พยากรณ์อากาศวันนี้ 11 เมษายน อากาศร้อนจัดทั่วไทย เตือน “พายุฤดูร้อน” 12–14 เม.ย.

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศโดยรวมวันที่ 11 เมษายน 2568
กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า บริเวณประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ในภาคเหนือ ขณะเดียวกันยังคงมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง จากอิทธิพลของความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนที่ปกคลุมพื้นที่ ร่วมกับลมใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุม
ประชาชนควรระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมถึงดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงเวลากลางวันเป็นระยะเวลานาน
แนวโน้มพายุฤดูร้อน (ระหว่างวันที่ 12–14 เมษายน 2568)
ในช่วงเวลาดังกล่าว ประเทศไทยตอนบนจะได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน ซึ่งประกอบด้วยฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกบางพื้นที่ และอาจเกิดฟ้าผ่า สาเหตุเกิดจากมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะที่บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด
รายงานสภาพอากาศแยกตามภูมิภาค
ภาคเหนือ
อากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร ตาก เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก
• อุณหภูมิต่ำสุด 22–26 องศาเซลเซียส
• อุณหภูมิสูงสุด 36–40 องศาเซลเซียส
• ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5–15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อนโดยทั่วไป มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยเฉพาะในจังหวัดเลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม นครราชสีมา และบุรีรัมย์
• อุณหภูมิต่ำสุด 23–25 องศาเซลเซียส
• อุณหภูมิสูงสุด 33–37 องศาเซลเซียส
• ลมใต้ ความเร็ว 10–20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ภาคกลาง
อากาศร้อนโดยทั่วไป มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยเฉพาะในจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี
• อุณหภูมิต่ำสุด 23–25 องศาเซลเซียส
• อุณหภูมิสูงสุด 36–39 องศาเซลเซียส
• ลมใต้ ความเร็ว 10–20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ภาคตะวันออก
อากาศร้อนบริเวณตอนบน มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรง โดยเฉพาะในจังหวัดฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
• อุณหภูมิต่ำสุด 23–27 องศาเซลเซียส
• อุณหภูมิสูงสุด 29–37 องศาเซลเซียส
• ลมใต้ ความเร็ว 15–30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
• คลื่นลมในทะเลสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะในจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
• อุณหภูมิต่ำสุด 24–26 องศาเซลเซียส
• อุณหภูมิสูงสุด 32–36 องศาเซลเซียส
• ลมใต้ ความเร็ว 15–30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
• คลื่นลมในทะเลสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะในจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
• อุณหภูมิต่ำสุด 23–25 องศาเซลเซียส
• อุณหภูมิสูงสุด 32–35 องศาเซลเซียส
• ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
• คลื่นลมในทะเลสูง 1–2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
อากาศร้อนโดยทั่วไป มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
• อุณหภูมิต่ำสุด 25–26 องศาเซลเซียส
• อุณหภูมิสูงสุด 34–37 องศาเซลเซียส
• ลมใต้ ความเร็ว 10–20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
สถานการณ์ฝุ่นละออง
บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีค่าฝุ่นละอองและหมอกควันในระดับปานกลางถึงค่อนข้างมาก โดยมีแนวโน้มทรงตัวหรืออาจลดลง เนื่องจากมีฝนตกในบางพื้นที่