กมธ.สธ. เชื่อ “กัญชา” ช่วยขับเคลื่อนศก.ประเทศ ด้าน “ศุภชัย” ย้ำไม่อยู่ในบัญชียาเสพติดประเภท 5

ข่าววันนี้ เมื่อเวลา 13.35 น. วันที่ 20 มกราคม ที่รัฐสภา นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ส.ส.สุรินทร์ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า กมธ.การสาธารณสุข ตั้งคณะอนุกมธ.ศึกษาเรื่องกัญชามา 2 ปีแล้ว ซึ่งเราเห็นว่ากัญชา คือ พืชเศรษฐกิจ ซึ่งต่างจากมุมมองของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ที่ยังมีแนวคิดเก่าๆ ทั้งนี้ คำแถลงนโยบายคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถือเป็นสัญญาต่อพี่น้องประชาชน ว่าภารกิจเร่งด่วนเรื่องการช่วยเหลือเกษตรกร 12 นโยบายหนึ่งในนั้น คือ การเร่งศึกษาวิจัยเทคโนโลยี การใช้กัญชา กัญชง ทางการแพทย์ เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ และรายได้ของประชาชน เจตนารมณ์คือเราต้องการเห็นพืชเศรษฐกิจตัวนี้ช่วยประเทศชาติ ถ้าเราคิดตรงกันจะเป็นทางออกของประเทศตอนนี้ ซึ่งเราจะฟื้นเศรษฐกิจด้วยพืชกัญชา

ด้าน นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรค ภท. กล่าวว่า จนถึงวันนี้ที่ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยสรุปได้ 2 มิติ คือ ผู้แทนของกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันแล้วว่า ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด กัญชาไม่ได้เป็นยาเสพติดประเภท 5 ขณะที่ป.ป.ส. ยืนยันว่าเป็นยาเสพติด ซึ่งมีมุมมองต่างกัน กว่าจะกระจ่างชัดจะส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งประเทศ เพราะวันนี้ยังมีการดำเนินคดีประชาชน ที่ปลูกกัญชาต้นเดียวก็ยังถูกจับอยู่ วันนี้การแก้ปัญหาไม่มีทางที่จะดำเนินการได้รวดเร็วทันทีทันใด แต่วันนี้คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ ซึ่งมีปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน จะมีการประชุมเพื่อทำประเภทยาเสพติด 5 ประเภท เพื่อเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงนามในร่างเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการป.ป.ส.ชุดใหญ่ ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน

“ยาเสพติดประเภท 5 ที่มีอยู่ คือ พืชฝิ่น สารสกัดจากกัญชง กัญชา ที่มีค่า THC ไม่เกิน 0.2 และเห็ดขี้ควาย ซึ่งไม่มีกัญชา วันนี้ทิศทางของกฎหมายเป็นแบบนี้ เชื่อว่าในที่สุด นายกฯ ในฐานะประธานป.ป.ส. จะเห็นประโยชน์ และคุณค่าของกัญชา ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย วันนี้ผู้ที่จะมาจัดการให้ทุกอย่างจบลงคือนายกฯ เพราะฝ่ายนิติบัญญัติที่มีหน้าที่ออกกฎหมาย กับฝ่ายปฏิบัติอย่างป.ป.ส.ยังเห็นแย้งกัน เราจะเรียกร้องให้นายกฯ เร่งแก้ปัญหานี้โดยเร็ว หวังว่าเมื่อมีประกาศออกมาจะไม่มีคำว่ากัญชา เพื่อที่ผู้ที่ถูกดำเนินคดีก่อนหน้านี้จะได้ถูกยกเลิกโทษ และคนที่เคยถูกศาลพิพากษาลงโทษจะได้คืนค่าปรับ ถ้านายกฯ ประชุมโดยเร็วคาดว่าเรื่องนี้จะจบไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์” นายศุภชัย กล่าว