หลายคนเคยสงสัยกันมั้ยว่าเราก็ดูหนังและซีรีย์ภาษาอังกฤษมาเยอะนะ แต่ทำไมเราดันพูดไม่ได้สักทีหรือเวลาจะพูดก็ต้องใช้เวลาสักครู่ในการคิดและเรียบเรียงประโยค พอเป็นแบบนี้แล้วหลังจากนั้นเราก็รู้สึกเฟลหรืออาจถึงขั้นไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษออกมาอีกเลย ดังนั้นทางกระดานดำได้ทำการวิเคราะห์ สังเคราะห์ และตกตะกอนจากประสบการณ์ที่ผ่านมาเพื่อเขียนบทความนี้ขึ้นมา ซึ่งจะช่วยให้การพูดภาษาอังกฤษของนักอ่านหลาย ๆ ท่านเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นไปตลอดกาล โดยจะมีอยู่ 5 ขั้นตอน (รอบ) ในการดูหนังหนึ่งเรื่องหรือซีรีย์หนึ่งตอน ไปดูกันเลยว่าแต่ละขั้นตอนมีรายละเอียดอะไร อย่างไรบ้าง[เห็นผลภายใน 1 เดือน] 5 ขั้นตอนฝึกภาษาอังกฤษจากการดูหนังรอบที่ 0 ของการดูหนังหนึ่งเรื่อง: เตรียมพร้อม รอบนี้จะเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อที่จะทำให้เราสามารถดูหนังหรือซีรีส์บน Netflix ได้ถึงสองซับไตเติล โดยผู้ฝึกต้องใช้ Chrome ในการดูและต้องติดตั้งส่วนขยายเพิ่มเติมที่ชื่อว่า NetfMultiSubs พอติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว หน้าตาโหมดในการเลือกซับไตเติลของ Netflix จะเปลี่ยนหน้าตาเป็นดังรูปข้างล่างนี้รอบที่ 1 ของการดูหนังหนึ่งเรื่อง: การฟัง รอบแรกนี้จะเป็นการฝึกการฟัง โดยจะแบ่งผู้ฝึกออกเป็น 2กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นกลุ่มสำหรับผู้ฝึกที่มีพื้นฐานการฟังไวยกรณ์ยังไม่แน่น และรู้จักศัพท์ยังไม่เยอะ เช่น ถ้าไม่เปิดซับไทยก็ไม่รู้ว่าตัวละครเขาพูดคำว่าอะไรหรือฟังการพูดของตัวละครไม่ทัน เราจะแนะนำให้ผู้ฝึกกลุ่มนี้เปิดซับไทยและซับภาษาอังกฤษไปพร้อมๆกัน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ฝึกเข้าใจเนื้อหาของหนังและเข้าใจประโยคการพูดแต่ละคำมากขึ้น แต่ถ้าใครที่พอจะฟังออกบางคำหรือพอมีพื้นฐานหลักไวยกรณ์ที่ดีและรู้จักคำศัพท์อยู่บ้าง ก็สามารถเปิดเฉพาะซับภาษาอังกฤษขณะดูได้เลยรอบที่ 2 ของการดูหนังหนึ่งเรื่อง: การอ่าน (ไม่ต้องออกเสียง) การที่เราอ่านซับภาษาอังกฤษในใจขณะดูไปด้วย จะช่วยให้เราเชื่อมโยงภาพที่เราเห็นในเหตุการณ์ ณ ขณะนั้นกับตัวอักษรภาษาอังกฤษ ซึ่งขั้นตอนนี้ถือเป็นการเตรียมพร้อมให้เราพร้อมเปล่งเสียงออกมาสำหรับการฝึกภาษาอังกฤษจากการดูหนังรอบที่ 3รอบที่ 3 ของการดูหนังหนึ่งเรื่อง: การพูด หลังจากที่ได้ฝึกการอ่านตามซับแต่ละประโยคในใจไปแล้ว รอบนี้จะให้ผู้ฝึกกดหยุดทุก ๆ ประโยคแล้วหลังจากนั้นก็พูดตาม บางครั้งการที่เราพูดในใจมันอาจจะรู้สึกสมูท แต่ไหงพอดันพูดเปล่งเสียงออกมาดันสะดุดซะยังงั้น ดังนั้นการที่เราพูดเปล่งเสียงออกมาจะทำให้กล้ามเนื้อที่ปากของเราจดจำการเคลื่อนไหว นอกจากนี้ยังช่วยให้เราเช็คได้ว่าสำเนียงที่พูด ณ ขณะนั้นตรงกับสำเนียงที่ตัวละครพูดออกมาหรือไม่ เมื่อสำเนียงเราดีจะช่วยให้เรามีความน่าเชื่อถือและโดดเด่นเวลาได้พูดคุยเรื่องงานในที่ประชุมหรือเวลาไปเจราจาธุรกิจ รอบที่ 4 ของการดูหนังหนึ่งเรื่อง: การเขียน มาถึงรอบที่ 4 ของการฝึกภาษาอังกฤษจากการดูหนังหรือซีรีย์ ขั้นตอนนี้จะเป็นการจดศัพท์ ประโยค และสำนวนที่เราไม่รู้จักมาหาคำแปลหรือตีความประโยคและสำนวนนั้น ๆ โดยขั้นตอนนี้จะช่วยให้เราเข้าใจหรือรู้ว่าประโยคและสำนวนไหนควรจะใช้ในเหตุการณ์อะไร นอกจากนี้ยังช่วยให้เราได้ฝึกในการสร้างโครงสร้างของประโยคนั้น ๆ อีกด้วย รอบที่ 5 ของการดูหนังหนึ่งเรื่อง: ไม่มีซับ ขั้นตอนสุดท้ายนี้เป็นการดูหนังโดยที่ไม่มีการเปิดซับใด ๆ เลย ซึ่งจะเป็นการทดสอบเราฟังรู้เรื่องและเข้าใจขึ้นหรือไม่ แปลประโยคและสำนวนได้หรือไม่ และเนื่องจากการที่ผู้ฝึกดูหนังเรื่องนั้นมาหลายรอบแล้ว ผมชื่อว่าอย่างน้อยผู้ฝึกน่าจะสามารถเข้าใจเนื้อหาของหนังได้ประมาณ 80% การฝึกใน 5 ขั้นตอนนี้ มันอาจจะยากในช่วงเริ่มต้นหรือเบื่อเพราะต้องดูหนังเรื่องนั้นถึง 5 รอบ แต่ผมเชื่อว่าถ้าเรามีความอดทน มีวินัย และต้องการพัฒนาความสามารทางภาษาอังกฤษอย่างจริงจัง สักวันเราจะฟังชาวต่างชาติพูดรู้เรื่องและสามารถสื่อสารกับพวกเขาได้อย่างคล่องแคล่ว เป็นกำลังใจให้ทุกท่านนะครับ Jumanji ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและมีฉายบน Netflix อีกด้วยบทความโดย "กระดานดำ" เครดิตภาพปกภาพที่ 1 (แอปพลิเคชัน Netflix)ภาพที่ 2 (แอปพลิเคชัน Netflix)ภาพที่ 3 (เพจทางการของ Jumanji)