รีเซต

STARKยานยนต์EVดัน ลุ้นงานกลุ่มปตท.เพิ่ม

STARKยานยนต์EVดัน ลุ้นงานกลุ่มปตท.เพิ่ม
ทันหุ้น
18 กรกฎาคม 2564 ( 22:52 )
315

 

ทันหุ้น-STRAK เติบโตแรงตามเทรนด์โลก เตรียมเข้าประมูลงานครึ่งปีหลังจำนวนมาก ทั้งในไทย-เวียดนาม พร้อมโอกาสรับงานขยายพลังงานทดแทน งานติดตั้งสถานีชาร์จรถ EV แถมโอกาสรับงานของกลุ่มปตท. ดันงานในมือเพิ่ม จากปัจจุบันที่ 1.3หมื่นล้านบาท เผยมั่นใจผลประกอบการครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง รายได้ปีนี้ลุ้นเกินเป้าที่ตั้งไว้ 15-20%เผยสถาบันใน-นอกสนใจธุรกิจ แย้มมีนักลงทุนขอซื้อบิ๊กล็อตต่อเนื่อง

 

นายชนินทร์ เย็นสุดใจ ประธานกรรมการ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เปิดเผยว่า สำหรับผนการดำเนินธุรกิจในปี 2564คาดว่ารายได้จะเติบโตเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 15-20%จากปีก่อนที่มีรายได้ 16,917 ล้านบาท โดยไตรมาส 1/2564บริษัทมีรายได้แล้วกว่า 4,665 ล้านบาท โดยรายได้หลักคือ ธุรกิจสายไฟฟ้า และสายเคเบิ้ล มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีไปพร้อมกับอุตสาหกรรมไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเวียดนามที่มีอัตราการเติบโตในการขยายตัวของการใช้สายไฟฟ้าสูงถึงปีละ 15% ส่วนในประเทศไทยมีการเติบโตอยู่ที่ปีละ 6-7%

 

*ลุยงาน EV Charging

นอกจากนี้ยังคงมุ่งเน้นการขายสินค้าในกลุ่มที่มีความสามารถในการทำกำไรได้สูง (High Margin) ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังยังเดินหน้าเข้าร่วมประมูลงานต่อเนื่อง จากทั้ง 3 การไฟฟ้า คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง(กฟน.)และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ขณะเดียวกันยังมีโอกาสขยายพลังงานทดแทนของภาคเอกชน การดำเนินการโรงไฟฟ้าชุมชน รวมไปถึงการขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charging Station) และงานภาคเอกชนขนาดใหญ่อย่างกลุ่ม ปตท.ที่จะเห็นได้มากขณะนี้มีการขยายพลังงานทดแทนมากขึ้น ซึ่งล้วนแต่ต้องใช้สายไฟฟ้าทั้งนั้น ทั้งนี้หากบริษัทได้รับงานต่อเนื่องจะสนับสนุนมูลค่างานในมือ (Backlog)ให้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่13,000ล้านบาท โดยเป็นงานทั้งในและต่างประเทศ

 

“ตอนนี้บริษัทมีงานเข้ามาจำนวนมากซึ่งเป็นการเติบโต ตามเทรนด์ของโลกทั้งในเรื่องของพลังงานทดแทน EV Charging ซึ่งโครงการส่วนใหญ่จะใช้ในเรื่องของสายไฟฟ้า ทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่ อย่าง EV Charging ก็จะต้องใช้สายไฟฟ้าขนาดใหญ่มากขึ้น ต้องมีการวางระบบไฟฟ้าใหม่ ดังนั้นก็มีงานเข้ามาต่อเนื่อง รวมไปถึงการเข้าประมูลงานทั้งสามการไฟฟ้า ในประเทศ และงานที่ประเทศเวียดนาม ตอนนี้สัดส่วนรายได้จากในประเทศและเวียดนามอยู่ที่ 50:50นอกจากนี้ยังมีการส่งออกไปประเทศอื่นอย่างในสหรัฐก็มีโอกาสที่จะมีออเดอร์เพิ่ม ”นายชนินทร์ กล่าว

 

พร้อมกันนี้บริษัทยังได้ดำเนินแผนการลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย (Lean management) มาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัท ยังได้มีนโยบายที่ใช้โรงหลอม Dovina ที่ประเทศเวียดนาม เพื่อหลอม และแปรรูป เพื่อใช้ภายในกลุ่มบริษัท ส่งผลทำให้บริษัทย่อย PDITL มีต้นทุนการผลิตที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย

 

*สถาบันใน-นอกสนใจธุรกิจ

อย่างไรก็ดีธุรกิจของบริษัทสามารถเติบโตได้ตามการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ดังนั้นช่วงโควิด-19บริษัทไม่ได้รับผลกระทบมากนัก อาจจะทำให้การเดินทางระหว่างประเทศเลื่อนออกไปบ้าง แต่ในด้านผลประกอบการยังสามารถเติบโตได้ดี และมองว่าแนวโน้มอุตสาหกรรมสายไฟฟ้าและสายเคเบิลมีแนวโน้มการเติบโตได้อย่างโดดเด่นจากความต้องการใช้เพิ่มขึ้นในทั่วทุกมุมโลกอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากช่วงไตรมาส 1/2564 ที่บริษัทสามารถทำผลประกอบการออกมาเติบโต ทำให้ที่ผ่านมานักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ สนใจธุรกิจของบริษัทอย่างมาก มีจำนวนสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มต่อเนื่อง รวมไปถึงมีนักลงทุนเข้ามาติดต่อขอซื้อหุ้นบิ๊กลอตอยู่สม่ำเสมอ

 

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง