ช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ สื่อบันเทิงจีนเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้นในบ้านเรา (หลังจากห่างหายไปนาน) เห็นได้ชัดจากกระแสซีรี่ย์ รายการเพลง หรือศิลปินจีนมากหน้าหลายตา อีกทั้งยังมีแพล็ตฟอร์มโซเชียลมีเดียสำหรับรับชมสื่อบันเทิงต่างๆของจีนที่เป็นช่องทางสากลมากยิ่งขึ้น อาทิเช่น WeTV และ iQIYI เป็นต้น เราเองในฐานะที่เป็นแฟนเพลง แฟนซีรี่ส์ ชอบดูผลงานต่างๆของประเทศจีนอยู่บ้างเกิดสนใจอยากเรียนภาษาจีนบ้าง ปัจจุบันเรียนมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว ที่จะแนะนำนี้เป็นส่วนที่เราได้เรียนเองจริงๆ และยังคงเรียนอยู่ จึงอยากแนะนำคนที่สนใจและอยากจะเรียนภาษาจีนด้วยตัวเอง เราจะขอแนะนำ 3 ข้อ 1. แหล่งเรียนภาษาจีน 1.1 แอพพลิเคชั่น ปัจจุบันมีแอพพลิเคชั่นสอนภาษามากมายให้ได้เลือกสรร สำหรับภาษาจีนพื้นฐานก็มีเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น "เรียนภาษาจีน - Mandarin & Learn Chinese Free", "เรียนภาษาจีน-ElephantChinese" หรือ "Super Chinese เรียนภาษาจีน" แต่ละแอพพลิเคชั่นก็จะมีรูปแบบที่แตกต่างกันไป ส่วนตัวเราเรียนจาก "Hello Chinese เรียนภาษาจีน" มากที่สุด จึงอยากขออธิบายในส่วนของแอพนี้ ปัจจุบันทางแอพได้เพิ่มหลักสูตรใหม่เข้ามา ประกอบไปด้วยคำศัพท์กว่า 1,000 คำ และหลักไวยากรณ์จีนอีกกว่า 240 รายการ หรืออาจเทียบเท่า HSK 4 ภายในแอพจะสอนไปทีละบท เมื่อผ่านบทหนึ่งได้ จึงจะสามารถเรียนบทถัดไปได้ ในแต่ละบทก็จะให้ทั้งคำศัพท์ ประโยคสนทนาที่ควรรู้ การออกเสียง/พูด และการเขียนลำดับขีดอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ยังมีเกมให้เล่นและทบทวนเนื้อหาที่ได้เรียนไปแล้วอีกด้วย ทั้งการเขียน การเรียงประโยคต่างๆ 1.2 Website นอกจากแอพพลิเคชั่นที่ได้แนะนำข้างต้นแล้ว เราอยากจะแนะนำเว็บไซต์ jiewfudao เป็นเว็บไซต์สำหรับเรียนภาษาจีนฟรี เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีทุนทรัพย์ บุคคลวัยทำงานที่อยากแบ่งเวลาเพื่อมาเรียนภาษาจีนเพิ่มพูนความรู้ ผู้ที่ไม่เคยเรียนจีนมาก่อนก็สามารถเริ่มต้นกับเว็บไซต์นี้ได้เช่นกัน โดยเริ่มสอนตั้งแต่การอ่านพินอิน (Pinyin) พยัญชนะ สระ การผสมเสียงต่างๆ เพื่อให้สามารถอ่านออกเสียงภาษาจีนได้อย่างถูกต้อง และต่อยอดไปยังการพิมพ์ภาษาจีน ซึ่งในการพิมพ์ภาษาจีนนั้นจำเป็นต้องใช้พินอิน (Pinyin) จึงจะสามารถพิมพ์คำนั้นๆออกมาได้ เว็บไซต์นี้ได้แบ่งการสอนเป็น 5 ระดับ คือ ภาษาจีนพื้นฐาน 1, ภาษาจีนพื้นฐาน 2, ภาษาจีนพื้นฐาน 3, ภาษาจีนพื้นฐาน 4 และภาษาจีนพื้นฐาน 5 แต่ละระดับก็จะมีบทย่อยอีกเพื่อให้ผู้เรียนได้เข้าใจในวัฒนธรรมและเข้าใจในภาษาจีนมากยิ่งขึ้น ในแต่ละบทเรียน พี่จิ๋วจะสอนอ่านพินอิน (Pinyin) สอนคำศัพท์ ตัวอย่างบทสนทนา เนื้อหาการเรียนเพิ่มเติม (ขยายความหมาย การใช้งานของคำศัพท์ในบทเรียนนั้นๆ) และการเขียนอักษรจีน นอกจากนี้ยังมีเนื้อหา ความรู้อื่นๆ ให้ได้ศึกษาภายในเว็บไซต์อีกมากมาย อาทิเช่น