เกือบเท่าปี 54 อยุธยายังหนัก 3 แม่น้ำทะลัก จม 10 อำเภอ 32,670 ครัวเรือน
เกือบเท่าปี 54 อยุธยายังหนัก 3 แม่น้ำทะลัก จม 10 อำเภอ 32,670 ครัวเรือน แถมวัดได้รับผลกระทบ 6 อำเภอ รวม 41 แห่ง ระดับน้ำยังเพิ่มสูง
วันที่ 6 ต.ค.64 ผู้สื่อข่ารายงานว่า เขื่อนเจ้าพระยา ระบายน้ำที่ 2,719 ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่าน จ.พระนครศรีอยุธยา แม่น้ำน้อย ที่รับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา และคลองสาขา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น และท่วมบ้านเรือน วัดโรงเรียน สถานที่ราชการ บางจุดน้ำสูงกว่า 4 เมตร ต้องขยับขนย้ายสิ่งของหนีน้ำขึ้นสูงขึ้นกว่าเดิม
อย่างที่โรงเรียนวัดนกกระจาบ ต.วัดยม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างพรกุศล จ.ระยอง ต้องช่วยกันย้ายสิ่งของ เครื่องใช้ต่างๆ ขึ้นที่สูง เนื่องจากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น เป็นการขนย้ายรอบที่ 2 ของโรงเรียน
ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำป่าสัก เขื่อนพระราม 6 อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนอยู่ที่ 953 ลบ.ม.ต่อวินาที น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก ตลาดท่าเรือ บริเวณโดยรอบของชุมชนวัดสะตือ กว่า 100 หลังคา บางบ้านระดับน้ำท่วมสูง จนไม่สามารถพักอาศัยได้ บางหลังถูกท่วมมิดหลังคา น้ำท่วมครั้งนี้เกือบเท่ากับ 2554
นางจินตนา วงษ์สีดา อายุ 55 ปี ชาวบ้านกล่าวว่า ที่บ้านถูกน้ำท่วมสูงจนไม่สามารถพักอาศัยอยู่ในบ้าน ต้องมาอาศัยอาคารเอนกประสงค์ของวัดสะตือ ตนต้องอยู่อาศัยอย่างยากลำบากด้วยฐานะที่ยากจน ร่างกายไม่แข็งแรง ไม่มีมุ้งจะกางนอน ถูกยุงกัด สองแม่ลูกต้องทนนอนตากยุง
สำหรับจ.พระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมแล้ว 10 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเสนา บางไทร บางบาล ผักไห่ ท่าเรือ บางปะหัน บางปะอิน นครหลวง มหาราช และอำเภอพระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 131 ตำบล 687 หมู่บ้าน 32,670 ครัวเรือน เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ (5 ต.ค.64) อีก 1 ตำบล 4 หมู่บ้าน 1,640 ครัวเรือน
นอกจากนี้ ยังมีวัดที่ได้รับผลกระทบ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเสนา บางไทร บางบาล ผักไห่ ท่าเรือ และอำเภอบางปะอิน รวม 41 วัด
ด้านนายวีระชัย นาคมาศ ผวจ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือ พี่น้องประชาชน ทั้งในติดตั้งเครื่องสูบน้ำ กั้นกระสอบทรายเป็นพนังกั้นน้ำในพื้นที่จุดเสี่ยงและพื้นที่ลุ่มต่ำ ประกอบกับจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังทุกประตูระบายน้ำ หากเกิดภาวะฉุกเฉินจะมีหน่วยเคลื่อนที่เร็ว พร้อมเครื่องสูบน้ำเข้าดำเนินการติดตั้งทันที หรือหากบางจุดที่มีน้ำท่วมถนนภายในเกาะเมือง เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาจะตั้งคันดินป้องกันทันที