ภาพปกจาก https://pixabay.comผู้ปกครองหลายคนยังลงโทษเด็กด้วยการเฆี่ยนตีหรือทำร้ายร่างกาย เพราะพวกเขาเชื่อว่า การกระทำเหล่านั้นจะทำให้เด็กเกิดความหวาดกลัวและไม่กล้าที่จะทำซ้ำอีก แต่จากการศึกษามหาลัยชื่อดังของต่างประเทศหลาย ๆ ที่พบว่าการลงโทษด้วยการตีเด็กนั้นจะส่งผลเสียมากกว่าผลดีรูปภาพจาก https://pixabay.comซึ่งนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน พบว่าเด็กที่ถูกลงโทษด้วยการตีหรือทำร้ายร่างกาย มีแนวโน้มที่จะแสดงความท้าทายและต่อต้านเมื่อพวกเขาเริ่มโตขึ้น และลักษณะนิสัยเช่นนี้อาจจะนำไปสู่ปัญหาต่าง ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความก้าวร้าวรุนแรงต่อสังคมและคนอื่น ๆ ปัญหาทางด้านปัญญาและปัญหาที่เกี่ยวกับสุขภาพจิตและการศึกษานี้ยังได้ชี้ให้เห็นว่า การลงโทษด้วยการตีเด็กนั้นจะให้ผลลัทธ์ในทางตรงกันข้ามกับที่ผู้ปกครองมุ่งหวังเอาไว้ เพราะถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่กล้าทำแต่มันก็เป็นเพียงแค่ช่วงระยะเวลาอันสั้นเท่านั้น แถมยังทำให้พฤติกรรมของเด็กแย่ลงกว่าเดิม ซึ่งนักวิจัยค้นพบว่าเด็กที่เคยถูกทำโทษด้วยการตีหรือทำร้ายร่างกาย พวกเขาจะมีพฤติกรรมต่อต้านสังคมหรือเป็นโรคจิตเภทบางชนิด แถมบางครั้งยังมีอาการซึมเศร้าหรืออ่อนไหวมากกว่าคนอื่น ๆรูปภาพจาก https://pixabay.comดังนั้นหากผู้ปกครองไม่ต้องการให้เด็กมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวรุนแรง ควรปรับเปลี่ยนการลงโทษเด็กเสียใหม่ เช่น1. ใช้วิธีสอนเด็กให้รู้แทนการตีเด็กส่วนใหญ่เวลาที่เราพุดกับเขาดีๆ พูดด้วยเหตุผลเขาจะใส่ใจฟัง เมื่อเด็กทำผิดผู้ปกครองควรสอนลูก ๆ อย่างใจเย็น พยายามระงับอารมณ์ของตนเองไว้ เพราะหากเราดุด่าหรือตีเด็ก ๆ อาจจะกลัวในช่วงแรก ๆ แต่หลังจากนั้นพวกเขาจะดื้อและต่อต้านมากกว่าเดิม2. ช่วยลูกแก้ไขปัญหาเด็ก ๆ เวลาทีทำอะไรผิดพลาด นั่นหมายถึงพวกเขากำลังเจอกับปัญหาบางอย่าง ดังนั้นผู้ปกครองควรถามไถ่และเอาใจใส่ ถามลูกด้วยถ้อยคำอ่อนโยนและเข้าใจ เมื่อลูกบอกปัญหาก็พยายามหาหนทางช่วยให้คำแนะนำหรือช่วยแก้ไข เด็กจะได้รู้สึกอบอุ่นและไม่โดดเดี่ยวรูปภาพจาก https://pixabay.com3. พาตัวเองออกจากสถานการณ์หากลูกๆของคุณทำผิดซ้ำ ๆ จนคุณรู้สึกไม่ดีและคิดจะลงโทษให้พวกเขาหลาบจำ พยายามพาตัวเองออกมาจากสถานที่หรือสถานการณ์ตรงนั้นก่อน เพื่อป้องกันอารมณ์ของเราเองว่าจะไม่พลั่งมือไปลงโทษลูกเพราะอารมณ์โกรธเพียงชั่ววูบ เมื่ออารมณ์ของคุณเย็นลงแล้ว ค่อยเข้าไปพูดคุยกับลูกใหม่และหาทางออกร่วมกันเพื่อให้ไม่เกิดปัญหาเดิม ๆ เหล่านั้นซ้ำอีกการลงโทษเด็กด้วยการตีหรือทำร้ายร่างกายเด็กเพื่อให้หลาบจำนั้นมันเป็นเพียงแค่ความคิดและความคาดหวังของผู้ปกครองบางท่านเท่านั้น ซึ่งแท้ที่จริงแล้วการลงโทษเด็กอย่างรุนแรง ส่งผลต่อสภาพจิตใจของเด็กและหากผู้ปกครองยังใช้วิธีเหล่านี้ต่อไป จะพบว่าลูกหลานแทนที่จะเชื่อฟังกลับต่อต้านและแสดงพฤติกรรมที่รุนแรงขึ้น ดังนั้นผู้ปกครองเองควรหาวิธีอื่นในการลงโทษเด็กแทนการตีหรือทำร้ายร่างกายได้แล้วนะคะ หากไม่อยากต้องเจอกับปัญหาใหญ่ในภายภาคหน้า