เปิดตัว "ตุ๊กตาบาร์บี้" ป่วยเบาหวานสะท้อนชีวิตจริง

บริษัท Mattel เปิดตัวตุ๊กตาบาร์บี้รุ่นล่าสุดในซีรีส์ Fashionista ซึ่งเป็นตุ๊กตารุ่นแรกที่ออกแบบมาเพื่อสะท้อนชีวิตของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 โดยมาพร้อมปั๊มน้ำตาลติดที่เอว และเครื่องวัดระดับกลูโคสแบบต่อเนื่องติดที่ต้นแขน ตุ๊กตารุ่นใหม่นี้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา

ตุ๊กตารุ่นนี้สวมเสื้อครอปจุดสีน้ำเงิน กระโปรงสั้นระบาย รองเท้าแตะส้นสูงสีฟ้าอ่อน พร้อมกระเป๋าสีเข้าชุด ภายในมีทั้งอุปกรณ์ควบคุมระดับน้ำตาล และของว่างสำหรับปรับสมดุลในแต่ละวัน แอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือจำลองของบาร์บี้แสดงผลกราฟระดับน้ำตาลจริงของผู้ร่วมออกแบบในวันหนึ่งระหว่างการพัฒนา โดยแสดงค่า 130 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ปกติของผู้ป่วยเบาหวาน

Mattel ร่วมมือกับองค์กร Breakthrough T1D ซึ่งเดิมคือมูลนิธิวิจัยเบาหวานเด็กและเยาวชน สหรัฐฯ เพื่อพัฒนาโมเดลตุ๊กตานี้ให้สะท้อนชีวิตจริงของเด็กและวัยรุ่นราว 304,000 คนในอเมริกาที่กำลังใช้ชีวิตร่วมกับโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ซึ่งเป็นโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง ทำให้ร่างกายหยุดผลิตอินซูลินตามธรรมชาติ ส่งผลให้ผู้ป่วยต้องใช้อินซูลินจากภายนอกทั้งทางเข็มฉีดยาหรือปั๊มเป็นประจำตลอดชีวิต

ตุ๊กตารุ่นใหม่นี้ยังแฝงสัญลักษณ์ของการตระหนักรู้เรื่องโรคเบาหวานผ่านการออกแบบ เช่น ลายจุดสีน้ำเงิน และแถบเทปติดเครื่องวัดกลูโคสที่เป็นรูปหัวใจสีชมพูแบบบาร์บี้ เพื่อส่งเสริมให้ผู้คนเข้าใจและเปิดกว้างต่อภาวะเรื้อรังที่เด็กจำนวนมากต้องเผชิญในแต่ละวัน

ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบตุ๊กตารุ่นนี้ คือ เอมิลี มาเซรคู ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรของ Breakthrough T1D ซึ่งเป็นผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 เช่นกัน เธอใช้เวลานานเกือบ 2 ปีในการรวบรวมความคิดเห็นจากกลุ่มผู้ใช้จริง เพื่อให้แน่ใจว่าตุ๊กตารุ่นนี้สะท้อนภาพผู้ป่วยเบาหวานได้อย่างแท้จริง

การเปิดตัวบาร์บี้รุ่นใหม่นี้มีขึ้นพร้อมกับการรณรงค์ขอการต่ออายุโครงการสนับสนุนการรักษาเบาหวานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่กำลังจะหมดอายุในเดือนกันยายนนี้ องค์กร Breakthrough T1D แสดงความกังวลว่า หากรัฐสภาไม่อนุมัติงบประมาณสนับสนุนต่อเนื่อง ผู้ป่วยจำนวนมากจะเผชิญกับความเสี่ยงด้านการเข้าถึงการรักษาในอนาคต

บาร์บี้รุ่นผู้ป่วยเบาหวานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันแนวคิด "ตุ๊กตาสะท้อนชีวิตจริง" ที่ Mattel ดำเนินมาต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ในซีรีส์ Fashionista ก็มีตุ๊กตาที่สวมเครื่องช่วยฟังชนิดคล้องหลังใบหู ตุ๊กตาผิวด่างจากโรคด่างขาว ตุ๊กตาที่มีขาเทียม และตุ๊กตาตาบอดที่ใช้ไม้เท้านำทาง ทั้งหมดล้วนออกแบบมาเพื่อให้เด็กทุกคนสามารถมองเห็นตนเองในตุ๊กตาที่พวกเขาเล่นได้

นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยควีนมาร์กาเร็ตในสกอตแลนด์เปิดเผยว่า การเล่นกับตุ๊กตาที่มีความท้าทายทางร่างกายหรือใช้ชีวิตแตกต่างกัน ช่วยปลูกฝังความเข้าใจและลดอคติต่อคนพิการในระยะยาว โดยเฉพาะเมื่อเด็กได้เรียนรู้ผ่านการเล่นว่าผู้ใช้วีลแชร์เข้าไม่ได้ในบ้านตุ๊กตา จึงต้องช่วยกันสร้างทางลาดขึ้นมาใหม่เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้

การเปิดตัวของบาร์บี้รุ่นนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงเรื่องการตลาด หากแต่เป็นการสื่อสารสาธารณะถึงความหลากหลายและความเข้าใจในชีวิตของผู้คนที่ใช้ชีวิตร่วมกับโรคเรื้อรังที่มองไม่เห็นจากภายนอก ตุ๊กตาที่สะท้อนภาพของความกล้าหาญ ความเข้มแข็ง และการมีอยู่ที่ไม่ต้องปิดบังหรือหลบซ่อนอีกต่อไป