น้องสาว "คิม จองอึน" เตือนสหรัฐฯ จะเจอกับวิกฤติความมั่นคง
วันนี้ ( 23 พ.ย. 65 )เอพีรายงานโดยอ้างรายงานข่าวของสื่อรัฐบาลเกาหลีเหนือว่า คิม โย จอง น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของ "คิม จองอึน" ผู้นำเกาหลีเหนือ เตือนสหรัฐฯ ว่า จะต้องพบเจอกับ "วิกฤติความมั่นคงที่อันตรายถึงแก่ชีวิตมากยิ่งขึ้น" หลังจากสหรัฐฯ พยายามผลักดันสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ให้ประณามการยิงทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป หรือไอซีบีเอ็ม ของเกาหลีเหนือเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
โดยสื่อรัฐบาลเกาหลีเหนือรายงานคำพูดของคิม โย จองว่า สหรัฐฯ ควรตระหนักว่า ไม่ว่าสหรัฐฯ จะดิ้นรนอย่างสิ้นหวังเพียงใด เพื่อปลดอาวุธเกาหลีเหนือ แต่ก็ไม่เคยสามารถพรากเกาหลีเหนือไปจากสิทธิในการป้องกันตนเองได้ และยิ่งสหรัฐฯ กระทำการต่อต้านเกาหลีเหนือมากเท่าใด กลับจะยิ่งทำให้เกาหลีเหนือไม่ยอมแพ้ และยิ่งทำให้สหรัฐฯ เอง ต้องพบเจอกับวิกฤติความมั่นคงที่เป็นอันตรายถึงชีวิตมากขึ้น
คำขู่ของคิม โย จอง ซึ่งเชื่อกันว่า เป็นผู้มีอำนาจสูงอันดับ 2 รองจากคิม จองอึน มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก ลินดา โทมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็น กล่าวต่อที่ประชุมฉุกเฉินคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (21 พ.ย.) ว่า สหรัฐฯ จะส่งร่างแถลงการณ์ประณามการยิงทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ และกิจกรรมที่ทำลายเสถียรภาพอื่น ๆ ของเกาหลีเหนือ ให้สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงพิจารณา และหลังจากการประชุมฉุกเฉินดังกล่าว โทมัส-กรีนฟิลด์ยังได้อ่านแถลงการณ์ร่วมของ 14 ประเทศ ที่สนับสนุนมาตรการเพื่อจำกัดความคืบหน้าของโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
คณะกรรมาธิการของรัฐสภา หน่วยข่าวกรองแห่งชาติของเกาหลีใต้แจ้งผลประเมินของพวกเขาว่า ลูกสาวที่ผู้นำคิมนำมาเปิดตัวเป็นลูกคนที่ 2 มีอายุประมาณ 10 ขวบ โดยเหตุผลที่พวกเขาเชื่อเช่นนั้นเพราะหน้าตาของเธอตรงกัข้อมูลที่บอกว่าเธอสูงใหญ่กว่าเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ ที่มีอายุเท่าๆ กัน
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน สำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือได้เปิดเผยภาพของผู้นำคิมพร้อมกับบุตรสาวที่เขาจูงมืออยู่ข้างๆ โดยมีการระบุว่า พวกเขาพร้อมด้วยนางรี ซอล จู ภริยา ได้ไปร่วมสังเกตการณ์การยิงขีปนาวุธข้ามทวีปฮวาซอง-17
ผู้เชี่ยวชาญบางคนมองว่า การนำตัวบุตรสาวมาเปิดเผยในสถานที่ทดสอบอาวุธ แสดงให้เห็นว่าผู้นำคิมรู้สึกกล้ามากขึ้นกับคลังอาวุธนิวเคลียร์ที่ล้ำสมัยของเขา
ภาพจาก : AFP