รีเซต

แจ้งแล้วเรื่องยังเงียบ! พระวัดดัง ลักตัดสายไฟ ชาวบ้านสุดเอือม ไม่มีใครทำอะไรได้

แจ้งแล้วเรื่องยังเงียบ! พระวัดดัง ลักตัดสายไฟ ชาวบ้านสุดเอือม ไม่มีใครทำอะไรได้
ข่าวสด
17 มีนาคม 2565 ( 13:21 )
48
แจ้งแล้วเรื่องยังเงียบ! พระวัดดัง ลักตัดสายไฟ ชาวบ้านสุดเอือม ไม่มีใครทำอะไรได้

พระวัดดังย่องเงียบงัดตู้ควบคุมไฟ ก่อนขโมยตัดสายไฟไปหน้าตาเฉย นำคลิปแจ้งตำรวจ-รองเจ้าอาวาสเรื่องเงียบ

 

วันที่ 17 มี.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้เผยแพร่ภาพที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บริเวณศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ถ.เหล่านาดี ตรงข้ามโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย เขตเทศบาลนครขอนแก่น ในเพจ “ขอนแก่นมีอะไรบอกด้วย ช่วยเหลือแบ่งปันสารประโยชน์”

 

ซึ่งบันทึกภาพเหตุการณ์คนร้ายลักษณะแต่งกายคล้ายพระภิกษุสงฆ์ก่อเหตุงัดตู้ควบคุมระบบไฟฟ้าของพ่อค้าแผงลอย ก่อนจะทำการตัดสายไฟยาว 15 เมตรหลบหนีไผเหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา พร้อมข้อความระบุว่า คงจะเส้นใหญ่นะพระรูปนี้ขโมยสายไฟหลักฐานชัดเจนไม่มีใครทำอะไรมันได้เดี๋ยวเจอหมอปลาต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ร้านรับเย็บผ้าและซ่อมแซมเสื้อผ้

 

า ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าวัดนันทิการาม ริม ถ.เหล่านาดี ตรงข้ามโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย เขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยพบกับ นางสัมฤทธิ์ จันทะวงษา อายุ 51 ปี เจ้าของร้านรั ซึ่งได้พาเดินดูจุดที่คนร้ายที่ปรากฏตามคลิปภาพดังกล่าว บริเวณเสาไฟฟ้า ที่ติดตั้งอยู่ศูนย์หนังสือ ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น โดยมีการนำแม่กุญแจมาล็อดไว้ ด้านล่างของกล่องมีร่องรอยของการงัดแงะ โดยมีการนำสายไฟฟ้าชุดใหม่มาเปลี่ยนชุดที่ถูกขโมยไปเพื่อใช้งานแทน

 


นางสัมฤทธิ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยได้มาเปิดร้านตามปกติ แต่พบว่าสายไฟของร้านซึ่งเชื่อมต่อกับกล่องควบคุมระบบไฟ ที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและเทศบาลนครขอนแก่น มาติดตั้งไว้ให้นั้นขาดหายไปประมาณ 15 เมตร โดยมีร่องรอยถูกตัดขาด จึงเดินไปตรวจสอบที่กล่องควบคุมไฟก็พบว่ามีรอยถูกงัดบริเวณมุมก่องด้านล่าง

 

ขณะที่กล่องมีการล็อกด้วยแม่กุญแจอย่างแน่นหนา จึงไปขอภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียง เพื่อตรวจสอบก็พบว่าคนร้าย แต่งกายคล้ายพระภิกษุสงฆ์ ได้เข้ามาก่อเหตุงัดกล่องควบคุมไฟและตัดสายไฟไป ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงก็ต่างยืนยันว่าคนร้ายในภาพคือพระลูกวัดนันทิการาม

 

จึงนำคลิปภาพ แจ้งยังรองเจ้าอาวาสฯได้รับทราบถึงพฤติกรรมของพระลูกวัด ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่าอย่าไปทำอะไรกับหลวงตา จากนั้นจึงนำคลิปภาพเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ตำรวจมาตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุและตรวจสอบกุฏิของพระรูปดังกล่าวก็พบของกลางจึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองขอนแก่น และแจ้งว่าจะนัดไกล่เกลี่ย เรื่องก็เงียบหายไป

 

ตอนแรกคิดว่าน่าจะเป็นคนเร่ร่อน หรือคนไร้บ้านหรือคนยากจน ก็จะไม่เอาเรื่องหรือติดใจอะไรเพราะสายไฟเพียง 15 เมตร ทั้งที่ผลกระทบเกิดขึ้นกับร้านที่ไม่สามารถเปิดร้านได้ ต้องไปหาซื้อสายไฟฟ้ามาต่อใหม่เพื่อให้ร้านได้เปิดให้บริการกับลูกค้าได้ แต่เมื่อเปิดภาพวงจรปิดก็พบว่าคนร้ายเป็นพระวัดนันทิการาม

 


 

ซึ่งเป็นวัดที่คนเคารพเลื่อมใสศรัทธาและมาทำบุญอยู่โดยตลอด จึงนำคลิปภาพเข้าหารือรองเจ้าอาวาสฯ,ประธานชุมชนฯ เรื่องก็เงียบจึงนำคลิปภาพเป็นหลักฐานเข้าแจ้ความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่ออยากรู้ว่าหลวงตาทำแบบนี้ทำไม ใช่กิจของสงฆ์หรือไม่ เพราะกล่องควบคุมไฟดังกล่าว ไม่ใช่ของวัดเป็นจุดที่เทศบาลฯและการไฟฟ้า มาติดตั้งให้กับกลุ่มผู้ค้าหาบเร่แผงลอย อีกทั้งที่ตั้งของร้านก็อยู่ในจุดที่เทศบาลฯกำหนด

 

นางสัมฤทธิ์ กล่าวต่อว่า ร้านรับเย็บผ้าและซ่อมแซมเสื้อผ้า ตั้งอยู่ที่จุดนี้มากว่า 7 ปี มีการขออนุญาตกับเทศบาลฯในการตั้งร้านในจุดผ่อนปรน และ มีการขอใช้ไฟฟ้าที่ถูกต้อง ซึ่งเทศบาลฯและการไฟฟ้า ได้มาตรวจสอบและผ่อนปรนให้กับผู้ที่ทำมาหากินอย่างสุจิตให้กับชุมชนเหล่านาดี โดยไม่ได้ใช้ไฟวัดหรือประกออาชีพล้ำเขตวัดแต่อย่างด ขณะที่งานบุญและงานกิจกรรมต่างๆร้านค้า และชุมชนก็เข้าไปร่วมงานกับทางวัดโดยตลอด

 

ซึ่งการกระทำดังกล่าวของหลวงตา น่าจะเกิดจากการที่ตนเองไปเข้าห้องน้ำของวัด เมื่อเดือน ธ.ค.2564 และหลวงตา มาต่อว่าว่าเข้าห้องน้ำของพระทำไม ทั้งที่ห้องน้ำของวัด ญาติ โยม ก็ช่วยกันบริจาคสร้างขึ้นให้เป็นห้องน้ำสาธารณะ ซึ่งเมื่อถูกหลวงตาต่อว่าก็ไม่มีใครไปใช้ห้องน้ำอีกเลย จนกระทั่งมาพบภาพหลวงต่อก็เหตุดังกล่าว

 

จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เจ้ามาสอบสวนถึงพฤติกรรมและการกระทำของหลวงตาด้วย เพราะนอกจากการขโมยสายไฟแล้ว ยังคงมีพฤติกรรมทั้งการปล่อยเงินกู้ และพฤติกรรมต่างๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเป็นพระ ซึ่งในฐานะตนเองที่เป็นชาวพุทธไม่อยากปล่อยให้พระที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ยังคงดำเนินการในลักษณะเช่นนี้ต่อไป ซึ่งคนในชุมชนล้วนต่างรู้ถึงพฤติกรรมของหลวงตารูปนี้เป็นอย่างดี จึงอย่างให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งจัดการทั้งเรื่องคดีที่เกิดขึ้นและพฤติกรรมในด้านต่างๆเป็นการเร่งด่วน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง