WHO จี้ประเทศร่ำรวยหยุดฉีดเข็ม 3 ช่วยคนยังไม่ได้เข็มแรก
วันนี้ (5 ส.ค.64) นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ออกมาเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ระงับการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 เพื่อเป็นหนทางที่จะรับประกันว่ามีวัคซีนต้านโควิด-19 เพียงพอ สำหรับประเทศที่ประชากรเพิ่งจะได้รับ หรือยังยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มแรก
“กีบรีเยซุส” ออกมาเรียกร้อง โดยพุ่งเป้าไปที่ประเทศร่ำรวยส่วนใหญ่ ซึ่งมีอัตราการฉีดวัคซีนมากกว่าประเทศกำลังพัฒนาเป็นจำนวนมาก โดยระบุว่า ประเทศร่ำรวยได้มีการกระจายวัคซีนให้กับผู้คนราว 100 โดสเฉลี่ยต่อประชากรทุก 100 คน ขณะที่ประเทศที่มีรายได้ต่ำกลับไม่สามารถหาวัคซีนได้ และมีคนในประเทศได้รับวัคซีนเฉลี่ยเพียง 1.5 โดสต่อประชากร 100 คนเท่านั้น
องค์การอนามัยโลก ร้องขออีกครั้งว่า ให้ประเทศร่ำรวยช่วยเปิดโอกาสในการเข้าถึงวัคซีนให้กับประเทศกำลังพัฒนา พร้อมทั้งยืนยันข้อเท็จจริงที่ว่าจะไม่มีใครปลอดภัยจนกว่าทุกคนจะปลอดภัย เพราะยิ่งไวรัสโควิด-19แพร่ระบาดนานเท่าไหร่และเป็นวงกว้างเท่าไหร่ โอกาสที่ไวรัสกลายพันธุ์ชนิดใหม่จะปรากฏขึ้นก็เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น และจะยิ่งทำให้วิกฤตการณ์ของโลกในการรับมือกับโควิด-19 ยืดยาวออกไปด้วยเช่นกัน
กีบรีเยซุส พูดถึงเป้าหมายที่เคยประกาศไว้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า องค์การอนามัยโลกต้องการให้แน่ใจว่ามีประชากรอย่างน้อย 10% ของทุกประเทศในโลกได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 แล้ว
ดังนั้นองค์การอนามัยโลกจึงขอเรียกร้องให้มีการระงับการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 เอาไว้ก่อนจนกว่าอย่างน้อยถึงปลายเดือนกันยายน เพื่อทำให้เป้าหมายที่ตั้งใจไว้ในการฉีดวัคซีนให้กับประชากร 10% ในทุกประเทศเกิดขึ้นได้จริง
ปัจจุบันมีเพียงไม่กี่ประเทศในโลก อาทิ อิสราเอล ฝรั่งเศส เยอรมนีและหลายประเทศในตะวันออกกลางได้เริ่มต้นฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 แล้ว ขณะที่อีกหลายชาติซึ่งรวมถึงสหรัฐและอังกฤษ กำลังพิจารณาวางแผนที่จะทำการฉีดวัคซีนเข็ม 3 เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสกลายพันธุ์เดลต้า