หลายคนคงเคยเห็นคนเรียนเก่งไม่ได้ตั้งใจเรียนอะไรมากมาย แต่เขากลับแตกฉานในเนื้อหา ทำข้อสอบผ่าน ไม่ว่าข้อสอบจะสับขาหลอกแค่ไหน เขาก็ทำได้ แต่เรากลับทำได้ไม่ดีเท่าเขา บ่อยครั้งเราไม่ถนัดในบางวิชาก็พาลทำให้เราเกลียดการเรียนไปเลย กุญแจสำคัญของเรื่อง คือ วิธีทำความเข้าใจบทเรียน ซึ่งถ้าเรารู้จักใช้วิธีเรียนหนังสือที่มีประสิทธิภาพก็จะกลายเป็นคนเรียนเก่งได้เหมือนกัน หนังสือเล่มนี้เขียนโดย โคโนะ เก็นโตะ จะมาถ่ายทอดแนวคิดวิธีการเรียนหนังสือของเขา แปลเป็นไทยโดย อาคิรา รัตนาภิรัต ความรู้ความประทับใจที่ได้ในมุมมองของครีเอเตอร์ได้เรียนรู้ว่าวงจรการใช้ PDCA วางแผนในการเรียนทำได้อย่างไรบ้าง โดยเริ่มจาก Plan วางแผนว่าจะติวหนังสือสำหรับการสอบอย่างไร Do ติวหนังสือตามแผนที่วางไว้ Check คือตรวจสอบ ประเมินคะแนนสอบซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ได้ของเรา Act คือปรับแผนว่าจะทำอย่างไรให้ครั้งหน้าสอบได้คะแนนดีขึ้น ได้เรียนรู้ว่าอยากเป็นหมอเพราะเป็นอาชีพที่มั่นคงและน่าจะทำให้สาวๆชอบด้วย ไม่ใช่ความคิดที่น่าอายแต่อย่างใด แต่ถ้ามีเหตุผลเพื่อส่วนรวมว่าอยากช่วยคนไข้ให้หายป่วยกลับไปเป็นเสาหลักของครอบครัวเขาได้ แบบนี้จะค่อยๆซึมซับจนเป็นจนเป็นความต้องการจริงๆขึ้นมาเอง พูดง่ายๆเป้าหมายที่เห็นภาพชัดเจนสำคัญมาก การตั้งเป้าหมายอย่างจริงจังช่วยให้เราเข้าใกล้ความสำเร็จได้ ได้เรียนรู้ว่าเรียนหนังสือให้สนุกเหมือนเล่นเกม มีประเด็น 3 จุดTime Attack คือทำสิ่งใดให้สำเร็จในเวลาอันสั้น เช่น ทำโจทย์ตามเวลาที่กำหนด ทำเร็วขึ้นก็พัฒนาขึ้น ทำให้รู้ว่าตัวเองไม่ถนัดตรงไหนScore คือวัดว่าจะทำคะแนนดีแค่ไหน ถ้าทำ Level 2 แล้วคะแนนแย่กว่า Level 1 ก็ไม่ต้องใจเสีย เพราะยังถือว่าเราพัฒนาอยู่ อย่าเพิกเฉยจนพานไม่อยากเรียนChecklist สิ่งที่ต้องทำและตรวจสอบสิ่งที่ทำไปแล้ว จะได้ภูมิใจในตัวเองว่าทำอะไรสำเร็จ แต่ถ้าทำไม่ได้หมดก็ไม่ต้องคิดมากไป ได้เรียนรู้ว่าเวลาทำอะไรไม่สำเร็จ ยิ่งพยายามกับมันมากก็ยิ่งเศร้าใจมาก ลองนึกถึงนิทานเฒ่าเสียม้า ดีหรือร้ายใครจะรู้ เรื่องมีอยู่ว่าผู้เฒ่าเจ้าของม้าเห็นว่าม้าของตนหนีไป โชคร้ายจัง แต่ปรากฏว่าม้ามันกลับมาพร้อมม้าตัวเมียพันธุ์ดี โชคดีจัง แต่ดีหรือร้ายใครจะรู้ ต่อมา ลูกชายผู้เฒ่าซ้อมขี่ม้าตัวใหม่ที่ว่าจนตกจากหลังม้าจนขาหัก นี่อาจจะโชคดีก็ได้ ปรากฏว่ามีการเกณฑ์ทหารให้ไปรบ ลูกชายคนนั้นจึงไม่ต้องไปรบ รอดตายโดยปริยาย เพราะผลการรบมีทหารตาย 9 ใน 10 สรุป คนเราไม่อาจรู้หรือคาดการณ์ได้เพราะเรื่องดีอาจร้าย เรื่องร้ายอาจกลายเป็นดี ได้เรียนรู้ว่าผลของการเรียนจะเปลี่ยนไปตามค่า เราพยายามมากแค่ไหน × ความพยายามนั้นมุ่งไปทิศทางไหน ได้เรียนรู้ว่าวิธีเรียนด้วยการคำนวณกลับหลังอย่างเป็นรูปธรรม ต้องประกอบด้วย1.รู้เป้าหมายตัวเอง ต้องทำได้กี่คะแนน ขอบเขตเนื้อหาลึกแค่ไหน2.กำหนดสิ่งที่ทำ ถามคนที่เคยสอบผ่านโดยปรึกษาเขาเรื่องการสอบ3.จัดตารางสิ่งที่ต้องทำ To do list เวลาทำอะไรเสร็จไปอย่างๆแล้วขีดค่าทิ้งภาระงานที่เสร็จแล้วจะรู้สึกดี4.ลงมือทำ โดยเห็นภาพรวมเนื้อหาที่จะสอบก่อน อธิบายความสัมพันธ์ให้เป็นเรื่องเดียวกัน เช่น การเคลื่อนที่อย่างง่ายและการเคลื่อนที่แบบวงกลม คำนวณด้วยกฎการเคลื่อนที่ของวัตถุ แม้สมการต่างกัน แต่เนื้อหาไม่ต่างกันเลย ได้เรียนรู้ว่ารอบแรกอ่านจบโดยละเอียดแล้ว ต้องอ่านรอบ 2 เฉพาะส่วนที่สำคัญต่อทันที หากปล่อยนานไปอาจลืมเนื้อหาบางส่วนไป ทำให้เสียเวลาอ่านใหม่ทั้งหมดเหมือนอ่านรอบแรก ได้เรียนรู้ว่าวิธีเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนได้อย่างรวดเร็วอย่างหนึ่งคือเรียนพิเศษ อย่างน้อยก็ควรรู้ว่าตัวเองจำเป็นต้องเรียนเรื่องไหน แล้วใช้เวลากับการเรียนด้วยตัวเอง (อ่านเอง) เสียก่อน ได้เรียนรู้ว่าการสร้าง Output บ่อยช่วยให้จำได้ระยะยาว โดยการท่องจำแล้วทบทวนสิ่งที่ยังไม่เข้าใจ เมื่อเข้าใจแล้วก็จะเรียบเรียงข้อมูลในหัวได้ การทบทวนท่องจำจึงทำหลังได้รับข้อมูลนั้น 1 ชั่วโมงหรือ 1 สัปดาห์โดยประมาณ ได้เรียนรู้ว่าความพยายามนั้นดูงดงาม ขณะเดียวกันโลกแห่งความพยายามก็โหดร้ายมาก ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน ถ้าทำผิดวิธีก็ไม่อาจสร้างความสำเร็จได้ มีคนมากมายที่ไม่รู้จักสร้างสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการพยายาม แล้วต้องพยายามต่อไปเรื่อยๆภายใต้ข้อจำกัดต่างๆ เช่น แรงบันดาลใจ อายุ เงินทุน แต่ไม่ว่าจะเจออุปสรรคใด ทุกคนก็ต้องพยายามไปถึงเป้าหมายให้ได้ สุดท้ายนี้ครีเอเตอร์ได้แนวทางการเรียนหนังสือที่ช่วยให้มองเห็นว่าตัวเราเองตกหล่นจุดไหนไปบ้าง การเรียนหนังสือให้ประสบผลสำเร็จ ถ้าเริ่มต้นไม่ถูกจุดจะไม่มีทางเดินก้าวต่อไปได้ถูกเลย หลักการเรียนด้วยวิธีคำนวณกลับหลังหรือมองภาพเป้าหมายที่อยากไปให้ถึงเป็นตัวตั้ง จะช่วยเป็นแรงจูงใจให้เราทำตามฝันได้อย่างต่อเนื่อง ยอมรับว่าหนังสือเล่มนี้อิงตามการเรียนของสังคมญี่ปุ่น มีบางเรื่องเราอาจจะไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร แต่ส่วนที่ดีที่เหลืออยู่สามารถปรับใช้กับการเรียนในสังคมไทยได้อย่างแน่นอนครับ เครดิตภาพภาพปก โดย freepik จาก freepik.comภาพที่ 1 และ 2 โดยผู้เขียนภาพที่ 3 โดย freepik จาก freepik.comภาพที่ 4 โดย freepik จาก freepik.comบทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิวหนังสือ คู่มือแสวงพรสวรรค์ โดย ทันตแพทย์สม สุจีรารีวิวหนังสือ ทางลัดสู่อัจฉริยะ โดย ทันตแพทย์สม สุจีรารีวิวหนังสือ ปัญญาญาณ (Intuition) โดย OSHOรีวิวหนังสือ คิดแบบอัจฉริยะ โดย ทันตแพทย์สม สุจีรารีวิวหนังสือ หัวไม่ดีก็มีวิธีสอบผ่าน โดย พี่แมงปอ7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์