สวัสดีครับวันนี้เรามีข้อแนะนำดี ๆ สำหรับน้อง ๆ ที่อยากจะเป็นนักศึกษาวิชาทหารว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างเพื่อที่จะได้สอบผ่านการคัดเลือกในการเข้าศึกษา การเรียนนักศึกษาวิชาทหารนั้นจะเป็นการเรียนในแบบของทหารสามารถสมัครเรียนได้นักศึกษาต้องเรียนจบมัธยมศึกษาปีที่ 3 หรือเทียบเท่า ร่างกายสมบูรณ์ไม่พิการทางร่างกายและสมองน้ำหนักไม่เกินมาตรฐาน เอกสารที่ต้องเตรียมไปเพื่อสมัครรด.1 (รับที่โรงเรียน ผู้ปกครองต้องเซนเอกสาร)รูปถ่าย 3x4 เซนติเมตร 1 ใบ เพื่อติด รด.1 (รูปต้องใส่ชุดนักเรียน)สำเนาทะเบียนบ้านผู้สมัคร และบิดา-มารดา อย่างละ 1 ฉบับสำเนาบัตรประชาชนจำนวน 1 ฉบับสำเนา สด.9 จำนวน 6 ฉบับ (ถ้ามี)สำเนา ปพ.1 จำนวน 1 ฉบับ ใบรับรองแพทย์ การคัดเลือกในการเรียนวิชาทหารนั้นต้องผ่านการวัดสมรรถภาพร่างกายในการคัดเลือก 100 คะแนน แยกออกเป็น 3 ฐาน ได้แก่1.วิ่งระยะทาง 800 เมตร ชาย 3 นาที 15 วินาที หญิง 4 นาที2.ลุกนั่ง (ซิทอัพ) ชาย 34 ครั้ง ใน 2 นาที หญิง 25 ครั้ง ใน 2 นาที3.ดันพื้น (วิดพื้น) ชาย 22 ครั้ง ใน 2 นาที หญิง 15 ครั้ง ใน 2 นาที (เข่าติดพื้น)เมื่อทำการทดสอบเสร็จแล้วผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะถูกเรียกตัวให้ไปจ่ายเงินค่าการศึกษาและทำบัตรประทำตัวนักศึกษาส่วนผู้ที่ไม่ผ่านการคัดเลือกในรอบนี้ไม่ต้องเสียใจไปรอทางศูนย์ฝึกแจ้งไปทางโรงเรียนเรียกผลสำรองเพิ่มเติมในส่วนของคนที่ไม่ผ่านในรอบแรกเรามีข้อแนะนำดี ๆ ในการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการวัดสมรรถภาพในวัดคัดตัวมาเพื่อแนะนำสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายภายใน 1 เดือนมาฝากอีกด้วยเริ่มต้นด้วยการออกกำลังกายด้วยความเข้มข้นต่อเนื่องจากเป็นผู้ที่เริ่มออกกำลังใหม่วิธีนี้จึงดีต่อร่างกายไม่เกินการบาดเจ็บพักผ่อนให้เพียงพอเวลาที่แนะนำ 8 -10 ชั่วโมงต่อวัน เวลาที่เราหลับร่างกายจะฟื้นฟูส่วนต่าง ๆ ของร่างกายกินอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ งดอาหารที่มีไขมันมากเกินไปเมื่อร่างกายเริ่มที่จะแข็งแรงแล้วควรเพิ่มความเข้มข้นของการออกกำลังกายให้มากขึ้นเช่นการวิดพื้น ซิทอัพ วิ่งไวการเรียนรด. นั้นเมื่อเรียนจบปีที่ 3 ผู้ที่เรียนจบไม่ต้องทำการเกณฑ์ทหาร ถ้าหากเรียนจบปี 5 จะได้ยศว่าที่ร้อยตรีอีกด้วย ผมจะมาเล่าประสบการณ์ของผมในการเตรียมตัวและลงสนามทดสอบจริงตอนนั้นผมมีน้ำหนักค่อนข้างเยอะมากน้ำหนักผมตอนนั้น 100 กิโลพอดีเลย ตอนแรกผมก็กลัวว่าจะโดนคัดออกไม่ให้เรียนพอไปถึงที่ศูนย์ฝึกทางครูฝึกจะแบ่งเรียงเลขที่ตามตัวอักษรขึ้นหน้ารายชื่อผมที่มีชื่อนำหน้าด้วน จ ได้อยู่เลขที่แรก ๆ เลยตื่นเต้นมาก ๆ ครูฝึกจะให้เรากรอกเอกสารและรอที่จะตรวจร่างกายครูฝึกให้ถอดเสื้อออกเพื่อที่จะตรวจหาพวกรอยสักหรือไม่ พอผ่านจุดนี้มาครูฝึกก็จะแยกเด็กออกเป็นกลุ่มเพื่อที่จะได้เข้าการทดสอบร่างกาย ผมได้ทดสอบวิดพื้นเป็นฐานแรก ครูฝึกจะให้เราจับคู่ให้คู่เรานอนตะแคงแล้วกำมือวางไว้แล้วให้อีกคนวิดพื้นลงให้ถึงกำปั้นแล้วนับเลขดัง ๆ ใครไม่ดังเริ่มใหม่ตอนที่วิดแรก ๆ ไม่ค่อยเท่าไหร่แต่พอใกล้ครบรู้สึกหนักขึ้นมากแต่อดเอาไม่นานเดียวก็ผ่านแล้วผมผ่านมาได้พอดีกับเวลาได้ 100 คะแนนฐานที่ 2 ซิทอัพ เหมือนเดิมครูฝึกให้เราจับคู่และให้อีกคนจับขาไว้ตอนเริ่มให้นอนลงหัวชิดพื้นขึ้นให้สุดแล้วนับ 1 แนะนำว่าไม่ต้องทำเร็วมากเพราะจะมึนหัวได้ตอนนั้นผมทำเสร็จโลกหมุนเลยแต่ก็ผ่านมาได้ 100 คะแนนมาถึงฐานสุดท้ายฐานนี้ถือว่าเป็นฐานตัดสินเลยว่าใครจะได้ผ่านการทดสอบฐานวิ่งครูฝึกจะแจกเสื้อที่มีสีและเลขที่ไม่ซ้ำกับคนอื่นและให้เขียนในใบรายชื่อว่าเราได้เลขอะไรสีอะไรพอใกล้เริ่มจะมารวมตัวกันตรงที่ครูฝึกจัดไว้ให้พอสั่งวิ่งให้วิ่งไปไม่ต้องสนใครทั้งนั้นห้ามหยุดเพราะจะไม่ทันเวลาแต่ผมดันมาพลาดฐานนี้เข้าช้าไป 15 วินาทีพอเข้าทดสอบทั้ง 3 ฐานเสร็จแล้วก็รอประกาศผลผมไม่ผ่านรอบนี้เสียดายมาก ส่วนคนที่ผ่านจะได้ไปจ่ายเงินและทำบัตรนักศึกษา คนที่ไม่ผ่านกลับบ้านรอทางศูนย์เรียกอีกครั้ง พอสัปดาห์ต่อมาศูนย์ฝึกก็ได้เรียกส่วนที่เหลือไปรายงานตัวเพื่อเข้าเรียนและทำบัตรเหมือนกับรอบแรกเลย ผมก็ได้เป็นนักศึกษาวิชาทหารผมคือคนฝั่งซ้ายสุด การเรียนรด. นั้น บางที่ก็น่าเบื่อบ้าง สนุกบ้าง ปนกันไป แต่ผมคิดว่าถ้ามีโอกาสก็คุ้มมากที่จะเรียน เพราะได้ประสบการณ์เยอะแยะในการเรียนเวลาดี ๆ ที่ได้ทำกิจกรรมกับเพื่อนครูฝึกที่ทุกคนมีความสนุกของตัวเองไม่รู้สึกเสียดายที่ได้เรียนแน่นอนครับ ขอบคุณที่เข้ามารับชม รูปภาพหน้าปกโดยผู้เขียน