ประวัติศาสตร์จีน แพทย์แผนจีน ประเพณีและเทศกาลจีน หรือนิทานจีน เป็นต้น 2. คัดอักษรจีน การคัดอักษรจีนเป็นเรื่องที่อยากจะแนะนำเช่นกัน อาจไม่ถึงกับต้องเขียนให้สวย หรืองดงาม แต่จำเป็นต้องเขียนลำดับขีดให้ถูกต้อง ถ้าหากเขียนลำดับขีดไม่ครบหรือเขียนผิดก็อาจทำให้ความหมายต่างไปจากเดิมได้ นอกจากนี้แล้วยังจะทำให้เรานั้นสามารถจดจำคำศัพท์ภาษาจีนได้อีกด้วย ส่วนตัวเราคิดว่าการเขียนอักษรจีนนั้นไม่ได้ยาก (แต่เขียนให้สวยนั้นยาก ฮ่าๆๆ) เนื่องจากอักษรจีนนั้นเป็นอักษรภาพ เมื่อได้เขียนไปเยอะๆ จะทำให้เราเข้าใจความหายของตัวอักษรได้ง่ายขึ้น ดังเช่นตัวอย่างในภาพ 3. สื่อ ดนตรี ซีรี่ส์ รายการต่างๆของประเทศจีน นอกจากการเรียนพินอิน การเขียนและการพูดแล้วนั้น สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้อีกอย่างเลยนั่นคือการฟัง แน่นอนว่าแอพพลิเคชั่นและเว็บไซต์ที่แนะนำไปข้างต้นได้สอนเทคนิคการฟังแล้ว เพื่อผลลัพธ์ที่ดีอีกขั้น เราคิดว่าสื่อต่างๆเหล่านี้ก็จำเป็นในการพัฒนาการฟังของเราเช่นกัน หรือจะบอกได้ว่าเป็นการพาตัวเองไปอยู่ในสภาวะแวดล้อมนั้น ลองฟังว่าเขาพูดว่าอะไร ลองออกเสียงตาม เมื่อได้ยินได้ฟังคำเหล่านั้นบ่อยๆ จะทำให้เราจำการออกเสียงและสำเนียงที่เขาพูดได้ ถึงแม้ว่าประเทศจีนจะมีสำเนียงที่หลากหลายก็ตาม นี่เป็นอีกโอกาสที่จะทำให้เราได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง แบบไม่ต้องบินไปถึงประเทศจีน อยากแนะนำให้ดูแบบปิดซับไตเติ้ล เพื่อไม่เป็นการรบกวนทักษะในการฟัง สื่อบันเทิงนั้นมีมากมายหลากหลาย ให้เลือกสิ่งที่ชอบและสนใจ เพื่อจะทำให้การเรียนรู้ไม่น่าเบื่อจนเกินไป มาถึงตรงนี้หลายๆคนอาจจะมีคำถามในใจ ต้องเรียนกี่ปีถึงจะสื่อสารได้? อันนี้ต้องขอตอบว่า ขึ้นอยู่กับตัวเราค่ะ เราให้เวลากับมันมากแค่ไหน บางคนไม่กี่ปีก็ได้แล้ว แต่บางคนอาจใช้เวลาหลายปี ขึ้นอยู่กันปัจจัยแวดล้อมอื่นๆด้วย เรียนด้วยตัวเองและเรียนกับติวเตอร์แตกต่างกันไหม? แน่นอนว่าแตกต่างกัน หากเรามีข้อสงสัยหรือเกิดคำถามเกี่ยวกับภาษาจีน การเรียนกับติวเตอร์หรืออาจารย์ก็อาจจะทำให้เราได้รับคำตอบที่ดีและเข้าใจมากกว่าค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าการเรียนด้วยตัวเองจะไม่สามารถไขข้อสงสัยได้นะคะ ทำได้เช่นกันค่ะ ปัจจุบันมีสื่อออนไลน์มากมายให้เราได้ค้นคว้า หาข้อมูลอีกมายมายเลยค่ะ สุดท้ายนี้ อยากให้ทุกคนเชื่อมั่นในตัวเอง มั่นฝึกฝนและทบทวนเป็นประจำนะคะ วางความกลัว ความกังวลในใจลง แล้วเริ่มลงมือทำเลยค่ะ ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ เรียนจบอะไรมา แต่ทุกคนก็สามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิตของเราเอง เราขอเป็นกำลังใจให้ แล้วมาเรียนรู้ไปพร้อมๆกันนะคะ :) เครดิตรูปภาพ: ภาพปก(เจ้าของบทความ), ภาพที่ 1 (แคปจาก play store), ภาพที่ 2 (แคปจากแอพ Hello Chinese), ภาพที่ 3 (แคปจากหน้าเว็บไซต์), ภาพที่ 4 (แคปจากแอพ Hello Chinese), ภาพที่ 5 (weibo, WeTV, iQIYI, @TrueIDMusic, @TrueID_app)