ภาพจาก:https://www.thaiairways.com การเรียน เป็นเส้นทางหนึ่งที่ทุกคนต้องเจอ และถึงเเม้มันจะเป็นเส้นทางที่ยากลำบากเเต่ทุกคนก็สามารถผ่านมาได้ด้วยความพยายาม จนมาถึงทางแยกที่เรียกว่า "การเข้ามหาลัย" ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่ยากที่สุด เพราะการเลือกมหาลัยเป็นหน้าต่างของอนาคต ซึ่งมีคนจำนวนมาที่เลือกเรียนต่อต่างประเทศ อาจเป็นเพราะค่านิยมหรือต้องการเปิดโลกทัศน์ และประเทศที่คนจำนวนมากนิยมไปเรียนต่อคือ อังกฤษ อเมริกา ออสเตเลีย ญี่ปุ่น ฯลฯ มหาลัยญี่ปุ่น เป็นที่นิยมในมหาลัยฝั่งตะวันออก สำหรับคนที่มีเป้าหมายจะเรียนต่อประเทศญี่ปุ่นอาจไม่รู้ว่าควรจะเลือกเรียนที่ไหน เพราะมีตัวเลือกหลากหลาย วันนี้เราจะมาแนะนำ 5 มหาลัยชื่อดังของญี่ปุ่นที่มีการสอนเป็นภาษาอังกฤษด้วย เพื่อให้ง่ายต่อการเลือกมหาลัยที่ต้องการค่ะ1.Waseda University (Tokyo) มหาวิทยาลัย ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นที่ได้รับการยอมรับทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ มีนักศึกษาชาวต่างชาติทั้งหมด 4,710 คน ที่นี่มีคณะทั้งหมด 10 คณะ โดยเปิดสอนหลักสูตรภาษาอังกฤษในระดับปริญญาตรีอยู่ 7 สาขา คือ รัฐศาสตร์และเศรษฐศาสตร์, สังคมศาสตร์, การศึกษาทางด้านเสรีนิยมระหว่างประเทศ, วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมขั้นพื้นฐาน, วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมอย่างสร้างสรรค์, วิทยาศาสตร์และวิศกรรมขั้นสูง, และวัฒนธรรม สื่อ และสังคม แต่จะขึ้นชื่อมากที่สุดในด้านบริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ และรัฐศาสตร์ เว็บไซต์: https://www.waseda.jp2. International Christian University (Tokyo) สถาบันเทคโนโลยีแห่งโตเกียวขึ้นชื่อในเรื่องของการเป็นผู้นำด้านงานวิจัยในสาขาวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม และยังถูกจัดเป็นวิทยาลัยชั้นนำของโลก มีด้วยกัน 3 วิทยาเขต คือ โอคายามะ ทามาจิ และซุสุคาเคได หลักสูตรที่เปิดสอนจะเน้นไปทางด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม มีด้วยกัน 6 คณะค่ะ ได้แก่ คณะวิทยาศาสตร์, คณะวิศวกรรม, คณะวัสดุและเทคโนโลยีเคมี, คณะคอมพิวเตอร์, คณะวิทยาศาสตร์ชีวภาพและเทคโนโลยี, และคณะสิ่งแวดล้อมและสังคม สถาบันแห่งนี้ได้รับความนิยมในหมู่นักศึกษาชาวไทยสายวิศวะ เว็บไซต์: https://www.icu.ac.jp/3. Keio University (Tokyo) มหาวิทยาลัยตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว เป็นอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยระดับต้นๆ ของญี่ปุ่นและถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น ที่นี่มีจำนวนนักศึกษาต่างชาติราวๆ 1,200 คน เป็นชาวเกาหลีและจีนจำนวนมากที่สุด ที่มหาวิทยาลัยเคโอมีแนวทางอยู่ด้วยกัน 7 ข้อคือ โรงเรียนราษฎ์ อิสระและเคารพตนเอง วิทยาศาสตร์ แหล่งแห่งตัวตนที่มีเกียรติ การเรียนที่ควบคู่ไปกับการสอน สร้างอดีตเพื่อกำหนดอนาคต และความร่วมมือภายในองค์กร ภายในจะกอบไปด้วย 11 คณะ จุดเด่นของมหาวิทยาลัย ต้องยกให้ทางด้านสาขาแพทยศาสตร์ เพราะว่ามีการแลกเปลี่ยนทางด้านงานวิจัยกับมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดมาอย่างยาวนาน และเปิดสอนหลักสูตรภาษาอังกฤษเช่นกัน ในระดับปริญญาตรี 3 คณะ และระดับบัณฑิตศึกษา 9 คณะ เว็บไซต์: https://www.keio.ac.jp/4. Nagoya University (Nagoya) มหาวิทยาลัยนี้เป็น 1 ใน 7 มหาวิทยาลัยแห่งชาติของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติในเรื่องความสำเร็จด้านงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และขึ้นชื่อในเรื่องของความเป็นอิสระ โดยทางมหาวิทยาลัยมีเป้าหมายว่าจะติดตามความจริงและสร้างผลงานที่แตกต่างผ่านเวทีระดับโลก อีกทั้งจะปลูกฝังปัญญาชนผู้กล้าหาญด้วยความคิดแบบมีเหตุผลและสร้างสรรค์ ที่นี่มีนักศึกษาชาวต่างชาติราว 1,600 คน ภายในมหาวิทยาลัยประกอบไปด้วย 9 คณะ อีกทั้งยังเปิดสอนหลักสูตรภาษาอังกฤษในระดับปริญญาตรี 3 สาขา คือ วิศวกรรมเครื่องยนต์ เคมี และสังคมศาสตร์ ส่วนในระดับบัณฑิตศึกษา (โท-เอก) เปิดสอน 3 สาขา คือ วิทยาศาสตร์การแพทย์ ฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ และวัฒนธรรมญี่ปุ่นและเอเชียศึกษา เว็บไซต์: http://en.nagoya-u.ac.jp/5. Hokkaido University (Hokkaido) มหาลัยแห่งนี้ มหาวิทยาลัยนี้เองก็เป็น 1 ใน 7 มหาวิทยาลัยแห่งชาติของญี่ปุ่น ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีนั้นเป็นมหาวิทยาลัยแห่งการเกษตรมาก่อน ที่นี่มีปรัชญาว่าด้วย จิตวิญญาณแห่งพรมแดน มุมมองระดับโลก การศึกษารอบด้าน และการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ มหาวิทยาลัยฮอกไกโดมีคณะอยู่ทั้งหมด 12 คณะ เรียกว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีคณะมากที่สุดและครอบคลุมทุกสาขาวิชามากที่สุดในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ และคณะที่ขึ้นชื่อมากที่สุดคือ คณะเกษตรกรรม จากผลการจัดอันดับของ QS คณะอื่นๆ ที่มีชื่อเสียงไม่แพ้กันได้แก่ คณะวิทยาศาสตร์ และคณะวิศวกรรมศาสตร์ เว็บไซต์: https://www.global.hokudai.ac.jp/ **ท่านใดที่สนใจสามารถดูเว็บไซต์ของทางมหาลัยได้ทางลิ้งค์ด้านล่างของคำแนะนำำด้เลยนะคะ ขอบคุณรูปภาพจาก : 1. https://www.waseda.jp/ (Waseda University) 2. http://souken.shingakunet.com/ (International Christian University) 3. https://www.keio.ac.jp/ (Keio University) 4. https://www-e.nufs.ac.jp/ (Nagoya University) 5. https://www.academicindonesia.com/ (Hokkaido University)ขอบคุณข้อมูลจาก : 1. https://www.tsunagujapan.com/ 2. https://www.dek-d.com/