ทะเบียนเดียวกัน!! สาวไฟแนนซ์โตโยต้าลิสซิ่งฯ แจงไม่ใช่แก๊งมิจฉาชีพ กรณีตามยึดรถ จ.สระแก้ว

สระแก้ว – พนักงานสาวบริษัทโตโยต้าลิสซิ่งฯ เดินทางไปลงบันทึกประจำวันและชี้แจงว่า ไม่ใช่แก๊งมิจฉาชีพตามยึดรถที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ระบุได้เข้าตรวจสอบกับเจ้าของรถผู้เสียหายแล้ว รถถูกต้องและปรับความเข้าใจกันแล้ว พบเป็นรถทะเบียนเดียวกัน แต่เลขตัวถังไม่ตรงกัน อยู่ระหว่างตรวจสอบว่า มีการสวมทะเบียนมาจัดไฟแนนซ์หรือไม่

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 30 ก.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังมีการโพสต์เฟซบุ๊กและเพจเตือนภัยในพื้นที่ จ.สระแก้ว ว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นพนักงานบริษัทไฟแนนซ์ฯ ตามยึดรถ แต่สุดท้ายเจอตอเพราะเจ้าของซื้อรถมาด้วยเงินสด โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กออกมาเตือนภัยว่า ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวว่า มาจากบริษัทไฟแนนซ์ตามมาหวังจะยึดรถ จึงโพสต์ระบุว่า เหตุการณ์เกิดกับพี่สาวของผู้โพสต์ บริเวณหน้าวิทยาลัยเทคนิคสระแก้ว ในพื้นที่อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว โดยบริษัทไฟแนนซ์ฯให้มายึดรถ ทั้งที่พี่สาวซื้อรถด้วยเงินสดตั้งแต่ 13 ปีที่แล้ว โดยช่วงเกิดเหตุพี่สาวขอดูบัตรก็ไม่ให้ดู ไม่แสดงตัวตน ถ้าหากทำงานไฟแนนซ์จริงก็ให้แสดงตัว เพราะถ้าเรื่องนี้เกิดกับตาสีตาสาคงต้องเสียเงิน เสียรถให้กับคนกลุ่มนี้ กระทั่งมีการโพสต์และแชร์ข้อความออกไป จนตกเป็นข่าวและมีผู้เข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก พร้อมแนะนำให้ผู้เสียหายให้ไปแจ้งความ เพื่อให้ตำรวจตามจับตัวมาดำเนินคดีนั้น

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุ น.ส.นิตยาพร แถมยิ้ม อายุ 25 ปี พนักงานไฟแนนซ์บริษัทโตโยต้าลิสซิ่ง จำกัด ได้เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.ท.บุญนาค ตราชู สว.(สอบสวน) สภ.วัฒนานคร เพื่อลงบันทุกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ระบุว่า ทีมงานได้รับมอบอำนาจจากบริษัทโตโยต้าลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อให้มาติดตามรถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน ฌฎ-1606 กทม. ซึ่งตามหลักฐานของบริษัท มีนางทิพวรรณ วิจิตร์ปัญญารักษ์ เป็นผู้เช่าซื้อ และติดค้างค่างวด เมื่อได้รับรายงานว่า มีการใช้สอยรถคันดังกล่าวในพื้นที่ อ.วัฒนานคร จึงมาติดตามและพบรถ จึงเข้าสอบถามผู้ครอบครองรถ แจ้งว่า เป็นรถพ่อ ซื้อมาด้วยเงินสดเมื่อ 13 ปีแล้ว จึงได้ขอตรวจสอบเอกสารแต่ผู้ครอบครองไม่ยินยอมและขับรถออกไป กระทั่งมีผู้ใช้เฟซบุ๊กสว่า ขาดเจ้า บ่ขาดใจ ออกมาโพสต์กล่าวหาในเพจสระแก้วโจมตีว่า เป็นทีมงานแก๊งมิจฉาชีพ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและได้รับความเสียหาย จึงเดินทางมาแจ้งต่อพนักงานสอบสวน เพื่อขอให้ลงไว้เป็นหลักฐานเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ

ล่าสุด เจ้าหน้าที่บริษัทไฟแนนซ์ดังกล่าว ได้เดินทางเข้าพบกับ นายทองมาตย์ หล้าหา ผู้ถือกรรมสิทธิ์และผู้ครอบครองรถ พร้อมทั้งขอตรวจสอบเลขตัวถังรถ พบว่า เลขที่ MROEZ39G708532314 ที่จดทะเบียนถูกต้องตรงตามเล่มทะเบียนและรายการข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก ดังนั้น รายการเลขทะเบียนของรถที่บริษัทไฟแนนซ์ตามยึดรถ ซึ่งตรงกับทะเบียนของผู้เสียหาย ทะเบียน ฌฎ-1606 กทม. ทำไม่จึงเป็นเลขเดียวกัน โดยทางบริษัทโตโยต้าลิสซิ่งฯ จึงขอเวลาในการตรวจสอบประมาณ 2 วันว่า มีการนำรถมาสวมทะเบียนก่อนมีการนำมาจัดไฟแนนซ์หรือไม่

น.ส.นิตยาพร แถมยิ้ม อายุ 25 ปี พนักงานไฟแนนซ์บริษัทโตโยต้าลิสซิ่ง(ประเทศไทย)จำกัด ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เข้าไปพูดคุยกับผู้ครอบครองรถ โดยแจ้งว่า ตนเองเป็นพนักงานของบริษัทโตโยต้าลิสซิ่งฯ ได้รับมอบหมายให้มาติดตามรถและเป็นพนักงานที่ปรากฏเป็นข่าว โดยขณะนี้ได้เข้าไปยื่นเอกสารที่ สภ.วัฒนานคร เพื่อให้ตำรวจได้ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ว่าเป็นพนักงานจากโตโยต้าจริง ไม่ใช่มิจฉาชีพ โดยได้มีการพูดคุยและเจรจากับเจ้าของรถเรียบร้อยแล้ว สำหรับปัญหาที่พบว่า มีทะเบียนรถอยู่ 2 คัน อยู่ระหว่างให้ทางโตโยต้าตรวจสอบอีกครั้ง จึงยังไม่ทราบว่า มีการผิดพลาดในระบบหรือรถมีการสวมทะเบียนมาหรือเปล่า เพราะรุ่นรถและทะเบียนรถตรงกัน

“ในฐานะที่เป็นผู้ถูกกล่าวหาว่า เป็นแก๊งมิจฉาชีพ หนูอยากจะแจ้งทางสังคมว่า หนูมาแสดงตัวแสดงหลักฐานทุกอย่างแล้ว เอกสารมีมาครบถ้วน มาแสดงตัวว่าเป็นพนักงานจริงกับตำรวจ ไม่ใช่มิจฉาชีพดั่งที่ปรากฏในรูปที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ โดยทางเพจได้มีการแก้ไขและขอโทษเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วว่า เราไม่ใช่มิจฉาชีพดังที่ปรากฏในข่าว” น.ส.นิตยาพร กล่าว

อย่างไรก็ตาม ภายหลังมีการตรวจสอบกรณีดังกล่าว ผู้โพสต์เฟซบุ๊กและเพจในจังหวัดสระแก้ว ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “ผมขอโทษทุกท่านที่ทำให้เข้าใจผิดและขอบคุณทั้งสองท่านนะครับ ที่มาแสดงตัวและอธิบาย กับเรื่องที่เกิดขึ้น คุณพี่สองท่านนี้ทำงานในไฟแนนซ์จริงครับ และทำงานตามหน้าที่จริง ขอบคุณแอดมินเพจนะครับที่รับเรื่องของทั้งสองฝ่าย ทำให้เรื่องนี้กระจ่างจากข้อสงสัย ผมขอโทษคุณพี่ทั้งสองท่านด้วยครับ”

—————————–

ยึดรถ, ไฟแนนซ์, โตโยต้าลิสซิ่ง, แก๊งมิจฉาชีพ, วัฒนานคร ,สระแก้ว