SPALIอัพฐานภาคตะวันออก เปิดโครงการใหม่3,220ล้าน
#SPALI #ทันหุ้น –SPALI รุกขยายฐานภาคตะวันออก ลุยปั๊มพอร์ตแนวราบชลบุรี เตรียมเปิด 2โครงการระดับพรีเมียมทำเลคุณภาพ บ้านบึง – บ่อวิน มูลค่ารวม 3,220 ล้านบาท ตั้งเป้ากวาดยอดขายทะยานสู่ 200 ล้านบาท ฟากโบรกมองแผนเชงรุกผลักดันการเตบโตปี 2567 กําไรปี ฟื้นจากฐานต่ำ คงราคาเหมาะสม 24 บาท ยังแนะนํา “ซื้อ”
นายราชัย ปิยวาจานุสรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานโครงการภูมิภาค 1 บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จังหวัดชลบุรี ยังคงเป็นเมืองเศรษฐกิจยอดนิยมที่มีศักยภาพในการพัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์สูง ด้วยแรงหนุนจากปัจจัยหลายประการ อาทิ ปัจจัยบวกจากโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC), การเพิ่มขึ้นของกลุ่มประชากรชาวต่างชาติ, การส่งเสริมการท่องเที่ยวจากทั้งภาครัฐและเอกชน และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งความเจริญเหล่านี้เป็นเหมือนแม่เหล็กดึงดูดผู้คนให้เข้ามาพักอาศัยและทำงานในพื้นที่เพิ่มขึ้นทุกปี และเป็นจังหวัดที่ทำยอดขายสูงในอันดับต้นๆของบริษัทฯ
โดยในปี 2567 นี้ บริษัทเล็งบุกตลาดบ้านเมืองชลฯ ตั้งแต่ต้นปี ส่ง 2 โครงการใหม่ล่าสุดระดับพรีเมียม รวมมูลค่า 3,220 ล้านบาท “ศุภาลัย พรีมา วิลล่า บ้านบึง” มูลค่าโครงการ 1,134 ล้านบาท บนพื้นที่โครงการกว่า 42 ไร่ บนสังคมส่วนตัวเพียง 145 ครอบครัว กับแบบบ้านที่พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการถึง 5 แบบ พื้นที่ใช้สอย 208 - 417 ตร.ม. มีทั้ง 4 – 5 ห้องนอน 3 - 6 ห้องน้ำ 2 - 3ที่จอดรถ ในราคาเริ่มต้น 6.49 – 16 ล้านบาท และ “ศุภาลัย ปาล์มสปริงส์ บ่อวิน - อีสเทิร์น” มูลค่า 2,086 ล้านบาท ในราคาเริ่มต้น 4.5 - 16 ล้านบาท โดยคาดว่าทั้ง 2 โครงการจะสามารถกวาดยอดขายช่วงเปิดตัวได้ถึง 200 ล้านบาท
*เปิดโครงการใหม่นิวไฮ
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุถึงว่า SPALI เปิดเผยแผนธุรกิจเชิงรุกในปี 2567 ทำ New High ในทุกมิติ ผ่านแผนเปิด โครงการใหม่ 42 โครงการ มูลค่ารวม 5 หมื่นล้านบาท (+69%y-y) ซึ่งรวมถึงโครงการที่ถูกเลื่อนมาจากไตรมาส 4/2566 ราว 9 พันล้านบาท ขณะที่การกระจายตัวดีขึ้นเป็นสัดส่วน มากกว่า 50% อยู่ในครึ่งปีแรก 2567เพื่อรับรู้ได้ทันภายในปี
โดยการเปิดตัวแนวราบ 38 โครงการมูลค่า 4.35 หมื่นล้านบาท (+86% y-y) ทำต่างจังหวัด 22 แห่ง และกทม. 16 แห่ง เน้น กลุ่ม Mid-End ราคา 4-8 ล้านบาท พร้อมเพิ่มกลุ่ม High-end ราคามากกว่า 10 ล้านบาท ในสัดส่วน 10-15% ส่วนคอนโด เปิดตัว 4 โครงการใหม่ มูลค่า 6.5 พันล้านบาท เป็น กทม. 2 แห่ง และต่างจังหวัด 2 แห่ง เพื่อเติม Backlog ปี 2568-2569 ที่มีไม่มาก
การรุกเปิดโครงการใหม่จำนวนมาก ควบคู่กับการเน้นขายสต็อก โดยเฉพาะคอนโดที่สร้างเสร็จใหม่ในปีนี้ 5 แห่ง มูลค่ารวม 1.8 หมื่นล้านบาท มียอดขายเฉลี่ย 27% ผลักดันสู่การตั้งเป้าเติบโตของยอด Presales ที่่ 3.6 หมื่นล้านบาท (+25% y-y) แบ่งเป็นแนวราบ76% ที่ 2.7 หมื่นล้าบาท (+39% y-y) และคอนโด 8.6 พันล้านบาท (-6% y-y) รวมถึง ตั้งเป้ายอดโอน 3.6 หมื่นล้านบาท (แนวราบ 70% และคอนโด 30%) ฟื้นตัวจากปี 2566 ที่คาดจบระดับ 3 หมื่นล้านบาท ขณะที่การลงทุนใหม่ในออสเตรเลีย 12 โครงการ (SPALI ถือ 49.9%) เริ่มรับรู้ตั้งแต่ปี 2567 หนุนส่วนแบ่งกําไร JV เพิ่มขึ้น
*ลุ้นปันผล 0.60 บาท
ทั้งนี้ปี 2567 มองว่าเป้าบริษัทมีความท้าทายจากสภาพตลาดอสังหาฯที่ไม่แน่นอนท่ามกลางการแข่งขันสูงและความเข้มงวดจากธนาคาร โดยคงคาดยอดโอนที่ 3.4 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าเป้าบริษัท 7% ซึ่งมี Backlog รอรับรู้ 1.35 หมื่นล้านบาท รองรับแล้ว 40% คงประมาณการกําไรปี 2567 ที่ 6.6 พันล้านบาท (+14% y-y) และคงราคาเหมาะสม 24 บาท ยังแนะนําซื้อ โดยคาดปันผลครึ่งปีหลัง 2566 ที่ 0.60 บาท/หุ้น Yield 3%