สิ้นสุดมหากาพย์ที่หมอชิต คลังเคลียร์ลงตัวไม่เวนคืน-ไม่สร้างทางยกระดับ สั่งปรับแบบใหม่

สิ้นสุดมหากาพย์ที่หมอชิต คลังเคลียร์ลงตัวไม่เวนคืน-ไม่สร้างทางยกระดับ สั่งปรับแบบใหม่ พร้อมเสนออีไอเอจบใน 2-3 เดือน

สิ้นสุดมหากาพย์ที่หมอชิต - นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุบริเวณสถานีขนส่งหมอชิต หรือ โครงการหมอชิตคอมเพล็กซ์ และยืนยันกับประชาชนที่อาศัยในบริเวณพื้นที่ว่าจะไม่มีการเวนคืนที่ดินเพื่อทำทางเข้าออกในพื้นที่ แต่จะปรับแนวทางเส้นทางเข้าออกหลักเป็นการใช้เส้นทางหน้าถนนพหลโยธิน และเส้นทางเสริมโดยใช้ถนนวิภาวดีซอย 5 โดยจะไม่มีการสร้างทางเชื่อมยกระดับออกไปยังถนนวิภาวดี

ทั้งนี้ จากการหารือประชาชนในพื้นที่ยอมรับแนวทางดังกล่าว รวมทั้ง บริษัท บางกอกเทอร์มินอล จำกัด หรือ BKT ผู้ได้รับสัมปทานในการพัฒนาพื้นที่ โดยการปรับรูปแบบการเข้าใช้พื้นที่ของกรมการขนส่งทางบก โดยจะย้ายมาเพียงบางส่วน เช่น รถโดยสารขนาดเล็ก เพื่อลดความแออัดของการเข้าออกและการจราจรในพื้นที่ จากเดิมย้ายสถานีขนส่งหมอชิตทั้งหมดเข้ามาใช้พื้นที่ที่ 1.1 แสนตารางเมตร

“ขั้นตอนจากนี้ กรมการขนส่งทางบก บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. จะเร่งสรุปแผนการเข้าใช้พื้นที่เพื่อนำกลับมาเสนอที่ประชุมร่วมกับกรมธนารักษ์ในต้นเดือนมี.ค. 2564 เพื่อให้ได้ข้อสรุปแนวทางที่ชัดเจน” นายยุทธนา กล่าว

นายยุทธนา กล่าวว่า ขณะนี้ BKT อยู่ระหว่างการยื่นการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือ EIA คาดจะเสร็จภายใน 2-3 เดือน หลังจากนั้นจะมีการลงนามสัญญาการก่อสร้าง จะทำให้กรมมีรายได้จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมทันที 550 ล้านบาท ส่วนการก่อสร้างใช้ระยะเวลาตามแผน 5 ปี กรมจะได้รับค่าธรรมเนียมระหว่างก่อสร้างปีละ 6.1 ล้านบาท เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ จะได้รับค่าเช่าปีละ 5 ล้านบาท

สำหรับรายละเอียดการก่อสร้าง พื้นที่โครงการฯ มีทั้งหมด 63 ไร่ โดยเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการ 800,046 ตารางเมตร ในจำนวนนี้เป็นพื้นที่ชดเชยให้กรมการขนส่งทางบก 112,000 ตารางเมตร และพื้นที่เชิงพาณิชย์ 776,046 ตารางเมตร เพื่อพัฒนาเป็น อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า อพาร์ตเมนต์เซอร์วิส และลานจอดรถ เป็นต้น มีอายุสัญญาสัมปทาน 30 ปี เมื่อครบสัญญาคลังจะได้รับอาคารและสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดในพื้นที่ ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 26,000 ล้านบาท