ในช่วงที่ฝนตกทุกคนที่ขับรถมอเตอร์ไซค์เคยรู้สึกไม่ปลอดภัยกันบ้างไหมครับ ไม่ว่าจะเป็นพื้นถนนที่ลื่น ลมที่แรง ทัศนวิสัยที่ไม่ดี และตามรายงานของ กรมการขนส่งทางบกประจำปี 2020 รายงานอุบัติเหตุจราจรที่เกิดในประเทศไทย พบว่ามีอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ มีจำนวนคดี 24,361 คดี และเสียชีวิต 10,446 ราย และบาดเจ็บ 14,421 รายอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์เป็นสาเหตุหลักของการบาดเจ็บและเสียชีวิตในอุบัติเหตุจราจรในประเทศไทย. ดังนั้นในวันนี้เราจึงมี5เคล็ดลับที่อาจจะช่วยให้การขับขี่ของคุณปลอดภัยได้มากขึ้นเวลาฝนตก พร้อมทั้งให้เกล็ดความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์เล็กๆน้อยๆระหว่างทาง ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย!!1) ลดความเร็วและรักษาระยะห่างจากรถคันหน้ามากขึ้นหนึ่งในสาเหตุหลักของอุบัติเหตุบนท้องถนนนั้นก็คือการขับขี่ด้วยความเร็วที่สูงเกินกว่ากฎหมายกำหนด หรือเกินที่ตัวเองจะควบคุมได้ โดยความเสี่ยงนั้นจะเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณเมื่อขับรถมอเตอร์ไซค์ตอนฝนตกเนื่องจากสภาพถนนที่เปียกนั้นส่งผลให้ระยะเบรคมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเหตุผลที่เราควรลดความเร็วและรักษาระยะห่างจากรถคันหน้ามากขึ้นนั้นมาด้วยกันก็เพราะว่าหากคิดจากหลักวิทยาศาสตร์โดยคร่าวๆ ระยะเบรคนั้นจะเพิ่มขึ้นเป็นยกกำลังสองของความเร็วที่เพิ่มขึ้น เช่นสมมุติขับเพิ่มความเร็วเป็น2เท่าของความเร็วเดิม ระยะเบรคจะไม่ได้เพิ่มขึ้น2เท่า แต่จะเพิ่มขึ้นถึง4เท่า และหากขับเร็วขึ้น3เท่า ระยะเบรคนั้นจะเพิ่มขึ้นถึง9เท่านั้นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงเป็นเรื่องจำเป็นมากในการลดความเร็วและรักษาระยะห่างจากรถคันหน้ามากขึ้นเวลาขับขี่ตอนที่ฝนตก2) ใช้เบรคหน้าแทนที่จะใช้เบรคหลังผมเชื่อว่าหลายคนอาจจะสงสัยกับเทคนิคข้อนี้เนื่องจากเคยได้ยินว่าเวลาที่จะเบรคจักรยานหรือรถมอเตอร์ไซค์นั้นควรใช้เบรคหลัง เพราะว่าใช้เบรคหน้าแล้วหัวทิ่ม ซึ่งก็ไม่ได้เป็นความคิดที่ผิดใดๆแต่ในยามที่ต้องเบรคฉุกเฉินหรือในช่วงเวลาที่พื้นถนนนั้นไม่ได้มีสมรรถภาพในการยึดเกาะที่ดีเช่นยามฝนตกนั้น เบรคหน้าจะมีความสามารถในการเบรคที่เยอะกว่าล้อหลังมากๆ หากลองสังเกตง่ายๆให้ทุกคนคิดถึงตอนปั่นจักรยานบนพื้นลื่นๆ แล้วลองกดเบรคหลังดูจะเห็นว่าด้วยแรงเบรคนิดเดียวล้อหลังก็ล็อคแล้ว แต่ถ้าใช้เบรคหน้าจะสามารถเบรคได้เยอะกว่าอย่างเห็นได้ชัดโดยเหตุผลที่เป็นเช่นนี้เป็นเพราะว่าเวลาเราเบรคน้ำหนักนั้นจะถ่ายโอนไปบริเวณด้านหน้า โดยสังเกตได้ง่ายๆจากความรู้สึกที่ตัวเราเหมือนกำลังถูกโยนไปด้านหน้าเวลาเบรค แล้วความสามารถในการยึดเกาะของตัวยางรถนั้นขึ้นอยู่กับน้ำหนักที่กดมันลงกับพื้น โดยคิดภาพง่ายๆเหมือนเราเอายางลบมากดลงบนโต๊ะ หากเรากดมันลงเบาๆเราจะสามารถลากมันให้ไถลบนโต๊ะได้โดยไม่ยาก แต่หากเรากดมันแรงๆจะเห็นได้ชัดว่าต้องใช้แรงที่มากกว่าในการทำให้มันไถล ดังนั้นเนื่องจากน้ำหนักที่กดมาด้านหน้าเวลาเบรคจึงทำให้ความสามารถในการเบรคของเบรคหน้านั้นสามารถทำได้มากกว่าเบรคหลังอย่างมาก(เกล็ดความรู้เล็กน้อย: หากทุกคนลองสังเกตุดูดีๆบนรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้ดิสก์เบรคทั้งด้านหน้าและหลัง จะเห็นว่าจานเบรคหน้านั้นจะใหญ่กว่าเบรคหลังเสมอ จนถึงขั้นว่าในรถบิ๊กไบค์บางคันต้องมีจานเบรคหน้าถึง2อัน โดยเหตุผลที่จานเบรคหน้านั้นใหญ่กว่าก็เพราะประสิทธิภาพในการเบรคที่สามารถทำได้มากกว่าของเบรคหน้านั้นแหละครับ)3) ขับขี่ให้สมูทมากขึ้นและอย่าเกร็งการขับขี่ที่สมูทนั้นเป็นเรื่องสำคัญมากในการขับขี่ให้เร็วและปลอดภัย จนถึงกับเกิดเป็นคำว่า ”Slow is smooth, Smooth is fast” หรือแปลเป็นไทยก็คือ”ช้าคือสมูท และสมูทคือเร็ว”ซึ่งเป็นคำที่โค้ชนักแข่งรถในต่างประเทศใช้กันอย่างแผร่หลาย แต่เราที่ขับบนท้องถนนทั่วไปก็สามารถนำมาใช้ทำให้การขับขี่ของเราปลอดภัยขึ้นได้โดยการขับขี่ให้สมูทนั้นหมายถึงการที่เราควบคุมรถอย่างนุ่มนวนมากขึ้น เช่นการใช้เบรคโดยการค่อยๆเพิ่มแรงกดไม่ใช้กำอย่างรวดเร็ว การเปิดคันเร่งให้นุ่มนวลมากขึ้น การเลี้ยวโดยค่อยๆเอียงรถมอเตอร์ไซค์ หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันจะช่วยได้ยังไง ผมก็จะข้อยกตัวอย่างจากเรื่องการเบรค เนื่องจากยางนั้นต้องใช้เวลาให้มันยุบตัวก่อนที่มันจะสามารถยึดเกาะได้มากขึ้น หากเรากำเบรคหน้าอย่างเร็วๆและกระทันหัน ยางนั้นก็จะไม่สามารถยึดเกาะกับถนนได้ดีเนื่องจากมันไม่มีเวลาในการยุบตัวและอาจส่งผลให้ล้อล็อคและเกิดอันตรายได้ แต่หากเรากำเบรคช้าลงสักเล็กน้อยโดยค่อยๆเพิ่มแรงกดเบรคขึ้นไปเรื่อย ยางจะมีเวลาในการยุบตัวมากขึ้นส่งผลให้เราสามารถเบรคได้มากขี้นอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นการที่เราขับอย่างสมูทจะทำให้ยางมีเวลายุบตัวและสามารถยึดเกาะถนนได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงในการลื่นไถล่และเกิดอุบัติเหตุอีกประเด็นหนึ่งก็คือการไม่เกร็ง เวลาฝนตกอาจด้วยความหนาวจากการเปียกฝนหรือลมที่แรง บางครั้งมันอาจทำให้เราเกร็ง โดยการเกร็งนั้นจะทำให้เราสามารถควบคุมรถมอเตอร์ไซค์ได้แย่ลง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะไม่เกร็งจับบริเวณแฮนด์ของมอเตอร์ไซค์ และปล่อยแขนให้สบาย เพื่อเพิ่มความสามารถในการควบคุมรถของเรา4) ระวังฝาท่อ แอ่งน้ำ และเส้นบนถนนในช่วงเวลาที่ฝนตกนั้น พื้นถนนที่เปียกนั้นก็มีความอันตรายอยู่แต่ที่ต้องระวังมากกว่าคือของต่างๆอยู่บนถนนเช่น ฝาท่อ เส้นถนน ทางม้าลาย ตัวหมุดถนนสะท้อนแสง เนื่องจากของพวกนี้เวลาเปียกนั้นมีความลื่นที่มากจนเปรียบได้เหมือนกับน้ำแข็งเลยทีเดียวและอีกสิ่งที่ต้องระวังคือแอ่งน้ำ โดยมันนอกจากที่จะทำให้ขาเราเปียกยังมีความอันตรายมากเนื่องจากปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Hydroplaning หรือที่คนไทยเราเรียกว่า “อาการเหินน้ำ” ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อรถวิ่งบนพื้นถนนที่มีน้ำขังตัวด้วยความเร็วระดับหนึ่ง โดยสาเหตุหลักของอาการเหินน้ำนั้นเกิดจากน้ำที่วิ่งเข้ามาแทรกระหว่างพื้นถนนกับยางของล้อรถ ทำให้ยางของล้อรถลอยตัวแยกจากพื้นถนน และส่งผลให้สูญเสียการควบคุมรถและเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุโดยสิ่งที่เราทำได้คือมองทางให้ไกลและคอยสังเกตหาสิ่งเหล่านี้หากเห็นให้ค่อยๆเลี้ยวรถมอเตอร์ไซค์หลบอย่างช้าๆและสมูท แต่หากหลบไม่ทันจริงๆให้ตั้งสติและคอยควบคุมแฮนด์ของรถมอเตอร์ไซค์ไว้เพื่อพยายามไม่ให้เสียการควบคุมรถ5) สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันที่ถูกต้องและปลอดภัยในการขับรถมอเตอร์ไซค์นั้นเนื่องจากเราไม่มีเหล็กที่คอยหุ้มเราอยู่เหมือนกับรถยนต์ และในบางครั้งถึงเราจะขับขี่ดีและปลอดภัยแค่ไหนก็ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากปัจจัยภายนอกอื่นๆได้เสมอ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องป้องกันตัวเราให้ปลอดภัยด้วยอุปกรณ์ป้องกันต่างๆ โดยเราก็จะมี5ข้อแนะนำมาฝากเพื่อนๆกันในวันนี้1. สวมใส่หมวกกันน็อคโดยสิ่งแรกที่สำคัญที่สุดนั้นก็คือหมวกกันน็อค โดยอย่างน้อยควรที่จะเลือกหมวกกันน็อคที่มีสัญลักษณ์มอก หรือถ้าให้ดีก็เป็นหมวกกันน็อคที่มีมาตราฐานความปลอดภัยของต่างประเทศเช่น SNELL, DOT, หรือECE เป็นต้น และหากเป็นไปได้ให้เลือกหมวกแบบเต็มใบหรือแบบยกคางได้เพราะมันจะช่วยป้องกันคางของเราได้เวลาเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งหมวกแบบครึ่งใบจะป้องกันไม่ได้2. สวมใส่ถุงมือขับมอเตอร์ไซค์ถุงมือเป็นอุปกรณ์ป้องกันที่หลายคนมองข้าม แต่หากทุกคนลองคิดดูดีๆว่าปกติเวลาเราล้ม คนเรามักจะพยายามยื่นมือออกมาที่พื้นก่อน และถุงมือจะช่วยกันไม่ให้มือของเรานั้นขูดกับถนนโดยตรง โดยถ้าเป็นไปได้ควรจะเลือกถุงมือแบบปิดนิ้วเพื่อป้องกันให้นิ้วของเราอยู่ครบถ้วนนะครับ3. พยายามใส่กางเกงขายาว และรองเท้าผ้าใบ แทนกางเกงข้าสั้นและรองเท้าแตะเนื่องจากประเทศไทยนั้นเป็นประเทศร้อนคนจึงนิยมใส่กางเกงข้าสั้นและรองเท้าแตะขับมอเตอร์ไซค์ แต่เวลาเกิดอุบัติเหตุนั้นกางเกงขายาวและรองเท้าผ้าใบสามารถช่วยลดความหนักของอุบัติเหตุได้จริง พร้อมทั้งยังช่วยให้ขาและเท้าของเราไม่เปียกฝนอีกด้วย4. พยายามใส่เสื้อแจ็คแกตและกางเกงขับมอเตอร์ไซค์ที่มีการ์ด หากผู้อ่านมีงบเหลือพอที่จะซื้อเสื้อแจ็คแกตและกางเกงขับมอเตอร์ไซค์ที่มีการ์ด ซึ่งอาจจะมีราคาค่อนข้างสูง แต่เชื่อผมเถอะว่าราคาอุปกรณ์พวกนี้นั้นถูกกว่าค่ารักษาในโรงพยาบาลเยอะครับ เสื้อแจ็คแกตและกางเกงขับมอเตอร์ไซค์ที่มีการ์ดนั้นจะช่วยป้องกันเราได้หลายส่วนมากเช่น กระดูกสันหลัง บ่า ไหล่ ศอก และเข่าเป็นต้น พร้อมทั้งยังช่วยลดความหนาวจากฝนเวลาฝนตกได้อีกด้วย5. พยายามเลือกสีเสื้อกันฝนที่สีฉูดฉาดและเห็นชัดในช่วงที่ฝนตกอีกปัญหาหนึ่งคือทัศนวิสัยที่แย่ลง ซึ่งหากผู้ขับคนอื่นมองไม่เห็นเรา ก็จะทำให้เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้มาก ดังนั้นเสื้อกันฝนที่มีสีมองเห็นได้ชัดนั้นจะช่วยให้เราปลอยภับขึ้นได้มากและเราก็ได้แนะนำทุกคนไปแล้วกับ 5 เทคนิคในการขับขี่มอเตอร์ไซค์ให้ปลอดภัยเวลาฝนตก หวังว่าทุกคนจะได้ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ในการขับขี่ของตัวเอง และทำให้ท้องถนนของเราปลอดภัยมากขึ้นนะครับ หากใครมีคำแนะนำใดๆเพิ่มเติมสามารถพิมพ์ลงบนช่องความคิดเห็นด้านล่างได้เลย และหากชอบบทความนี้อย่างลืมเอาไปแชร์ให้เพื่อนอ่านกันด้วยน้า ^ ^ขอขอบคุณรูปภาพประกอบและรูปหน้าปกจากเว็บ: irasutoya.comรูปภาพทั้งหมดตัดต่อบนเว็บ: canva.com เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !