สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์การเรียนภาษาอังกฤษของผู้เขียนจากเริ่มต้นจนกระทั่งสามารถสื่อสารได้ในระดับหนึ่งค่ะตอนผู้เขียนเด็กนั้นไม่ได้เรียนอินเตอร์ ผู้เขียนก็เรียนโรงเรียนทั่วไปที่เรียนภาษาอังกฤษเท่าๆกับเรียนวิชาวิทย์ คณิตอื่นๆ ในตอนนั้นไม่ได้เห็นความสำคัญของการเรียนภาษาอังกฤษมากนัก จะเน้นเรียนวิทย์ คณิตให้เก่งมากกว่า โดยจะทบทวนวิชาภาษาอังกฤษแค่ก่อนสอบเท่านั้น นอกจากการเรียนในโรงเรียนก็ไม่ได้ฝึกฟังหรืออ่านเพิ่มเติม จนกระทั่งจะเข้ามหาวิทยาลัยได้เลือกเรียนเอกประวัติศาสตร์ และสามารถเลือกเรียนวิชาโทซึ่งเป็นวิชารองได้อีกหนึ่งวิชา ซึ่งคณะที่ผู้เขียนเรียนคือคณะอักษรศาสตร์ วิชาในคณะส่วนใหญ่จึงเป็นวิชาภาษาต่างประเทศ ตอนนั้นผู้เขียนเริ่มสนใจภาษาอังกฤษจึงได้เลือกเรียนโทภาษาอังกฤษ ก่อนที่จะได้เข้าโทอังกฤษนั้นต้องผ่านวิชาเข้าโทก่อน โดยต้องเรียนได้เกรดถึงที่คณะกำหนด ผู้เขียนนอกจากเรียนในห้องก็จะกลับมาทบทวนบทเรียนที่ได้เรียนที่บ้านเสมอ นอกจากนี้ผู้เขียนยังได้ฝึกภาษาอังกฤษเพิ่มเติมจากที่เรียน โดยการฝึกฟังภาษาอังกฤษใน Youtube โดยในตอนแรกได้ฝึกฟังจากช่องที่สอนบทเรียนภาษาอังกฤษ โดยฟังครูต่างประเทศสอนเป็นภาษาอังกฤษ อธิบายคำศัพท์หรือไวยกรณ์เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งจะฟังง่ายเพราะครูใน Youtube จะพยายามพูดให้ช้าและชัดทั้งยังใช้ภาษาง่ายๆในการอธิบายต่อมาเมื่อผู้เขียนพอจะฟังรู้เรื่องและได้เรียนรู้คำศัพท์และไวยกรณ์ระดับหนึ่งก็ได้ฝึกฟังYoutuber คนอื่นๆที่พูดเกี่ยวกับเรื่องทั่วไป หรือฟังพวกvlog ซึ่งเป็นการฝึกฟังจากชาวต่างประเทศพูดจริงๆ โดยบางครั้งอาจพูดเร็วบ้างรัวบ้าง แต่ผู้เขียนก็พยายามฟังเพราะเป็นความเร็วที่คนทั่วไปพูดจริงๆ เวลาเราฟังฝรั่งพูดเขาจะไม่ได้พยายามพูดช้าๆชัดเหมือนครูภาษาอังกฤษที่ผู้เขียนฝึกตอนแรกๆ ต่อมาได้เริ่มดูซีรีส์ ซึ่งจะเริ่มจากเปิดซับไทย 1รอบให้เข้าใจเนื้อเรื่อง จากนั้นดูซับอังกฤษจะได้รู้ว่าเขาพูดอะไร รอบสุดท้ายปิดซับเพื่อทดสอบตนเองผู้เขียนได้ฝึกฟังไปเรื่อยๆจนกระทั่งเข้าโทภาษาอังกฤษได้สำเร็จ จากนั้นตอนประมาณปี 3 ผู้เขียนก็ได้เริ่มหัดอ่านนิยายภาษาอังกฤษ โดยจะเลือกระดับที่เหมาะกับระดับภาษาเราขณะนั้น ผู้เขียนจะอ่านไปเรื่อยๆให้พอเข้าใจเนื้อเรื่อง บางทีถ้าเจอคำที่ไม่เข้าใจก็จะเปิดพจนานุกรม แต่ส่วนใหญ่จะใช้การเดาจากบริบท คำไหนสำคัญจริงๆถ้าไม่เข้าใจก็จะอ่านไม่รู้เรื่องก็จะเปิดดูคำแปลพออยู่ปี 4 ก็เริ่มฝึกพูด โดยจะพูดคนเดียวคือเรากำลังทำอะไรอยู่ จะไปทำอะไร ซึ่งจะพูดเป็นภาษาอังกฤษประมาณ 10-15 นาทีทุกวัน เพื่อให้เราพูดคล่องขึ้น บางทีจะพูดบางคำแต่ไม่รู้ว่าภาษาอังกฤษพูดอย่างไรก็จะไปหา ทำให้เราได้ศัพท์ใหม่ พอกำลังจะจบอยากเพิ่มคลังคำศัพท์ตนเองจึงได้ใข้วิธีอ่านบทความหรือข่าวภาษาอังกฤษ เวลาเจอคำที่ไม่เข้าใจก็จะจดไว้และไปหาความหมายโดยจดไปเรื่อยๆ เพิ่มวันละคำสองคำ พอวันรุ่งขึ้นก็จะทบทวนคำศัพท์ของเมื่อวานปัจจุบันจบมาแล้วก็ยังไม่หยุดพัฒนาภาษาอังกฤษของตนเอง โดยจะอ่านข่าวและหนังสือภาษาอังกฤษเหมือนเดิม และยังคงดู Youtube รวมถึงซีรีส์อยู่เรื่อยๆค่ะ สุดท้ายนี้อยากเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังฝึกภาษาอังกฤษอยู่ให้ฝึกต่อไป สักวันเราจะต้องเก่งภาษาอังกฤษได้แน่นอนค่ะขอบคุณภาพจาก canva เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !