รีเซต

คลังลั่นเลิกแจก 5พันบาท แม้โควิดจ่อระบาดรอบสอง มั่นใจคนละครึ่งช่วยกระตุ้นศก.

คลังลั่นเลิกแจก 5พันบาท แม้โควิดจ่อระบาดรอบสอง มั่นใจคนละครึ่งช่วยกระตุ้นศก.
มติชน
11 ธันวาคม 2563 ( 16:27 )
74
คลังลั่นเลิกแจก 5พันบาท แม้โควิดจ่อระบาดรอบสอง มั่นใจคนละครึ่งช่วยกระตุ้นศก.

เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า คลังยังไม่มีมาตรการแจกเงินเยียวยา 5 พันบาท ให้กับประชาชน แม้ว่าสถานการณ์โควิด -19 จะต้องกลับมาเฝ้าระวังอีกครั้ง โดยมาตรการด้านการคลังหลังจากนี้จะเน้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจไม่ใช่การเยียวยาเหมือนที่ผ่านมา

 

ทั้งนี้ มาตรการในการดูแลเศรษฐกิจจะยังเป็นมาตรการชุดเดิม โดยเน้นกระตุ้นให้คนใช้จ่าย ผ่านโครงการคนละครึ่ง และช้อปดีมีคืน รวมถึงมาตรการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งขณะนี้ได้มีการปรับเงื่อนไข โดยการเพิ่มเที่ยวบินเพื่อรองรับการเดินทางท่องเที่ยวในหลายจังหวัด โดยเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องช่วยกันทั้งประเทศ เพื่อให้เศรษฐกิจกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

 

“อย่าเพิ่งคิดเรื่องมาตรการแจกเงิน เพราะตอนนี้เศรษฐกิจอยู่ในโหมดฟื้นตัว เป้าหมายตอนนี้คือต้องฟื้นฟู ส่วนเงินที่จะดูแล ก็ให้มั่นใจได้ว่ายังมีอยู่จากพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท และปี 2564 ไทยก็พร้อมที่จะเปิดประเทศ แต่ก็ต้องดูว่าต่างประเทศที่จะมามีความพร้อมแล้วหรือยัง และไทยเองก็ต้องมีระบบการตรวจสอบที่เข้มข้นด้วย” นายอาคม กล่าว

 

สำหรับผลกระทบของการท่องเที่ยวที่ จ.เชียงใหม่ และ จ. เชียงราย หลังจากพบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 และยังสามารถควบคุมได้ ในส่วนของคลังนั้นยังไม่มีความจำเป็นต้องออกมาตรการพิเศษเพื่อกระตุ้นท่องเที่ยวในพื้นที่ดังกล่าว เพราะจากการสอบถามคนในพื้นที่พบว่าสถานการณ์ยังเป็นปกติดี

 

นายอาคม กล่าวว่า กระทรวงการคลังและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตั้งเป้าหมายให้การท่องเที่ยวในประเทศ ปี 2564 จากมาตรการของรัฐที่ออกมาเพิ่มขึ้นอีก 3% รวมเป็น 6% หรือคิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยว 1 ใน 5 หรือประมาณ 8 ล้านคน ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดในสถานการณ์ปกติที่ 40 ล้านคน

 

ทั้งนี้ ทิศทางเศรษฐกิจในปี 2564 ยังต้องพึ่งพากำลังซื้อของประชาชน 52% ของจีดีพี และการลงทุนอีก 20% ของจีดีพี ขณะที่การลงทุนของภาครัฐต้องเป็นตัวขับเคลื่อน ไม่ให้สะดุด อาทิ การลงทุนรถไฟฟ้า สนามบิน และท่าเรือต่างๆ ส่วนสถานการณ์การแข็งค่าของเงินบาท คลังขอไม่ให้ความเห็น เพราะเป็นหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แต่นโยบายการเงินและการคลังจะต้องทำงานใกล้ชิด สอดประสานกันด้วย