การแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด – 19 สร้างความหวาดกลัวแก่ผู้คนไปทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่มีอากาศหนาว ทำให้การแพร่ระบาดเชื้อร้ายทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ผู้ที่ติดเชื้อเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เพื่อยุติการแพร่เชื้อแต่ละประเทศจึงมีมาตรการต่าง ๆ ที่จะป้องกันผู้คนไม่ให้ได้รับอันตราย จึงเกิดการล็อกดาวน์สถานที่ต่าง ๆ และมีเคอร์ฟิวโดยกำหนดเวลาในการเข้าและออกจากบ้าน แม้ว่าจะไม่ถูกใจผู้คนเพราะไม่มีอิสระในการดำเนินชีวิต แต่ก็ต้องปฏิบัติตาม ไม่เช่นนั้นจะมีความผิด บริษัท ห้างสรรพสินค้าและร้านที่มีคนเข้าไปใช้บริการเป็นจำนวนมาก ๆ ต่างถูกคำสั่งให้ปิดตามระยะเวลาที่กำหนดที่เรียกว่าล็อกดาวน์ แต่ห้างสรรพสินค้ายังมีการยกเว้นบ้าง โดยเฉพาะในส่วนของซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่อให้ประชาชนได้เข้าไปจับจ่ายและซื้อของกินในชีวิตประจำวันได้ แม้ว่าในส่วนของซูเปอร์มาร์เก็ตจะเปิดให้บริการ แต่ก็ต้องมีการเข้มงวดต่อการเข้าไปใช้บริการ เพื่อความปลอดภัยของชีวิต กระทั่งมีการคลายล็อกดาวน์ให้สถานที่ต่าง ๆ เปิดได้ แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดไว้ ห้างสรรพสินค้าเช่นกันก็ต้องเข้มงวดกับผู้ที่เข้าไปชอปปิง ซึ่งวันนั้นผู้เขียนได้ไปที่ห้างสรรพสินค้า 3 แห่งซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กันจึงขอรีวิวแต่ละที่ว่ามีความเข้มงวดเช่นไร ห้างสรรพสินค้าที่ 1 เมื่อจอดรถที่ลานจอดรถซึ่งอยู่ด้านหน้าของห้างสรรพสินค้า ผู้เขียนลงจากรถและเดินเข้าไปข้างใน แค่เพียงก้าวพ้นประตูไม่กี่ก้าวก็เจอกับจุดสกัดโควิด – 19 พนักงานสวมชุดป้องกันเชื้อโรคตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า น้องเอาเครื่องวัดความร้อนมาจ่อที่ศีรษะของผู้เขียนแล้วยิง จากนั้นก็บอกว่าอุณหภูมิของร่างกายว่าเท่าไหร่และกดเจลแอลกอฮอล์ลงบนฝ่ามือของผู้เขียนแล้วปล่อยให้เดินเข้าไปชอปปิงตามใจชอบ โดยผู้เขียนไปเอารถเข็น แต่ก็แอบพ่นสเปรย์ล้างมือลงไปบนที่จับ เพื่อความสบายใจของเรา เท่าที่สังเกตดูที่นี่คนเข้ามาใช้บริการน้อย เมื่อซื้อของเสร็จ จึงมาที่ช่องจ่ายเงินแล้วเข็นรถกลับออกไปอย่างสบาย ๆ ห้างสรรพสินค้าที่ 2 ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กัน แต่เป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ มีลูกค้ามาใช้บริการพอสมควร หลังจากขับรถขึ้นไปที่ชั้นจอดเรียบร้อยแล้วก็เดินเข้าทางประตูด้านหลัง (ที่นี่มีจุดสกัดโควิด – 19 แค่จุดเดียว ส่วนด้านหน้าไม่มีเพราะอยู่ในระหว่างปรับปรุงและก่อสร้าง) พอเข้ามาก็เจอเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกดเจลแอลกอฮอล์รอ โดยจะต้องยืนเข้าคิว เว้นระยะห่างตามตำแหน่งที่มาร์กไว้ที่พื้น จากนั้นก็ให้สแกน QR Codeไทยชนะ ตามด้วยให้ลงเวลาที่เข้ามาในห้างสรรพสินค้า ลงชื่อ พร้อมกับเบอร์โทรศัพท์แล้วก็มีเจ้าหน้าที่ติดสติ๊กเกอร์ที่เสื้อ ตลอดการเข้ามาจะยืนเว้นระยะห่างเช่นกัน จากนั้นก็ไปยืนตามจุดที่มาร์กเอาไว้เพื่อรอคิวเข้าลิฟต์ เมื่อลิฟต์มาถึงก็เข้าไปยืนตามจุดที่กำหนดไว้ โดยลิฟต์ 1 ตัว เข้าไปใช้บริการได้แค่เพียง 6 คนเท่านั้น เมื่อลิฟต์เปิดเราเข้าไปชอปปิงได้ตามสะดวก แต่ผู้เขียนให้พนักงานของห้างที่อยู่ในลิฟต์กดขึ้นไปชั้นที่ 15 เพื่อไปดูฟิตเนส ปรากฏว่ายังไม่เปิดก็เลยลงมาซื้อของ เมื่อซื้อของเสร็จก็ออกไปโดยไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น ห้างสรรพสินค้าที่ 3 ซึ่งอยู่เยื้อง ๆ กับห้างสรรพสินค้าที่ 2 หลังจากจอดรถที่ลานจอดรถชั้น 3 ก็เดินลงบันไดมาชั้นล่างสุดเพื่อเข้าไปภายใน แต่ตรงประตูเจอกับจุดสกัดโควิด – 19 โดยตรวจวัดความร้อนของอุณหภูมิในร่างกายและยืนตามจุดที่กำหนดไว้ ตามด้วยสแกน QR Codeไทยชนะ ถ้าใครไม่สแกนก็ให้ลงเวลาเข้า ชื่อ เบอร์โทรศัพท์ ติดสติ๊กเกอร์ที่เสื้อตามด้วยกดเจลแอลกอฮอล์ล้างมือด้วยตัวเองจึงเข้าไปชอปปิงได้ แต่ที่นี่มีจุดสกัดโควิด – 19 จำนวน 2 จุดคือประตูทางเข้าด้านหน้าและประตูด้านหลัง ส่วนขากลับก็เหมือนกันทุกที่ ไม่มีการตรวจวัดใด ๆ ทั้งสิ้น ความเข้มงวดของการคลายล็อกดาวน์ทำให้ผู้คนรู้สึกดีขึ้น แม้ว่าจะอึดอัดไปบ้างที่ต้องเข้าคิวและจัดระเบียบการเข้าไปใช้บริการในสถานที่ต่าง ๆ แต่ก็เป็นผลดีต่อตัวเองเพราะจะปลอดภัยต่อโรคโควิด – 19 ซึ่งผลของการคลายล็อกดาวน์ดังกล่าวกลับมีข่าวร้ายตามมา มีผู้ติดเชื้อโควิด – 19 ตามสถานที่ไปใช้บริการจนต้องให้ปิดสถานที่นั้น ๆ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและทำไทม์ไลน์ติดตามคนที่เข้าไปใช้บริการในช่วงระยะเวลานั้นว่ามีใครบ้าง เพื่อให้มาตรวจเชื้อโควิด – 19 ใครก็ตามที่พูดว่าเบื่อ อึดอัด ไปไหนมาไหนไม่สะดวก ต้องถูกตรวจ ถูกวัดอุณหภูมิ อีกทั้งเข้าแถวต่อคิวทำโน่นนี่นั่น ผู้เขียนขอบอกว่าปฏิบัติตามเขาไปเถอะ เพื่อความปลอดภัย ซึ่งดีกว่าทำอะไรตามใจตัวเอง ไม่ปฏิบัติตามจนสุดท้ายติดเชื้อโรคร้ายเข้าไป คราวนี้จะเสียทั้งเวลา เงินทอง สุขภาพและอาจจะเสียชีวิตไปเลยก็ได้ ผู้เขียนคิดว่าเมื่อโรคโควิด – 19 หายไป อาจจะทำให้การดำเนินชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน นั่นก็คือมีความเป็นระเบียบวินัยโดยการเข้าคิวมากขึ้น ติดการใช้หน้ากากอนามัยปกปิดปากและจมูกและใช้เจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์ในการล้างมือเป็นประจำ ซึ่งเป็นผลดีต่อสุขภาพ ผู้เขียนได้แต่ภาวนาให้โรคโควิด – 19 หายไปจากโลกนี้โดยเร็วที่สุด จรรยา เลิศพงษ์ไทย รูปปก รูปของผู้เขียน รูปประกอบที่ 1-6 รูปของผู้เขียน