หากจะกล่าวถึงชีวิตของเกษตรกรนั้น คงจะหนีไม่พ้นการทำสวน ทำไร่ ปลูกพืช เพื่อการดำรงชีวิต พืชที่ปลูกก็จะแตกต่างกันไปตามแต่สภาพภูมิประเทศ สภาพภูมิอากาศจะอำนวย แต่หากสภาพภูมิประเทศแห้งแล้ง พื้นดินเป็นดินร่วนปนทรายล่ะ น้อยนักที่พืชชนิดต่างๆ จะเติบโตได้สมบูรณ์ ทางเลือกของการปลูกพืชจึงมีน้อย แต่กระนั้นก็ยังมีพืชอีกประเภทหนึ่งที่บรรดาชาวไร่ ชาวสวน นิยมปลูกกัน นั่นคือ มันสำปะหลัง นั่นเอง มันสำปะหลัง เป็นพืชที่ทนต่อความแห้งแล้ง มีแหล่งที่มาจากแถบประเทศที่อยู่ในเขตร้อนเหมาะสำหรับเขตร้อนชื้นอย่างบ้านเรา อายุการเก็บเกี่ยวประมาณ 1 ปี มีหลายสายพันธุ์ให้เลือกนำมาปลูกกัน โดยพันธุ์ที่นิยมปลูกกันมากในบ้านเราได้แก่ พันธุ์ระยอง พันธุ์เกษตรศาสตร์ และพันธุ์ห้วยบง ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ก็มีคุณสมบัติด้านความทนต่อโรคแตกต่างกันออกไป ฤดูของการปลูกมันสำปะหลังจะปลูกในช่วงฤดูฝน โดยแบ่งเป็นช่วงต้นฤดูฝน (เมษายน - มิถุนายน) และช่วงปลายฤดูฝน (กันยายน - พฤศจิกายน) ขั้นตอนในการปลูกมันสำปะหลังก็ไม่มีความยุ่งยากมากนัก เพียงแค่มีที่ดินไว้สำหรับปลูก ซึ่งพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังส่วนใหญ่ของประเทศจะอยู่ในภาคอีสาน เนื่องจากมีสภาพพื้นที่เป็นดินร่วนปนทรายและดินขาดธาตุอาหาร ขั้นตอนต่อมาต้องหาต้นพันธุ์ของมันสำปะหลังที่มีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 10 - 12 เดือน โดยสามารถติดต่อซื้อผ่านช่องทางต่างๆ ซึ่งมีให้เลือกซื้อหลากหลายวิธี เมื่อได้พันธุ์มันสำปะหลังมาแล้วก็จัดการเตรียมดินสำหรับปลูก โดยการไถเพื่อปรับสภาพดินประมาณ 2 - 3 ครั้ง (ไถครั้งแรกด้วยผาน 3 ลึกประมาณ 30 เซนติเมตร แล้วทิ้งระยะห่างไว้ประมาณ 1 เดือนเพื่อให้วัชพืชตาย จากนั้นไถต่อด้วยผาน 7 เป็นร่องยกสูงประมาณ 30 - 40 เซนติเมตร แล้วจึงจัดการปลูกในขณะที่ดินยังมีความชื้นอยู่) การตัดท่อนมันสำปะหลังสำหรับปลูก โดยจะตัดท่อนมันออกเป็นท่อนๆ ความยาวของท่อนอยู่ที่ 20 - 25 เซนติเมตร หากดินชุ่มอยู่แล้วควรนำท่อนพันธุ์ปักลงดินที่ไถเป็นเนินกว้างราวๆ 50 เซนติเมตรจนร่วนซุย โดยปักลึกประมาณ 10 - 15 เซนติเมตร ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย หลังจากนั้นก็กำจัดวัชพืชที่ขึ้นตามบริเวณลำต้นและตามร่องของแนวดินที่ยกร่อง แม้ว่าในบางปีจะประสบปัญหากับราคาของผลผลิตที่ต่ำ ต้นทุนการผลิตสูง แต่ในปัจจุบันการปลูกมันสำปะหลังยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากเกษตรกรอยู่เป็นจำนวนมาก ขอบคุณภาพหน้าปกจาก ภาพโดย Nikin จาก Pixabay