เล่นไม่รู้เรื่อง ศัลยแพทย์เล่นเกม 'ทายน้ำหนัก' กับเครื่องในคนไข้ ขณะผ่าตัด

ศัลยแพทย์จากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ได้โพสต์ภาพอวัยวะภายในของคนไข้ ที่กำลังผ่าตัด เพื่อเล่นเกม 'ทายน้ำหนัก' เครื่องในกับเพื่อนร่วมอาชีพ โดนจวกยับเล่นไม่รู้เรื่อง

ศูนย์สุขภาพในมิชิแกนได้ระบุว่ากำลังมีการสอบสวนหลังจากที่แพทย์ในห้องผ่าตัดบางรายได้โพสต์รูปบนโซเชียลมีเดียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยถืออวัยวะและเนื้อเยื่อที่ถูกผ่าตัดออก เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเกม 'The Price Is Right' หรือการเล่นทายราคาสินค้า ที่มักจะพบเห็นได้บ่อยตามเกมโชว์ แต่พวกเขาจะเปลี่ยนจากการทายราคาสินค้าเป็นการทายน้ำหนักของเนื้อเยื่อและอวัยวะแทน

แพทย์คนดังกล่าวทำงานเป็นผู้ดูแลทางการแพทย์ใน Spectrum Health ที่แกรนด์แรพิดส์ รัฐมิชิแกน และเป็นผู้เชี่ยวด้านสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา ได้โพสต์รูปลงอินสตาแกรมบัญชี @grandrapids_obgyn_residency และให้ผู้ติดตามร่วมกันทายว่าอวัยวะที่เขาถือนั้นมีน้ำหนักเท่าไหร่ ขณะที่ผู้ป่วยกำลังนอนสลบระหว่างการผ่าตัดอยู่บนเตียง

โดยในโพสต์ดังกล่าวมีการบรรยายว่า ศัลยแพทย์รายนี้ได้ชูชิ้นส่วนอวัยวะของคนไข้ที่ต้องถูกตัดทิ้งจากการ่ผาตัด เพื่อเอาเนื้องอกในมดลูกออก พร้อมทั้งเล่นมุกกตลกประมาณว่าอวัยวะที่เขายกขึ้นมานั้นมีน้ำหนักเท่าไหร่ ก่อนจะลบโพสต์ดังกล่าวทิ้งออกไป แต่ก็ไม่ทันการเสียแล้ว เพราะเรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ต่ออย่างรวดเร็ว และสร้างความไม่พอใจให้กับผู้คนในวงกว้าง

ทางด้านศูนย์การแพทย์ต้นสังกัดได้ออกแถลงการณ์ว่าการรักษาความลับของผู้ป่วยเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง "เรารู้สึกตกใจและใจหาย เมื่อรู้ว่ามีการโพสต์ภาพการศัลยกรรมในบัญชีอินสตาแกรม ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับศูนย์การแพทย์" แถลงการณ์ระบุ "พฤติกรรมที่ยอมรับไม่ได้นี้ ไม่ได้สะท้อนถึงองค์กรของเรา อย่างไรก็ตามความเป็นมืออาชีพนั้นเป็นสิ่งที่โดดเด่นของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของเรา หรือแพทย์ประจำศูนย์การแพทย์ของเรา"

และยังระบุต่อว่าทางศูนย์กำลังตรวจสอบเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดนี้อย่างจริงจังและครอบคลุม โพสต์เหล่านี้ไม่เป็นไปตามหลักจรรยาบรรณ และทางศูนย์ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับความไว้วางใจที่คนไข้มีต่อศูนย์ฯ ทางด้าน อาร์เธอร์ คาเพลน ศาสตราจารย์ด้านจริยธรรมทางการแพทย์จาก New York University Grossman School of Medicine ได้กล่าวว่าการโพสต์ในโซเชียลมีเดียอาจเป็นเหตุให้มีการลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรงต่อแพทย์ ซึ่งอาจส่งผลให้สูญเสียใบอนุญาต "มันเป็นการละเมิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง" เขากล่าว

ที่มา : nytimes