รีเซต

AKRรุกหม้อแปลงนอก ตุนแบ็กล็อกแน่น700ล.

AKRรุกหม้อแปลงนอก ตุนแบ็กล็อกแน่น700ล.
ทันหุ้น
16 พฤศจิกายน 2564 ( 00:11 )
290

 

ทันหุ้น – AKR มองปี 2565 งานใหม่ภาครัฐ-เอกชน ทยอยออกต่อเนื่องกว่า 3 หมื่นล้านบาท คาดคว้างานใหม่เติมพอร์ตไม่ต่ำกว่า 10% ติดปีกขยายตลาดต่างแดน หวังขยายฐานลูกค้าเพิ่ม ประเดิมออสเตรเลีย ปี 2565 เล็งกลุ่มเอเชีย-ยุโรปเพิ่ม อวดแบ็กล็อกแน่น 700 ล้านบาท คาดรับรู้ในช่วงที่เหลือปีนี้ไม่ต่ำกว่า 60% มั่นใจผลงานปีนี้ดีกว่าปีก่อนแน่นอน

 

นายดนุชา  น้อยใจบุญ  กรรมการ บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ AKR เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมในช่วงปี 2565 บริษัทมองว่าหากไม่มีปัจจัยลบใหม่เข้ามากดดัน เชื่อว่าโครงการลงทุนใหม่ทั้งส่วนงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน จะกลับมาทยอยเปิดประมูลและลงทุนได้ใกล้เคียงปกติ ซึ่งในส่วนงานหม้อแปลงคาดมีมูลค่าสูงกว่า 30,000 ล้านบาท

 

นอกจากนี้ บริษัทยังมีความสนใจและอยู่ระหว่างการศึกษาการขยายตลาดหม้อแปลงไฟฟ้าในต่างประเทศ โดยเฉพาะในโซนเอเชียและยุโรป เนื่องจากเป็นตลาดใหญ่ที่มีแผนการพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีกำลังซื้อ เบื้องต้นคาดว่าในปี 2565 จะได้เห็นความชัดเจน อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันบริษัทได้มีการขยายตลาดหม้อแปลงไฟฟ้าไปในประเทศออสเตรเลียและได้รับออเดอร์เข้ามาบ้างแล้ว แต่มูลค่าอาจไม่สูงมากนักราวๆ 6-10 ล้านบาท แต่ด้วยการตอบรับจากลูกค้าที่ค่อนข้างดีทำให้มองว่าในปีหน้ามีโอกาสที่บริษัทจะได้รับออเดอร์ใหม่จากทั้งลูกค้าเดิมและลูกค้ารายใหม่เข้ามาเพิ่ม

 

*ย้ำรายได้ปีนี้โต 10%

ขณะที่งานรับเหมาออกแบบและติดตั้ง (EPC) แผงโซลาร์เซลล์นั้น เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 บริษัทยังคงเดินหน้ารับงานติดตั้งแผง Solar Rooftop ให้กับโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงเข้าร่วมประมูลงานจากกระทรวงพลังงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ที่มีแผนการลงทุน EPC ติดตั้งโซลาร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อใช้ปั่นไฟสูบน้ำเข้าทำการเกษตร ตลอดจนโครงการลงทุนเพื่อติดตั้งแผง Solar  Rooftop ให้กับโรงพยาบาลและโรงเรียน และหน่วยงานอื่นๆ ทั่วประเทศอีกด้วย ซึ่งเชื่อว่าการลงทุนต่างๆ จะมีการเติบโตที่มากกว่าในปีนี้

 

จากปัจจัยข้างต้นที่กล่าวมาส่งผลให้บริษัทคาดว่ารายได้ในปี 2565 จะเติบโตไม่น้อยกว่า 10% และคาดว่าจะสามารถรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 25% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 5-6% ได้ โดยสิ้นปี 2564 คาดว่ารายได้ใกล้เคียงหรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 1,503.49 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 98.44 ล้านบาท โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้บริษัทสามารถทำรายได้แล้วกว่า 995.20 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 55.67 ล้านบาท มีระดับอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ย 25.11% และอัตรากำไรสุทธิ 5.59%

 

*ยอดขายหม้อแปลงฟื้น 20%

ส่วนภาพรวมธุรกิจในไตรมาส 4/2564 จากการที่ภาครัฐออกมาประกาศคลายล็อกดาวน์ รวมถึงวางกำหนดการเปิดประเทศที่ชัดเจน ส่งผลให้ทั้งโครงการลงทุนของภาครัฐและเอกชน เริ่มทยอยกลับมาเปิดประมูลและดำเนินการก่อสร้างได้บ้างแล้ว ส่งผลให้บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2564 จะเติบโตโดดเด่นในปี 2564 โดยเฉพาะในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม 2564 ยอดขายหม้อแปลงไฟฟ้าปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงกว่า 20% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ประกอบกับปัจจุบันมีลูกค้าทยอยส่งออเดอร์เพิ่มมากขึ้น และมีงานหลายโครงการที่เริ่มทยอยส่งมอบและเข้าหน้างานเพื่อติดตั้งให้กับลูกค้าได้บ้างแล้ว

 

อีกทั้งบริษัทยังมีงานในมือที่รอการทยอยส่งมอบ (Backlog) ในมืออีกกว่า 700 ล้านบาท แบ่งเป็นงานหม้อแปลง 400 ล้านบาท และงาน EPC 300 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทยอยรับรู้เป็นรายได้เข้าไตรมาส 4/2564 ประมาณ 60% ในส่วนที่เหลือคาดจะบุ๊กเข้ามาในช่วงไตรมาส 1/2565 เป็นต้นไป พร้อมกันนี้ ล่าสุดบริษัทได้รับงานหม้อแปลงไฟฟ้าจากทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เข้ามาเพิ่มเติมอีก 150 ล้านบาท จากการเข้าไปร่วมประมูลรวมกว่า 2,000 ล้านบาท โดยบริษัทวางเป้าหมายได้ส่วนแบ่งงานไม่น้อยกว่า 10% ของมูลค่ารวมดังกล่าว ซึ่งคาดว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้มีโอกาสได้งานใหม่เข้ามาเติมเพิ่ม

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง