ในโลกของการเรียนภาษาอังกฤษ หลายคนคงเคยได้ยินชื่อหนังสือซีรีส์ Grammar in Use ซึ่งเป็นหนึ่งในตำนานหนังสือเรียนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่ขายดีที่สุดในโลก (ดูจากปกหนังสือก็เขียนว่า THE WORLD'S BEST-SELLING GRAMMAR BOOK) ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา คนวัยทำงาน หรือใครก็ตามที่ต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ มักได้รับคำแนะนำให้เลือกหนังสือซีรีส์นี้ เนื่องด้วยวิธีการนำเสนอที่เป็นระบบ การอธิบายที่ชัดเจน และมีแบบฝึกหัดที่มีประสิทธิภาพ มาดูกันว่าข้างในเล่มมีอะไรบ้าง โครงสร้างของหนังสือ Grammar in Use ถือเป็นจุดเด่นที่สำคัญ แต่ละบทจะนำเสนอหัวข้อไวยากรณ์เฉพาะ โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็นส่วนๆ อย่างเป็นระบบ ประกอบด้วยคำอธิบายที่กระชับ ตัวอย่างประโยคที่เกี่ยวข้อง และแบบฝึกหัดที่ครอบคลุม การออกแบบหน้าหนังสือแบบ "หน้าคู่" โดยมีคำอธิบายอยู่ด้านซ้ายและแบบฝึกหัดอยู่ด้านขวา ช่วยให้เราสามารถทบทวนเนื้อหาและฝึกฝนได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องพลิกหน้าไปมา ความง่ายในการใช้งาน ความง่ายในการใช้งานเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของหนังสือชุดนี้ เราสามารถเปิดอ่านบทไหนก่อนก็ได้ตามความสนใจหรือความจำเป็น ไม่จำเป็นต้องอ่านเรียงลำดับจากต้นเล่มจนจบ อยากฝึกเรื่องอะไรก็เปิดไปที่บทนั้นได้เลย ทำให้หนังสือชุดนี้เหมาะสำหรับการเรียนรู้ด้วยตนเองมากๆ หรือจะนำไปติวความรู้ ไปนั่งเรียนสอนกันก็ยังได้ อีกจุดเด่นที่สำคัญ คือ การใช้ภาษาในหนังสือนั้นเรียบง่าย ตรงไปตรงมา มีการอธิบายที่กระชับ ตรงประเด็น ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย และมีตัวอย่างประโยคที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ทำให้เห็นภาพการใช้งานได้ชัดเจน แถมยังมีแบบฝึกหัดให้ทำจำนวนมากและหลากหลาย ช่วยให้เราได้ฝึกฝนและทบทวนความเข้าใจอย่างเต็มที่ เรียกได้ว่าฝึกทักษะกันจนแน่นเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม หนังสือชุดนี้เน้นทักษะไวยากรณ์เป็นหลัก จึงอาจไม่ครอบคลุมการพัฒนาทักษะอื่นๆ เช่น การพูดหรือการเขียน ซึ่งเป็นข้อจำกัดของหนังสือซีรีส์นี้ ระดับของหนังสือ หนังสือ Grammar in Use มีด้วยกัน 3 ระดับ ได้แก่ Essential Grammar in Use สำหรับคนเริ่มต้นเรียนหรือ Basic English Grammar in Use เหมาะสำหรับระดับกลางหรือ Intermediate Advanced Grammar in Use เล่มนี้คือระดับสูง (จริงๆ 2 เล่มแรกก็เพียงพอสำหรับชีวิตประจำวันและการทำข้อสอบทั่วไป) โดยแต่ละเล่มมีความแตกต่างในด้านความซับซ้อนของเนื้อหาและระดับความยากของแบบฝึกหัด แต่ยังคงรูปแบบการนำเสนอที่เป็นเอกลักษณ์เช่นเดียวกัน ทำให้เราสามารถเลือกใช้ได้ตามระดับความสามารถของเรา เพิ่มเติมอีกนิดว่า 2 เล่มแรกเขียนโดย Raymond Murphy ส่วนเล่ม 3 เขียนโดย Martin Hewings ประสบการณ์หลังจากใช้งาน ผมรู้จักหนังสือนี้ครั้งแรกสมัยเรียนมัธยมซึ่งก็นานมาแล้ว สิ่งที่ผมชอบที่สุด คือ มันช่วยไขข้อข้องใจเรื่องไวยากรณ์ได้แบบรวดเร็ว สมมติผมสงสัยว่าควรใช้ "who" หรือ "whom" ดีในบางสถานการณ์ ผมก็แค่หยิบหนังสือ Grammar in Use มาเปิดไปที่หัวข้อที่ต้องการ แป๊บเดียวก็ได้คำตอบเลย ไม่ต้องหาคำตอบในกูเกิลนานๆ ยิ่งสมัยนั้นเน็ตกับมือถือก็ไม่ได้สะดวกสบายแบบตอนนี้ กล่าวโดยสรุป Grammar in Use เป็นหนังสือเรียนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษด้วยตัวเองที่นำเสนอเนื้อหาอย่างเป็นระบบ และแบบฝึกหัดที่มีประสิทธิภาพ ทำให้หนังสือชุดนี้มีประโยชน์มากมายเกินกว่าจะมองข้าม และยังคงเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ สำหรับคนที่ต้องการพัฒนาความสามารถทางไวยากรณ์ในภาษาอังกฤษ ภาพปกและภาพประกอบโดย : ผู้เขียน // ติดตามเรื่องราวอื่นของผู้เขียนได้ที่ @ArtVich เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !