รีเซต

ส.อ.ท. เด้งรับเปิดประเทศแบบมีเงื่อนไข - แนะบังคับใช้มาตรการควบคุมโรคเท่าที่จำเป็นเพื่อให้ศก.เดินต่อไปได้

ส.อ.ท. เด้งรับเปิดประเทศแบบมีเงื่อนไข - แนะบังคับใช้มาตรการควบคุมโรคเท่าที่จำเป็นเพื่อให้ศก.เดินต่อไปได้
ข่าวสด
30 กันยายน 2564 ( 15:22 )
21

นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ผลสำรวจผู้บริหารส.อ.ท. 150 คน ครอบคลุมผู้บริหารจาก 45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด ในเดือนก.ย. 2564 หัวข้อ “ภาคอุตสาหกรรมพร้อมเปิดประเทศแล้วหรือยัง?” พบว่าผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่ 78% เห็นด้วยกับแผนการเปิดประเทศและการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงเดือนต.ค.-พ.ย.นี้ อีก 22% ไม่เห็นด้วย

 

 

โดย 73.3% ขอให้ภาครัฐดำเนินนโยบายที่มีการผ่อนคลายกิจกรรมทางธุรกิจมากขึ้นและบังคับใช้มาตรการควบคุมโรคเท่าที่จำเป็น เพื่อให้เศรษฐกิจเดินต่อไปได้ ซึ่ง 14% ขอให้รัฐเข้มงวดในการบังคับใช้มาตรการควบคุมโรคทุกช่องทาง และ 12.7% ขอให้เร่งเปิดประเทศ โดยให้ความสำคัญด้านการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

 

 

นอกจากนี้ 44.7% เห็นว่าแนวทางการเปิดประเทศที่ให้อยู่ในพื้นที่แซนด์บ็อกซ์ 14 วัน หากไม่พบเชื้อหลัง 14 วัน สามารถเดินทางได้ทั่วประเทศมีความเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน อีก 26% เห็นว่าควรเปิดให้เดินทางได้ทั่วประเทศ ในรูปแบบการจับคู่ระหว่างประเทศ โดยไม่ต้องกักตัว ส่วน 16.7% ให้เปิดเฉพาะพื้นที่แซนด์บ็อกซ์เท่านั้น ห้ามออกนอกพื้นที่ และ 12.6% ให้เปิดเดินทางได้ทั่วประเทศ แต่ต้องผ่านการกักตัวในสถานที่กักตัว 14 วัน

 

 

ขณะเดียวกัน หลังเปิดประเทศ 76% ยังเสนอให้ภาครัฐช่วยเหลือผู้ประกอบการพักชำระหนี้และหยุดคิดดอกเบี้ยสำหรับธุรกิจท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง เป็นระยะเวลา 6 เดือน เพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ภาคเอกชน อีก 74% ให้ขยายระยะเวลาเคอร์ฟิว และผ่อนผันให้ธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจบันเทิงเปิดให้บริการได้ ส่วน 54% ขอให้รัฐออกมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว และสนับสนุนการจัดงานแสดงนิทรรศการและการประชุมในประเทศ และ 50.7% ขอให้ลดค่าน้ำ ค่าไฟ อุดหนุนค่าเช่าให้แก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง

 

 

นายวิรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ผู้บริหารที่เป็นสมาชิกของส.อ.ท. 73.3% ได้ปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดประเทศ อีก 71.3% มีการนำเทคโนโลยีและดิจิตอลมาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ ส่วน 66% พัฒนาสินค้าและบริการที่ให้ความสำคัญด้านสุขอนามัย และการรับรองมาตรฐานด้านสุขอนามัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค และ 57.3% ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมพื้นที่ในโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อลดความเสี่ยง

 

 

อย่างไรก็ตาม 86% เห็นว่าภาครัฐดำเนินการเปิดประเทศได้ ภายใต้เงื่อนไขที่มีอัตราการฉีดวัคซีน 2 เข็ม ให้แก่ประชาชน ไม่ต่ำกว่า 70% อีก 66.7% เห็นควรให้มีมาตรการคัดกรอง ตรวจติดตามผู้เดินทางเข้าประเทศ และ 59.3% เห็นว่ารัฐต้องมีความพร้อมด้านระบบสาธารณสุขในการรองรับผู้ติดเชื้อในแต่ละพื้นที่ 59.3%

ข่าวที่เกี่ยวข้อง