เปิดประเด็นมาแบบนี้ น้อง ๆ ที่กำลังจะก้าวสู่เส้นทาง "ครูภาษาไทย" ก็อย่าเพิ่งหนีกระเจิงกันก่อนล่ะ แต่บทความนี้จะมานำเสนอว่า การเป็นครูภาษาไทย อาจง่ายในมุมมองของคนที่คิดว่า "ภาษาไทยเป็นภาษาที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน" แต่ความจริงแล้ว คนที่เลือกอาชีพ "ครูภาษาไทย" ต้องมีความรู้อะไรบ้าง วันนี้จะมานำเสนอเป็นประเด็นไป เผื่อว่าที่ครูภาษาไทยกำลังต้องการรีวิวจากคนวงใน ถ้าพร้อมแล้ว.....ก็ไปดูกันเลยเป็นครูต้องมีศาสตร์ เป็นครูต้องมีศาสตร์ทั้งด้านวิชาชีพ และวิชาเอก เพราะครูคืองานที่ต้องสร้างความรู้ให้คน มันไม่ใช่เพียงการบอกความรู้ แต่ต้องมีความรู้ในระดับเชี่ยวชาญ และสามารถเลือกความรู้ที่เหมาะกับช่วงวัยมาให้กับผู้เรียน ดังนั้นจึงต้องมีวิชาความรู้เหล่านี้ติดตัว - ความรู้ด้านการสอน ต้องสามารถจัดการเรียนการสอนในเชิงสหวิทยาการอย่างสร้างสรรค์ - ความรู้ด้านการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมและสื่อการสอนที่สอดคล้องกับเนื้อหา และความสนใจของผู้เรียน - ความรู้ด้านการใช้ภาษาในการถ่ายทอดความรู้ซึ่งต้องอาศัยการวิเคราะห์ผู้เรียน จิตวิทยาการสื่อสาร ตลอดจนอัปเดตเทรนที่อยู่ในความสนใจของผู้เรียน - ความรู้ด้านการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับสภาพจริง ครูต้องสามารถปฏิบัติการวิจัยถูกต้องตามหลักการวิจัย รวมถึงอัปเดตเทรนการศึกษาให้สอดคล้องกับการเรียนการสอนอยู่เสมอ - ความรู้ด้านวิชาเฉพาะ นั่นก็คือสาขาวิชาเอกภาษาไทย ครูภาษาไทยจะต้องมีความเชี่ยวชาญด้านการใช้ภาษาและวรรณคดี ซึ่งปัจจุบันนอกจากจะต้องแม่นยำด้านเนื้อหาแล้ว ครูยังต้องแก้ปัญหาทัศนคติผู้เรียนที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย เช่น การสอนวรรณคดีในปัจจุบันไม่สามารถสอนให้ท่องจำอาขยาน หรือนั่งหลังตรงถอดความคำประพันธ์กันงก ๆ เพราะนั่นอาจไม่อยู่ในความสนใจของคนยุคนี้ ครูจึงต้องเลือกจุดเด่น ลดจุดบอดมานำเสนอในมิติใหม่ที่สอดคล้องกับความต้องการ ความสนใจของผู้เรียนและสังคม - ความรู้ด้้านจรรยาบรรณวิชาชีพครู ซึ่งต้องบอกก่อนว่างานครูเป็นงานที่ต้องสร้างคนเพื่อเป็นทรัพยากรแรงงานที่สังคมคาดหวัง จึงเป็นอาชีพที่มีการควบคุมด้วยมาตรฐานและกฎของวิชาชีพอย่างเคร่งครัด ดังนั้นครูทุกคน ไม่เพียงแต่ครูภาษาไทยจะต้องทำความเข้าใจเรื่องจรรยาบรรณวิชาชีพอย่างดี และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อให้อยู่รอดปลอดภัยถึงวันเกษียณ ฮ่า ๆ ไม่ได้เวอร์เด้อ มันจำเป็นจริง ๆ ผิดวินัย ผิดจรรณยาบรรณมีโทษถึงไล่ออกนะ ก็เหมือนบริษัทต่าง ๆ ที่ย่อมมีกฎ ระเบียบตามธรรมดานั่นแหละเป็นครูต้องมีศิลป์ ยัง! อย่าเพิ่งถอนหายใจ ครูภาษาไทยจะต้องมีศิลป์ ที่ไม่ใช่การจับพู่กันมาตวัดลงบนผืนผ้าใบประดุจครูศิลปะ แต่หมายถึงครูภาษาไทยต้องมีศิลปะในการสอน ซึ่งต้องอาศัยจิตวิทยาการเรียนรู้ในการบูรณาการเพื่อให้การจัดการเรียนรู้ในชั่วโมงนั้น ๆ สามารถดึงดูดความสนใจผู้เรียนได้ตลอดทั้งชั่วโมง และเกิดความรู้สึกอยากเรียนต่อในคาบต่อไป ครูท่านใดที่ประสบความสำเร็จในด้านนี้จะรู้สึกใจฟูมาก ๆ ยิ่งผู้เรียนเอ่ยปากชมว่า สนุกจังเลย อยากเรียนอีก มันเป็นสัญญาณว่าเรามาถูกทาง นอกจากนี้ศิลปะการสอนก็อาจจะมาจากการใช้เทคนิคการสอน หรือวิธีการสอนใหม่ ๆ เช่น การใช้เกม การใช้เทคนิคการสอนที่ช่วยพัฒนาการเรียนรู้ หรือ Gamification รวมถึงเทคนิควิธีการอื่น ๆ ก็ช่วยให้ห้องเรียนไม่น่าเบื่อได้ เป็นครูต้องมีหัวใจบริการ แน่นอนว่างานครูเป็นงานบริการอย่างหนึ่ง นั่นคืองานบริการความรู้ แต่สำหรับเรามองว่าเราโชคดีที่ผู้รับบริการโดยตรงของเราคือเด็ก ดังนั้นเราจะได้รับพลังความสดใสจากเด็ก ๆ เสมอ แต่อย่าลืมว่าบางครั้งเด็กก็ยังมีความซน ความไร้เดียงสา ซึ่งอาจจะทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องบ้าง เราต้องใช้หัวใจบริการนี่แหละในการจัดการความคิดของเรา เพื่อให้การแสดงออกของเราเป็นการบริการที่ดี ให้เกียรติเขา โดยที่ไม่จำเป็นให้ลูกค้าของเรามาเรียกร้อง เป็นไงบ้าง ใครว่าครูภาษาไทยง่ายอยู่ไหม อาจจะง่าย ถ้าเราทำด้วยความสนุก และรู้สึกท้าทายกับมัน หรืออาจจะยาก ถ้าเราทำมันด้วยความรู้สึกว่าชำนาญไม่มากพอ ขอเป็นกำลังใจให้ว่าที่ครูภาษาไทยทุกคนให้ตั้งใจ และถามตัวเองดูว่าเราจะอยู่กับอาชีพนี้ไปจนเกษียณได้หรือไม่ คุณจะต้องท่องอาขยานไปพร้อมเสียงเจื้อยแจ้วของ "นุดเด็ก" ไปจนครบวัยเกษียณไปด้วยกันไหม ขอให้คุณโชคดี ขอบคุณที่มาของภาพภาพที่ 1 จาก PIXABAYของ sasintภาพที่ 2 จาก PIXABAYของ Tumisuภาพที่ 3 จาก PIXABAYของsasintภาพที่ 4 จาก PIXABAYของ14995841 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !