รีเซต

PTTEP งบไตรมาส3ฟื้น น้ำมันดันกำไร5.2พันล.

PTTEP งบไตรมาส3ฟื้น น้ำมันดันกำไร5.2พันล.
ทันหุ้น
29 ตุลาคม 2563 ( 08:00 )
55
PTTEP งบไตรมาส3ฟื้น น้ำมันดันกำไร5.2พันล.

ทันหุ้น-สู้โควิด- PTTEP ประกาศงบไตรมาส 3/63 วันนี้(29 ต.ค.) โบรกเกอร์คาดกำไรอยู่ที่ 5.2 พันล้านบาท โต 20% จากไตรมาสก่อน ราคาน้ำมันดิบเพิ่มกลบก๊าซ แต่ไตรมาสสุดท้ายกำไรอ่อนตัว ราคาหุ้นยังถูกมี Upside ที่น่าสนใจ มีปันผลจูงใจ แนะนำซื้อเป้า 110 บาทต่อหุ้น

 

บริษัทหลักทรัพย์เอเชีย เวลท์ จำกัด คาดว่าหุ้นบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) หรือ PTTEP ในไตรมาส 3/63 จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 5,262 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากไตรมาส 2/2563 แต่ลดลง 52%จากช่วงเดียวกันปีก่อน ผลประกอบการฟื้นตัวจากไตรมาส 2/2563 เป็นผลมาจากยอดขายปิโตรเลียมเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 3.4 แสนบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 4% ยอดขายที่ปรับเพิ่มเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ฟื้นตัวจากไตรมาส 2/2563 แต่สถานการณ์ปัจจุบันที่ยังไม่คลี่คลาย จึงทำให้ยอดขายยังลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

 

นอกจากนี้ราคาขายเฉลี่ยผลิตภัณฑ์ที่ปรับเพิ่ม เป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบดูไบที่ปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งเพียงพอชดเชยกับผลกระทบจากราคาก๊าซที่ลดลง ขณะที่ต้นทุนเฉลี่ยในไตรมาส 3/2563 คาดว่าจะอยู่ที่ 31 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.5% จากไตรมาส 2/2563 ซึ่งเป็นไปตามยอดขายปิโตรเลียมเฉลี่ยต่อวันที่เพิ่มขึ้น

 

ประมาณการกำไรสุทธิงวดปี 2563-2564 ของ PTTEP เท่าเดิม โดยคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2563 จะอยู่ที่ 22,521 ล้านบาท ลดลง 53.9% จากปีก่อน ภายใต้สมมติฐานราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ 43 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ในปี 2564 คาดว่ากำไรอยู่ที่ 29,420 ล้านบาท โดยประเมินราคาน้ำมันดิบไว้ที่ 45 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

 

ทั้งนี้ได้ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ จากเดิมแนะนำเก็งกำไร หลังจากที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา และมองว่าระยะยาวสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 แต่ในระยะสั้นอาจมีความผันผวนจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งจะส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบ โดยได้ประเมินราคาพื้นฐานอยู่ที่ 110 บาทต่อหุ้น

 

**หั่นกำไรทั้งปีลง

 

บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด คาดว่า PTTEP ในไตรมาส 3/63 จะมีกำไรเท่ากับ 5.2 พันล้านบาท เป็นผลมาจากกำไรปกติที่เพิ่มขึ้น 37.1% จากไตรมาส 2/2563 มาอยู่ที่ 5.5 พันล้านบาท เพราะรับอานิสงค์หลักจากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 8.6%และยังรับผลดีจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น

 

อย่างไรก็ตามแนวโน้มกำไรปกติในงวดไตรมาส 4/63 คาดว่าจะเห็นการอ่อนตัวลง เพราะถูกกดดันจากราคาขายก๊าซที่ลดลง เพราะมีหลายโครงการที่มีการปรับสัญญาซื้อขายประจำปีในช่วงเดือนตุลาคม แต่คาดการปรับตัวลงของกำไรอาจจะไม่มากนัก เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากปริมาณขายที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น ทำระดับสูงสุดรายไตรมาสของปีที่มากกว่า 3.7 แสนบาร์เรลต่อวัน  ปรับลดประมาณการกำไรปกติ และกำไรสุทธิปี 2563 ลง 15.1% และ 16.4% จากเดิม เพื่อสะท้อนปริมาณขายที่ต่ำกว่าสมมติฐานเดิม แต่การที่ราคาหุ้นได้ผ่านการปรับฐาน และมี Upside รวมถึงเงินปันผลที่จูงใจ จึงเพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ และให้ราคาเป้าหมายที่ 95 บาทต่อหุ้น ส่วนราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 110 บาทต่อหุ้น

 

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) คาดว่า PTTEP จะมีกำไรในไตรมาส 3/2563 อยู่ที่ 5.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากไตรมาส 2/2563 แต่ลดลง 52%จากช่วงเดียวกันปีก่อน สาเหตุที่กำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันดิบดูไบที่ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2563 ประมาณ 40% เป็น 43 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

 

นอกจากนี้ได้ลดคาดการณ์กำไรปี 2564 ของ PTTEP ลง 16%เพื่อสะท้อนการปรับลดสมมติฐานราคาน้ำมันดิบจาก 55 เหรียญต่อบาร์เรล เป็น 50 เหรียญต่อบาร์เรล เนื่องจากอุปสงค์ที่ฟื้นตัวอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ และการระบาดของโควิด-19 ระลอก 2 ทำให้เกิดความไม่แน่นอน จึงได้ปรับลดราคาขายเฉลี่ยลง

 

แต่ยังคงแนะนำซื้อ เพราะถือว่าเป็นหุ้นที่มีความแข็งแกร่ง และมีฐานะการเงินที่มั่นคง และมีการเติบโตที่มั่นคงในระยะยาว และประเมินราคาเป้าหมายของปี 2564 อยู่ที่ 110 บาทต่อหุ้น

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง