีสังคมด้วยกันทั้งนั้นแต่ว่าทำไมตัวเราถึงชอบที่จะอยู่คนเดียว จริงอยู่ที่การอยู่คนเดียวมันแปลกสำหรับบางคน แต่สำหรับเราถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ด้วยซ้ำ อย่างน้อยๆ เรายังได้มีเวลาคิดทบทวนตัวเองในหลายๆ เรื่อง มีเวลาทำในสิ่งที่เราชอบมากขึ้น มีเวลาที่จะฝึกฝนพัฒนาตัวเองถึงทักษาในหลายๆ ด้าน เราควรเรียนรู้ที่จะอยู่คนเดียวให้เป็นและคุ้มค่าเพราะว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ไม่มีใครเขาต้องการเราหรือไม่ชอบสังคมที่เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย ยังไงแล้วการอยู่คนเดียวนี่แหละถือเป็นทางออกที่ดีของชีวิต 6. ลำบากวันนี้แล้วจะสบายในอนาคตบางคนเกิดมามีฐานะที่ค่อนข้างลำบาก ไม่ได้มีทรัพย์สินเงินทองอะไรมากมายนัก ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้วเราก็เลยต้องขยันในการทำมาหากิน มีความมุมานะพยายามที่จะสร้างฐานะให้เกิดความมั่นคงมากขึ้น เพื่อที่ชีวิตในอนาคตของเราจะได้อยู่อย่างสุขสบายในอนาคตไม่ต้องมาลำบากอดมื้อกินมื้ออีกต่อไป คนเราบางคนนั้นกว่าจะมีชีวิตที่สุขสบายมาจนถึงทุกวันนี้ได้ก็ล้วนแต่ต้องเคยผ่านช่วงชีวิตที่ยากลำบากแสนเข็นมาด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีใครที่เกิดมาแล้วมีชีวิตที่สบายไม่ได้ลำบากทั้งๆ ที่ไม่ทำอะไรเลย เราทุกคนเกิดมาล้วนต้องลำบากมาด้วยกันทั้งสิ้นจึงจะประสบความสำเร็จได้ในอนาคต 7. ชีวิตมีทั้งขาขึ้นและขาลงอยู่เสมอในบางครั้งชีวิตของคนเรามันก็เปรียบเสมือนเส้นกราฟหุ้น มีทั้งช่วงขาขึ้นและขาลงสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป คนเราครั้งหนึ่งในชีวิตก็เคยประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่นับหน้าถือตาในสังคม แต่ทว่าชีวิตมันก็กลับพลิกผันดิ่งลงเหวได้อย่างไม่น่าเชื่อ และถึงแม้จะเป็นเช่นนี้เราก็อย่าได้ละเลยที่จะปรับเปลี่ยนตัวเองหรือพัฒนาตัวเองไปในทิศทางที่ดีขึ้น พยายามไต่เต้าตัวเองให้ไปถึงเส้นชัยของความสำเร็จให้ได้ ชีวิตคนเรามันอาจไม่แน่นอนเสมอไป มีทั้งขาขึ้นและขาลงสลับกัน อย่าเพิ่งมั่นใจไปจะดีกว่าเพราะว่าอะไรๆ มันก็เกิดขึ้นได้เสมอ 8. ความผิดพลาดคือบทเรียนที่สำคัญมนุษย์เรานั้นเกิดมาย่อมต้องมีผิดพลาดกันบ้าง คงไม่มีมนุษย์คนไหนที่เกิดมาแล้วเป็นคนดีอย่างสมบูรณ์แบบเลยโดยที่มองไม่เห็นถึงข้อผิดพลาดของตัวเอง คนบางคนเวลาทำผิดอะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็เกิดอาการท้อแท้ ห่อเหี่ยว ไม่มีกำลังแรงใจหรือหมดไฟที่จะทำอะไรต่อ เราทุกคนไม่ควรที่จะมาจมปลักอยู่กับความผิดพลาดนั้นๆ เป็นเวลานานๆ มันจะทำให้เราเกิดความเครียดสะสมมากขึ้น ทางที่ดีคือเราทุกคนควรที่จะนำความผิดพลาดเหล่านั้นมาคอยเป็นบทเรียนสอนใจตัวเอง เพื่อที่นับจากวันนี้ไปจะไม่ให้มันเกิดขึ้นซ้ำอีก 9. ไม่มีอะไรที่ได้มาดั่งใจหวังเสมอไปการที่เราคาดหวังกับอะไรมากจนเกินไป บางครั้งบางทีความคาดหวังนั้นมันอาจจะกลับมาทำร้ายเราในภายหลังก็เป็นได้ เมื่อเราคาดหวังกับสิ่งที่มันไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ ต่อให้เราคาดหวังกับมันมากเท่าไหร่เราก็จะยิ่งเสียใจและผิดหวังกับมันมากขึ้นเท่านั้น ในโลกนี้มันไม่มีอะไรที่ได้มาอย่างที่ใจเราคาดหวังไปซะหมดทุกอย่างหรอกนะ เราเองก็ต้องเผื่อใจเอาบ้างไม่แน่ว่าสิ่งที่เราได้หวังเอาไว้มันอาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่เราต้องการก็เป็นได้ ดังนั้นเราไม่ควรคาดหวังกับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้แต่เราก็ทำในสิ่งที่เราสามารถควบคุมมันได้แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว 10. เวลาเปลี่ยนคนเราก็เปลี่ยนตามกาลเวลาไม่เคยคอยใคร มันค่อยๆ เริ่มที่จะผันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกล้วนแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เฉกเช่นเดียวกันกับมนุษย์เรา เมื่อกาลเวลามันค่อยๆ ผันเปลี่ยนไปรูปลักษณ์ภายนอกรวมไปถึงนิสัยของคนเราก็ค่อยๆ ที่จะเริ่มเปลี่ยนตามกันไปด้วยเช่นกัน บางคนเปลี่ยนไปเพียงเพราะทรัพยากรเช่นเงินเป็นต้น บางคนเปลี่ยนไปเพียงเพราะถูกอีกฝ่ายทำร้ายจิตใจจนต้องกลายเป็นคนละคน หรือบางคนเปลี่ยนไปเพียงเพราะการพัฒนาตัวเองที่ดีขึ้นกว่าเก่า ไม่มีใครที่จะหยุดอยู่กับที่ได้ตลอด ทุกคนย่อมมีการเปลี่ยนแปลงบ้างเป็นธรรมดา และนี่ก็คือสัจธรรมของชีวิตอย่างแท้จริง 11. ความดีใช้ไม่ได้กับทุกคนเสมอไปขึ้นชื่อว่าการทำดีนั้นมันก็เป็นเรื่องที่ดีมากๆ เลยทีเดียว และมันก็ไม่แปลกเลยที่คนเราจะชอบทำดีช่วยเหลือผู้คนอย่างเต็มอกเต็มใจ แต่หารู้ไม่ว่าความดีที่ทำมาในแต่ละครั้งนั้นมันอาจใช้ไม่ได้กับคนทุกคนเสมอไป บางคนต่อให้เราจะพยายามทำดีด้วยแค่ไหนถ้าอีกฝ่ายไม่เห็นคุณค่าถึงสิ่งที่เราทำมันก็จะเหนื่อยและเสียเวลาชีวิตเปล่าๆ การทำดีมันไม่ใช่ว่าจะทำกับใครก็ได้ เราต้องดูให้แน่ใจก่อนว่าคนที่เราทำดีด้วยนั้นควรค่ามากพอที่เราจะทำดีด้วยหรือเปล่า ถ้าหากว่าเราทำดีได้อย่างถูกที่ถูกเวลาและก็ถูกคนความดีนั้นมันก็จะทรงคุณค่าและก็น่าจดจำมากขึ้น 12. บางสิ่งบางอย่างล้วนไม่ได้มาง่ายๆของอะไรก็ตามถ้าหากว่าได้มาฟรีๆ มันก็คงจะเป็นเรื่องที่แปลกเอามากๆ ของบางสิ่งบางอย่างมันก็ต้องดิ้นรนไขว่คว้าหรือว่าต้องลำบากมาก่อนจึงจะได้ของสิ่งนั้นมาไว้ในครอบครอง ลองคิดดูว่าถ้าเราไปขออะไรบางอย่างมาแบบฟรีๆ แน่นอนว่ามันก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนบ้างเล็กๆ น้อยๆ เขาคงไม่ได้ให้เราไปแบบฟรีๆ เป็นแน่ ความรักกับความสำเร็จก็เช่นเดียวกัน อยากได้ความรักที่ดีต้องพยายามฝ่าฟันอุปสรรคและหมั่นดูแลเอาใจใส่ให้ดีๆ อยากจะประสบความสำเร็จก็ต้องดิ้นรนต่อสู้ต่อไป อะไรๆ มันคงไม่ได้มาง่ายๆ ของฟรีไม่เคยมีในโลก ต้องพยายามดิ้นรนเท่านั้นถึงจะได้มา 13. สันดานของคนเปลี่ยนแปลงยากมนุษย์เราเกิดมาเป็นอย่างไรมันก็ต้องเป็นแบบนั้นตลอด ย่อมเป็นสันดานที่ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด ต่อให้เราจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงอีกฝ่ายยังไงมันก็ไม่เป็นผล ตัวอีกฝ่ายก็ยังคงไม่ละทิ้งนิสัยเดิมง่ายๆ และยังคงกลับไปใช้นิสัยแบบเดิมอีก บางคนอาจจะคิดว่าการที่ต้องเปลี่ยนคนให้กลายเป็นอีกคนมันง่าย แต่ส่วนตัวผู้เขียนกลับมองว่ามันยากมาก เพราะขนาดเสือมันยังไม่ทิ้งลายของมันได้เลยสักครั้งแล้วนับประสาอะไรกับมนุษย์อย่างเรา เพราะฉะนั้นอย่าไปเปลี่ยนสันดานใครต่อใครให้มันเหนื่อยเปล่าเลย คนที่จะเปลี่ยนมันได้มีเพียงแค่ "ตัวของอีกฝ่ายเอง" เท่านั้น 14. เงินเท่านั้นที่ครองไปทั่วทั้งโลกคงไม่มีใครบนโลกใบนี้ที่ไม่อยากได้เงิน ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ล้วนแต่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินทั้งนั้น ขึ้นชื่อว่าเงินแล้วถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ใครได้มีมันเป็นจำนวนมากคนนั้นก็จะมีชีวิตที่สุขสบายไม่ต้องลำบาก คนเราต่อให้จะคิดยังไงก็ช่างเรื่องเงินก็ต้องมาก่อนเสมอ เพราะคนทุกคนเชื่อกันว่าถ้ามีเงินแล้วก็จะมีความมั่นคง มีอำนาจ มีชื่อเสียง มีผู้คนเข้าหามากขึ้น และแน่นอนคำว่า "เงิน" นั้นถึงมันจะเป็นแค่คำเดียวสั้นๆ แต่บางครั้งมันก็ทำให้ความสัมพันธ์แตกหักหรือสั่นคลอนลงได้ ดังนั้นไม่แปลกที่เงินจะมีอิทธิพลต่อคนทุกคนบนโลกอย่างมาก เป็นสิ่งที่เราทุกคนไม่อาจที่จะปฏิเสธมันได้ 15. ไม่มีใครบนโลกนี้ที่จะอยู่ค้ำฟ้าได้คนเรานั้นมีพบก็ต้องมีจาก เกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ คนเรารู้วันเกิดแต่ไม่รู้วันตาย เราทุกคนไม่อาจที่จะฝืนร่างกายหรือสังขารของตัวเองได้ เมื่อถึงเวลาก็ต้องจากกันไปอยู่ดี มันยากที่เราจะยื้อชีวิตให้อยู่ต่อไปได้ นี่คือสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นธรรมชาติของชีวิตอย่างแท้จริงที่เราทุกคนนั้นไม่อาจที่จะหลีกเลี่ยงมันได้ ไม่มีใครบนโลกนี้ที่จะอยู่ได้แบบค้ำฟ้าไปตลอด สิ่งที่เราทุกคนควรทำคือใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันให้คุ้มค่า มีอะไรที่ยังค้างคาอยู่แล้วยังไม่ได้ทำก็รีบทำมันซะ เพราะอย่างที่บอกไปคือเรารู้วันเกิดแต่ไม่รู้วันตาย วันนั้นมันจะมาถึงเมื่อไหร่ไม่มีใครล่วงรู้ได้เลยสักคนเดียว 16. ทำให้ถูกใจทุกคนไม่มีทางเป็นไปได้มนุษย์เรานั้นมี 2 ด้านเสมอ คือมีทั้งถูกใจกับไม่ถูกใจ ถ้าอีกฝ่ายถูกใจในตัวตนของเราที่เป็นอยู่มันก็จะเกิดผลดีกับตัวเรา ถ้าทำอะไรแล้วอีกฝ่ายชื่นชอบก็จะเกิดผลลัพธ์ที่ดีตามมา แต่ถ้าหากว่าเราทำอะไรแล้วเกิดไม่ถูกใจอีกฝ่ายขึ้นมาเราก็ควรจะยุติลงตรงนี้เพราะมันไม่ได้มีประโยชน์อะไรอีกต่อไป เราคงจะไปบีบบังคับให้คนทุกคนชอบเราหรือถูกใจเราแค่คนเดียวมันก็ไม่ได้ บังคับให้คนอื่นมาโฟกัสที่เราอย่างเดียวมันก็ไม่ดีอย่างยิ่ง ถึงอีกฝ่ายจะคิดเห็นยังไงเราก็ควรที่จะเคารพในความคิดเห็นของอีกฝ่ายให้มากขึ้น เราไม่อาจทำให้คนอื่นถูกใจเราได้แต่เราสามารถพึงพอใจในสิ่งที่เราเป็นได้เช่นกัน และทั้งหมดนี้คือ 16 ข้อที่เรียกได้ว่าเป็น "ธรรมชาติของชีวิต" อย่างแท้จริง ถึงแม้เราจะหลีกเลี่ยงสิ่งพวกนี้ไม่ได้แต่เราก็สามารถที่จะยอมรับและเข้าใจมันได้ และเมื่อเรายอมรับและเข้าใจถึงสิ่งพวกนี้ได้แล้วเราก็จะใช้ชีวิตในแต่ละวันได้อย่างมีความสุข อย่าได้ไปหลบหนีมันอีกเลยเพราะต่อให้เราพยายามหลบหนีสิ่งเหล่านี้ต่อไปก็อย่าหวังว่าเราจะได้เจอกับความสุขที่แท้จริง ดังนั้นเราจงยอมรับความจริงเหล่านี้แล้วพยายามปรับตัวอยู่กับมันให้ได้แค่นี้การใช้ชีวิตในแต่ละวันของเรานั้นมันก็จะเป็นอะไรที่ง่ายขึ้นไปอีก เนื้อหาทั้งหมดที่ได้กล่าวมานี้เป็นเพียงมุมมองจากประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้น หากผิดพลาดแต่ประการใดผู้เขียนต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย หวังว่าเนื้อหาจะเป็นประโยชน์กับทุกๆ คนได้ไม่มากก็น้อยนะครับ เครดิตรูปภาพประกอบทั้งหมดจากเว็บไซต์ : Unsplash.comภาพหน้าปก : Benjamin Daviesภาพที่ 1 : Noah Sillimanภาพที่ 2 : Austin Mabeภาพที่ 3 : Dan Gribbinภาพที่ 4 : Chetan Menariaภาพที่ 5 : Ante Hamersmitภาพที่ 6 : frank mckennaภาพที่ 7 : Dan Freemanภาพที่ 8 : Dim Houภาพสุดท้าย : Alfred Aloushyเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !