รีเซต

ฝากขังแล้ว 8 โจ๋ รุมทำร้ายเด็ก 17 หลังพ่อร้องสายไหมต้องรอด พยานเล่าเหตุการณ์

ฝากขังแล้ว 8 โจ๋ รุมทำร้ายเด็ก 17 หลังพ่อร้องสายไหมต้องรอด พยานเล่าเหตุการณ์
มติชน
17 ตุลาคม 2565 ( 17:11 )
65

จากกรณีโลก ออนไลน์เผยแพร่คลิปวัยรุ่นรุมทำร้ายร่างกายนายเอก อายุ 17 ปี เหตุเกิดบริเวณหลังชุมชนเอื้ออาทร ซอยวัดกู้ อ.ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรีจนกระทั่งได้รับบาดเจ็บสาหัส ต่อมาบิดาของนายเอกได้เข้าร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอด เพื่อให้ช่วยติดตามคดี หลังไม่ได้รับความเป็นธรรม เรื่องเงียบหายไปนานกว่า 1 เดือน

ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 16 ตุลาคม พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด, พ.ต.ท.สัมพันธ์ ทิมเจริญ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.วรพจน์ ฉิมลอยลาภ สว.สส.สภ.ปากเกร็ด พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ร่วมจับกุมตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุได้ทั้งหมดจำนวน 8 ราย 3 รายเป็นเยาวชน โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส”

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 ตุลาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ปากเกร็ด ได้นำตัว ผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย โดยแบ่งเป็น เยาวชน 3 ราย นำตัวส่ง ศาลเยาวชนและครอบครัว ส่วนอีก 5 ราย นำตัวส่งศาลจังหวัดนนทบุรี

 

 

จากการสอบถาม นางสาวดาวัลย์ สุดารัตน์ อายุ 23 ปี ( สวมหมวก) อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 กันยายน เวลาประมาณ 3 ทุ่ม เหตุเกิดคือฝั่งตนโทรไปหาคนชื่อฟลุ๊ค (นามสมมติ) และเขาไม่รับ เลยนัดคุยกันว่าตกลงจะมาเคลียร์กันที่ชุมชน พอฟลุ๊คมาก็เข้าไปในบ้าน ถามว่าเขาโดนกระทืบจริงมั้ย คือโดนจริงแต่ไม่ได้รุม เรื่องปืนคือปืนปลอม ต้นเหตุคือผู้เสียหายทักแชทมาด่า ด่าพ่อ ด่าแม่ อยากจะฝากไปบอกพ่อแม่คู่กรณีว่าเรื่องแจ้งความไปแจ้งความเท็จหรือเปล่า เพราะพ่อผู้เสียหายแจ้งตำรวจว่าผู้เสียหายนอนโรงพยาบาล 4 อาทิตย์ ซึ่งไม่จริงทางตนมีหลักฐาน เหตุเกิดวันที่ 14 กันยายน แต่วันที่ 15 กันยายน พ่อกับน้องผู้เสียหายเข้าไปคุยและเจรจาที่บ้านตน และที่บอกว่าเข้าห้องไอซียูคือไม่จริง รูปที่ถ่ายมาคือห้องฉุกเฉิน

 

 

“ที่ว่ารุมกระทืบจนสลบคาบ้านก็ไม่จริง เพราะที่โดนกระทืบในบ้านไม่ได้โดนรุม หลังจากนั้นยังมานั่งคุยกันต่อ นั่งกินน้ำ ยังหัวเราะกันอยู่ คู่กรณีบอกว่าเพื่อนเขาเป็นคนด่า ทางตนเลยโทรไปถามว่าจริงมั้ย และพอเพื่อนของคู่กรณีมาก็เดินไปคุยกันหน้าชุมชน เดินออกไปปกติ คนที่รุมคือกลุ่มเพื่อนของผู้เสียหายเอง คนที่ชุมชนมีแค่ 2 คน ที่เหลือเป็นเพื่อนสนิทของผู้เสียหายหมดเลย กลุ่มที่มาทำร้ายเป็นเพื่อนของผู้เสียหาย ทางเพื่อนตนเห็นท่าไม่ดีเลยไปเอาปืนปลอมที่บ้านมาขู่ ที่ชักก็คือปืนปลอม ทางคู่กรณีก็แยกย้ายไป ซึ่งทางคู่กรณีและฝั่งของตนก็ไม่รู้ว่าเป็นปืนจริงหรือปืนปลอม ที่ทำเพื่อให้เหตุการณ์มันสงบ เพราะว่าผู้เสียหายเริ่มไม่ค่อยดีแล้ว ตนยืนยันว่าเป็นปืนปลอม”

น.ส.บี (นามสมมุติ) เล่าว่า ตนกับน้องไปช่วยกันดึงขึ้นมาเพราะเห็นว่าผู้เสียหายนอนเกร็ง นึกว่าจะพอพยุงตัวขึ้นมาได้ก็เลยปล่อย แต่ผู้เสียหายไม่ช่วยพยุงตัวเอง ตอนที่ปล่อยก็ตกใจไม่คิดว่าเป็นแบบนั้น แต่คนไปตีความว่าตนเข้าไปซ้ำน้อง เข้าไปดึงให้หัวน้องกระแทกกับพื้น ทั้งที่ตนเจตนาที่จะไปช่วยน้องผู้เสียหายจริงๆ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง