Grandia II... เพียงแค่ได้ยินชื่อนี้ก็เหมือนถูกดึงกลับไปสู่ช่วงเวลาแห่งความทรงจำในวัยเด็ก ยุคสมัยที่เครื่อง Dreamcast ครองเมือง และ Grandia II คือเพชรเม็ดงามที่เปล่งประกายท่ามกลางเกม RPG มากมาย ไม่ใช่แค่เพียงกราฟิกที่งดงามเกินกว่าเกมในยุคเดียวกันจะเทียบเทียม แต่ Grandia II ยังมีระบบการต่อสู้ที่รวดเร็วและแฝงไปด้วยกลยุทธ์อันซับซ้อน เนื้อเรื่องที่ชวนติดตาม และตัวละครที่ล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์โดดเด่น วันนี้ ผมจะพาคุณดำดิ่งสู่โลกแห่ง Grandia II อีกครั้ง ผ่านมุมมองและประสบการณ์ที่ตราตรึงอยู่ในใจผมเสมอมา เนื้อเรื่อง: การผจญภัยที่เต็มไปด้วยมิตรภาพ ความรัก และการเสียสละ เรื่องราวของ Grandia II เริ่มต้นขึ้นด้วยริวโด ชายหนุ่มผู้มีอาชีพเป็นทหารรับจ้าง เขาได้รับมอบหมายให้คุ้มครองเอเลน่า นักบวชสาวผู้มีจิตใจงดงาม ในการเดินทางไปปราบปีศาจวาลมาร์ เส้นทางแห่งการผจญภัยนำพาพวกเขาให้ได้พบเจอกับมิตรสหายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นมิลเลเนีย เทพธิดาแห่งแสงสว่างผู้เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ โรอัน นักดาบพเนจรผู้มีอดีตอันลึกลับ หรือแม้แต่สกาย มังกรน้อยจอมป่วนประจำกลุ่ม ทุกย่างก้าวของพวกเขาเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ความตื่นเต้น และคราบน้ำตา สิ่งที่ทำให้ Grandia II แตกต่างจากเกม RPG อื่นๆ คือมิติของตัวละคร โดยเฉพาะริวโด จากชายหนุ่มผู้เย็นชาและไม่เชื่อมั่นในสิ่งใด การเดินทางทำให้เขาได้เรียนรู้ถึงคุณค่าของมิตรภาพ ความรัก และการเสียสละ ส่วนเอเลน่า แม้ภายนอกจะดูบอบบางราวกับดอกไม้ แต่ภายในกลับแฝงไปด้วยความเข้มแข็งและจิตใจอันแน่วแน่ ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองค่อยๆ พัฒนาจากมิตรภาพ กลายเป็นความรักที่งดงามและบริสุทธิ์ ยิ่งไปกว่านั้น Grandia II ยังนำเสนอประเด็นทางศาสนาและปรัชญาได้อย่างน่าสนใจ การต่อสู้ระหว่างเทพเจ้าแห่งแสงสว่างและเทพเจ้าแห่งความมืด สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งภายในจิตใจของมนุษย์ และการเลือกเส้นทางชีวิตของตนเอง ระบบการต่อสู้: สนุก เร้าใจ และมีกลยุทธ์ ระบบการต่อสู้ของ Grandia II ถือเป็นความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีในยุคนั้น ด้วยการผสานรูปแบบเทิร์นเบสเข้ากับแอ็คชั่นได้อย่างลงตัว เราสามารถควบคุมตัวละครให้เคลื่อนที่ไปรอบฉากต่อสู้ เลือกตำแหน่ง ใช้ทักษะ และโจมตีศัตรูได้อย่างอิสระ เสริมด้วยระบบ "Combo" ที่ช่วยให้เราสามารถสร้างคอมโบการโจมตีอันรุนแรง ย้อนกลับไปในวัยเด็ก ผมรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เข้าสู่ฉากต่อสู้ มันช่างแตกต่างจากเกม RPG อื่นๆ ที่เคยเล่น ผมใช้เวลาหลายชั่วโมงในการฝึกฝน ทดลองคอมโบใหม่ๆ เพื่อเอาชนะศัตรูที่แข็งแกร่ง และความรู้สึกที่ได้เอาชนะบอสสุดโหดในเกม มันคือความภาคภูมิใจที่ยากจะลืมเลือน กราฟิกและเสียง: สวยงาม คลาสสิก และน่าจดจำ Grandia II ใช้เทคนิคเซลเฉดในการสร้างกราฟิก ทำให้ตัวละครและฉากต่างๆ ดูมีมิติ สีสันสดใส และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ภาพความทรงจำเหล่านั้นก็ยังคงงดงาม โดยเฉพาะฉากต่อสู้กับวาลมาร์ในช่วงท้ายเกม อลังการงานสร้างจนแทบหยุดหายใจ ดนตรีประกอบก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเพลงประกอบฉากเมืองที่แสนสงบ เพลงฉากต่อสู้ที่เร้าใจ หรือเพลงประกอบฉากเศร้าที่บีบคั้นอารมณ์ ล้วนแล้วแต่แต่งออกมาได้อย่างไพเราะ และสอดคล้องกับบรรยากาศของเกม จนถึงทุกวันนี้ ผมก็ยังคงเปิดฟังเพลงประกอบของ Grandia II อยู่เสมอ ประสบการณ์ส่วนตัว: ความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือน ผมจำได้ว่าตอนนั้น ผมอายุได้เพียง 10 ขวบ Grandia II คือของขวัญวันเกิดที่ทำให้ผมดีใจที่สุดในชีวิต ผมรีบแกะกล่อง ใส่แผ่นเกมลงในเครื่อง Dreamcast และเริ่มต้นการผจญภัยสุดมหัศจรรย์ทันที หลายวันหลายคืนที่ผมแทบไม่ได้นอน เพราะมัวแต่หลงใหลไปกับโลกของ Grandia II Grandia II ไม่ใช่แค่เกม แต่มันคือเพื่อน คือความทรงจำในวัยเด็ก คือแรงบันดาลใจที่หล่อหลอมให้ผมเป็นผมในทุกวันนี้ ผมหลงรักทุกสิ่งทุกอย่างในเกมนี้ ไม่ว่าจะเป็นตัวละคร เนื้อเรื่อง ระบบการต่อสู้ หรือดนตรีประกอบ ฉากจบของเกม เป็นช่วงเวลาที่ผมไม่มีวันลืม มันงดงาม และทำให้ผมรู้สึกใจหาย ที่การผจญภัยอันแสนสนุก กำลังจะจบลง ดนตรีประกอบในฉากจบ ยังคงดังก้องอยู่ในใจผมเสมอมา สรุป Grandia II คือเกม RPG ที่สมบูรณ์แบบในทุกด้าน เนื้อเรื่อง ระบบการต่อสู้ กราฟิก และเสียง ล้วนแล้วแต่เป็นผลงานชิ้นเอก ที่ยังคงตราตรึงอยู่ในใจของใครหลายคน รวมถึงผมด้วย หากคุณเป็นแฟนเกม RPG และยังไม่เคยสัมผัสกับ Grandia II ผมขอแนะนำให้คุณลองเล่นดูสักครั้ง รับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน คะแนน: 10/10 เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !