"Shein" ปรับคุมเข้มธรรมาภิบาลหลังโดนปรับ 190 ล้านยูโร

Shein แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซฟาสต์แฟชันจากจีนที่เติบโตอย่างรวดเร็ว กำลังเร่งปรับโครงสร้างภายในครั้งใหญ่ หลังถูกหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรปลงโทษด้วยค่าปรับรวมกว่า 190 ล้านยูโร หรือราว 7,100 ล้านบาท จากคดีละเมิดข้อมูลผู้บริโภค การทำส่วนลดปลอม และข้อกล่าวหาเรื่องการสื่อสารด้านสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เข้าใจผิด

ในจดหมายถึงนักลงทุน ซึ่งสำนักข่าว Reuters ได้ตรวจสอบ นายโดนัลด์ ถัง (Donald Tang) ประธานกรรมการบริหารของ Shein ระบุว่า บริษัทได้จัดตั้ง Business Integrity Group เพื่อบูรณาการการทำงานด้านคอมพลายแอนซ์ การกำกับดูแลกิจการ (Governance) และการสื่อสารภายนอก พร้อมขยายขีดความสามารถของทีมตรวจสอบภายใน เพื่อเสริมสร้างวินัยองค์กรในทุกระดับ

ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา Shein ถูกสั่งปรับต่อเนื่อง ได้แก่ ค่าปรับ 150 ล้านยูโร (ราว 5,600 ล้านบาท) จากฝรั่งเศส กรณีเก็บข้อมูลผู้ใช้งานผ่านคุกกี้โดยไม่ได้รับความยินยอม, ค่าปรับ 40 ล้านยูโร จากสำนักงานต่อต้านการผูกขาดของฝรั่งเศส เนื่องจากทำส่วนลดที่ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด และค่าปรับอีก 1 ล้านยูโรจากอิตาลี กรณี "กรีนวอชชิง" โดยการโฆษณาว่าสินค้าบางส่วนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งที่ยังขาดหลักฐานรองรับ ซึ่ง Shein ยังคงอุทธรณ์บางคดีอยู่ในขณะนี้

นอกจากนี้ สหภาพยุโรปยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ของ Shein ว่ามีการละเมิดมาตรฐานความปลอดภัยของสินค้าในภูมิภาคหรือไม่ หากพบความผิด บริษัทอาจถูกลงโทษเพิ่มเติมอีก

Shein ก่อตั้งในประเทศจีนและมีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการยื่นขอจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง หลังความพยายามเข้าจดทะเบียนในนิวยอร์กและลอนดอนไม่ประสบผลสำเร็จ

ในจดหมายฉบับเดียวกันยังระบุว่า Shein ได้เริ่มทดลองระบบควบคุมภายในรูปแบบใหม่ในสหรัฐฯ แคนาดา บราซิล และเม็กซิโก โดยขณะนี้บริษัทกำลังเปิดรับสมัครผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายกำกับความเสี่ยงและคอมพลายแอนซ์ รวมถึงผู้จัดการฝ่ายตรวจสอบภายในในลอสแอนเจลิส เพื่อขยายขีดความสามารถด้านธรรมาภิบาลในระดับโลก

แหล่งข่าวภายในเผยว่า การปรับโครงสร้างครั้งนี้เน้นไปที่พื้นที่เสี่ยงทางกฎหมาย เช่น การละเมิดลิขสิทธิ์ และมาตรฐานความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นจุดที่ Shein ถูกตรวจสอบบ่อยครั้งจากหลายประเทศ

การปรับระบบภายในครั้งนี้จึงเป็นสัญญาณชัดเจนว่า Shein กำลังพยายามยกระดับมาตรฐานธรรมาภิบาล เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ตลาดทุนและรักษาความเชื่อมั่นของนักลงทุน ท่ามกลางสมรภูมิแฟชันออนไลน์ที่แข่งขันรุนแรงและถูกตรวจสอบมากขึ้นในทุกมิติ ทั้งสิ่งแวดล้อม สิทธิมนุษยชน และความโปร่งใสทางธุรกิจ