หุ้นไทยรีบาวด์ตามหุ้นโลก

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)  เปิดเผยว่า  ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์ขึ้นต่อได้เช่นเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวขึ้น ตลาดในยุโรป  ตลาดสหรัฐฯก็ปรับขึ้น ขานรับความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯที่น่าจะออกมาได้ก่อน 15 มี.ค.นี้

นอกจากนี้การที่ เทสลา อิงค์ บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของนายอีลอน มัสก์ ได้เข้าซื้อบิตคอยน์ และอนุญาตให้ลูกค้าสามารถนำบิตคอยน์มาจ่ายซื้อรถยนต์ได้ ทำให้ดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้นแรง และธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ก็ยังดำเนินนโยบายที่จะใช้อัตราดอกเบี้ยต่ำไปอีกนาน

ส่วนตลาดหุ้นไทยน่าจะได้แรงหนุนจากนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิกว่า 4 พันล้านบาทเมื่อวานนี้ และราคาน้ำมันปรับขึ้นมาทำ New High ในรอบปีกว่า น่าจะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มแบงก์ฟื้นตัว

อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้จะมีมาตการกระตุ้นเศรษฐกิจอะไรออกมาเพิ่มเติมหรือไม่ และการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงพรุ่งนี้ให้ติดตามการทบทวนของ MSCI และในวันที่ 11 ก.พ.นี้หุ้นบมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) จะเข้าเทรดวันแรกน่าจะช่วยหนุนให้ตลาดคึกคักได้  แต่ปลายสัปดาห์ตลาดอาจจะชะลอบ้างเนื่องจากเข้าสู่ช่วงเทศกาลตรุษจีน  ประเมินแนวรับ 1,507-1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,525-1,530 จุด

รายงานข่าวจากบล.ไทยพาณิชย์แจ้งว่า คาด SET ได้ปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นภาครัฐ และความคืบหน้าวัคซีนช่วยจำกัด downside แต่ valuation ที่ตึงตัวก็ทำให้ upside จำกัดเช่นกัน เราจึงยังไม่ bullish ตลาด พอร์ตลงทุนรอสัญญาณเข้าซื้อรอบใหม่สำหรับพอร์ตเก็งกำไร selective buy ในหุ้น 3 ธีม คือ 1. Global Plays (PTTEP, PTT, TOP) 2. 4Q63 Earnings Play (SCGP, CPF ,TNP, EPG, SCCC) 3.   Cyclical กลุ่มบริการ (BBL ,CPALL, BDMS ,MINT, CENTEL)

ส่วน trading เล่นสั้น KSL ราคาน้ำตาลตลาดโลกสูงขึ้น คาดยอดขายปีนี้โต 10% หนุนผลประกอบการพลิกมีกำไร และ trading เล่นสั้นหุ้นเกาะกระแสกัญชง (DOD, RBF)  ขณะที่หุ้นแนะนำ PTT ราคาเป้าหมาย 47 บาท   PTTEP ราคาเป้าหมาย 147 บาท

ขณะที่บล.  เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) แนะเน้นหุ้นอิงเศรษฐกิจโลกฟื้น นำโดย PTT จิตวิทยาเชิงบวกจากภาพเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวเร็วกว่าคาด หนุนอุปสงค์น้ำมันดิบและปีโตรเคมี เป็นบวกต่อธุรกิจก๊ช บวกกับธุรกิจโรงกลั่น 1H64 ที่น่าจะฟื้น YOY จากฐานต่ำ และเตรียม unlock value ธุรกิจ non-oil จากการนำ PTTOR เข้าตลาดราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 50 บาท

ถัดมาเป็น SCGP กระดาษบรรจุภัณฑ์ในอาเซียนปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็น 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน สูงสุดในรอบสองปี ในขณะที่ต้นทุนเศษกระดาษปรับตัวขึ้นชกว่า ส่งผลให้สเปรดเพิ่มขึ้นเป็น 300 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน คาดหนุนผลประกอบการใน

ขณะที่บล.เอเซีย พลัส แนะนำ PTT  (FV @ 48.50) มุมมองเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว หนุนให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น 50 เหรียญฯ ถือเป็นบวกต่อหุ้นน้ำมันอย่าง PTT รวมถึงผลการดำเนินงานค่อยๆฟื้นตัวตามเศรษฐกิจในภาพใหญ่ หนุนความต้องการใช้ปิโตรเลียม/ปิโตรเคมีกระเตื้องขึ้น ประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 64 เท่ากับ 48.50 บาท/หุ้น มี Upside ประมาณ 23%

CPN   แม้กำไรปกติ 4Q63 จะลดลง 9% qoq ที่ 2.14 พันล้านบาท และมีโอกาสอ่อนตัวต่อใน 1Q64 จากโควิด-19 รอบใหม่ แต่น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปี  ก่อนค่อย ๆ ฟื้นตัวดีขึ้นในไตรมาสถัดไป หลังทุกศูนย์การค้าในไทยกลับมาเปิดบริการได้หมด (มหาชัย กลับมาเปิด 2 ก.พ.  64)

การ Lock Down ผ่อนคลายลง และการเริ่มใช้วัคซีนในไทยมีความชัดเจนมากขึ้น ย่อมหนุนให้ธุรกิจศูนย์การค้าฟื้นตัวดีขึ้นทั้งในเชิงTraffic และการให้ส่วนลดค่าเช่าที่จะทยอยลดลง เชื่อว่าทิศทางกำไรปี 2564 จะยังสูงขึ้นจากปี 2563 บวกกับแผนขายสินทรัพย์ใหม่เข้ากอง REIT ในปีนี้ ที่จะเข้ามาสร้างกำไรพิเศษเพิ่มเติม คงแนะนำซื้อ FV ปี 64 ที่ 60.00 บาท

ปิดท้ายที่หุ้น TISCO  เชื่อว่าทิศทางกำไรปีนี้ สูงขึ้นจากปี 63 บวกกับแผนขายสินทรัพย์ใหม่เข้ากอง REIT ในปีนี้ ที่จะเข้ามาสร้างกำไรพิเศษเพิ่มเติม คงแนะนำซื้อ FV ปีนี้ ที่ 60  บาทการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นในงวด 4Q63 ส่งให้ Coverage Ratio อยู่ที่ 210.5% จาก 196.1% ณ สิ้นงวดก่อน สูงสุดในกลุ่มฯ พร้อมรองรับสภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มศักยภาพ ขณะที่กำไรสุทธิปีนี้ พลิกกลับมาเติบโตกว่า 5.5%YoY จากทั้ง NIM และค่าธรรมเนียมดีขึ้น ขณะที่Div Yield ปี  64 สูงราว 7.6% ต่อปี

เกาะติดข่าวที่นี่