AEONTS ขี้นXD พรุ่งนี้ เก็บรับปันผล 2.55 บาท
#AEONTS #ทันหุ้น – AEONTSตุนเข้าพอร์ตก่อนขึ้น XD รับปันผล 2.55 บาทต่อหุ้น จ่าย 2 พฤศจิกายนนี้ โบรกประเมินยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและความต้องการสินเชื่อส่วนบุคคลจะเพิ่มขึ้น ช่วยหนุนการเติบโตของรายได้และกำไรปี 2566 บวกกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับมาเปิดอีกครั้ง การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และการท่องเที่ยวที่ดีขึ้นจะช่วยหนุนคุณภาพสินทรัพย์ให้ดีขึ้นในครึ่งปีหลัง 2566 ชูพื้นฐาน 242 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพรุ่งนี้ (18 ต.ค.65) บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AEONTS จะขึ้นเครื่องหมายวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) เพื่อรับเงินปันผล งวด 1 มีนาคม-31 สิงหาคม 2565 ในอัตรา 2.55 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง AEONTS ว่า ในการประชุมนักวิเคราะห์ ผู้บริหารคาดว่าในระยะสั้น การเติบโตของรายได้จากบัตรเครดิตจะได้รับผลกระทบ เนื่องจากลูกค้าสินเชื่อส่วนบุคคลบางรายยังคงได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อ AEONTS มองว่าคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นจากยอดจัดเก็บหนี้ที่ดีขึ้นในเดือนกันยายน 2565
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากอุทกภัยยังคงต้องรอดูในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ผู้บริหารยังคงเป้าหมายหนี้สูญได้รับคืนที่ 1.7 พันล้านบาท (+20%YoY) ในปี 2566 สะท้อนหนี้สูญได้รับคืนที่ 900 ล้านบาท ในไตรมาส 2/2566 นอกจากนี้ยังคาดว่า AEONTS จะขาย NPL ได้ในครึ่งปีหลัง 2565
ฝ่ายวิเคราะห์ มั่นใจว่ายอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและความต้องการสินเชื่อส่วนบุคคลจะเพิ่มขึ้น และช่วยหนุนการเติบโตของรายได้และกำไรของ AEONTS นอกจากนี้ คาดว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับมาเปิดอีกครั้ง การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และการท่องเที่ยวที่ดีขึ้นจะช่วยหนุนคุณภาพสินทรัพย์ให้ดีขึ้นในครึ่งปีหลัง 2566 ส่งผลให้อัตราส่วน NPL ลดลง 5.0% ในครึ่งปีหลัง 66 จาก 5.5% ในครึ่งปีแรก 2566 เนื่องจากความสามารถในการชำระหนี้ที่ดีขึ้น คงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 240 บาท
*ส่องพื้นฐาน 242 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง AEONTS ว่าแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 242 บาทหลังบริษัทรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/2566 (มิ.ย.-ส.ค.65) โต +33%YoY แต่ -19%QoQ เป็น 904 ล้านบาท กำไรก่อนสำรอง (PPOP) งวดไตรมาส 2/2566 อยู่ที่ 3.0 พันล้านบาท เติบโต +3.6%YoY และ+0.3%QoQ โดยรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ไตรมาสนี้ไม่มีรายได้จากขาย NPL และค่าใช้จ่ายดำเนินงานลดลง QoQ
การปล่อยสินเชื่อ ให้มงวดไตรมาส 2/2566 เพิ่ม +7.9%YoY และ+1.3%QoQ และ+3.2%YTD นำโดยสินเชื่อบัตรเครดิต ทั้งนี้ในครึ่งปีแรก 2566 สินเชื่อปล่อยใหม่เป็นสินเชื่อบัตรเครดิต 70% ส่วนอีก 23% เป็นสินเชื่อส่วนบุคคล, สินเชื่อเช่าซื้อ 2%และที่เหลืออีก 5% เป็นสินเชื่ออื่นๆ)
ด้านโครงสร้างสินเชื่อ ณ สิ้นสิงหาคม 2565 ประกอบด้วย สินเชื่อส่วนบุคคล 49%, สินเชื่อบัตรเครดิต 45% และสินเชื่อเช่าซื้อ 6% ธุรกิจต่างประเทศชะลอตัวลง รายได้จากปล่อยสินเชื่อในกัมพูชาลด -23%YoY, ในเมียนมาหดตัว -94%YoY ปัจจุบันหยุดให้บริการในเมียนมาชั่วคราวเพราะปัญหาการเมือง สเปรดไตรมาส 2/2566 เพิ่ม YoY จากบริหารต้นทุนการเงินได้ดีขึ้น แต่แคบลง QoQ เพราะฐานเงินทุนใหญ่ขึ้น
ขณะที่ค่าใช้จ่ายดำเนินงานเพิ่ม +0.6%YoY แต่หดตัว -2.4%QoQ ในไตรมาส 2/2566 จากค่าใช้จ่ายพนักงานลดลงจากโครงการประหยัดค่าใช้จ่าย ด้าน NPL เพิ่ม +4.8%QoQ และ NPL Ratio ขยับขึ้นสู่ 5.5% ในสิ้นไตรมาส 2/2566(จาก 5.3% ใน ไตรมาส 1/2566) และการตั้งสำรอง ECL เพิ่มขึ้น QoQ ซึ่งสอดคล้องกับการขยายตัวของสินเชื่อและลูกหนี้บางรายที่ด้อยคุณภาพลง โดยเฉพาะในส่วนสินเชื่อส่วนบุคคล
*เศรษฐกิจฟื้นดันสินเชื่อพุ่ง
อย่างไรก็ดี AEONTS จุดแข็งบริษัท คือมีแหล่งเงินทุนหลากกลาย ทั้งบอนด์, หุ้นกู้, สินเชื่อร่วมและหลายสกุล โดยมีทั้ง JPY, USD, MYR, IDR ฯลฯ ซึ่งทำให้บริหารต้นทุนการเงินได้มีประสิทธิภาพ บริษัทมีการทำประกันความเสี่ยงหนี้ต่างประเทศไว้ทั้งหมดทั้งด้านอัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยน
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง AEONTS ว่า เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น จึงยังยังคงมองบวกกับแนวโน้มกำไรของ AEONTS และคงประมาณการกำไรปี 2566 เอาไว้ที่ 4.3 พันล้านบาท (+22% YoY) และปี 2567 ที่ 5.1 พันล้านบาท (+17% YoY) ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” AEONTS โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 216 บาท (PER ที่ 12.5 เท่า)