‘บัญชีกลาง’ ปลดล็อกเบิกจ่าย 4 ล้านล้าน

นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า งบประมาณรายจ่ายปี 2569 ทั้งในส่วนของงบประมาณประจำปีและเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีรวมกว่า 4 ล้านล้านบาท ถือเป็นเครื่องมือทางการคลังที่สำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แต่ที่ผ่านมามักประสบปัญหาความล่าช้าในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ทำให้เม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจไม่ทันท่วงที

ดังนั้น คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ (คณะกรรมการวินิจฉัย) จึงได้ออกมาตรการเชิงรุก 2 แนวทางหลักเพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ เกิดความคล่องตัว รวดเร็ว และสอดคล้องกับนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล

มาตรการแรก คือการเพิ่มความคล่องตัวในขั้นตอนการประกวดราคา (e-bidding) โดยอนุญาตให้หน่วยงานของรัฐสามารถลดระยะเวลาการเผยแพร่ร่างประกาศและเอกสารประกวดราคา (TOR) ให้สั้นลงได้จากเดิม และยังเปิดช่องให้เดินหน้าโครงการต่อได้ แม้จะมีผู้ยื่นข้อเสนอที่ถูกต้องตามเงื่อนไขเพียงรายเดียว ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาในการรอคอยได้อย่างมีนัยสำคัญ

มาตรการที่สอง คือการแก้ปัญหาการตรวจรับงานล่าช้า ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้ผู้ประกอบการที่เป็นคู่สัญญากับรัฐต้องแบกรับภาระและขาดสภาพคล่อง

ดังนั้น คณะกรรมการวินิจฉัยฯ จึงได้กำหนด กรอบระยะเวลาการตรวจรับพัสดุที่ชัดเจน เพื่อให้หน่วยงานรัฐทุกแห่งยึดถือเป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นงานจัดซื้อจัดจ้างหรืองานจ้างก่อสร้าง ซึ่งจะทำให้การเบิกจ่ายเงินให้กับคู่สัญญาเป็นไปอย่างรวดเร็ว คาดการณ์ได้ และเป็นไปตามเป้าหมายตามมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินในแต่ละปี

ทั้งนี้ หากคณะกรรมการตรวจรับพัสดุหรือผู้ควบคุมงานมีเหตุผลความจำเป็นไม่อาจดำเนินการได้ภายในระยะเวลาดังกล่าว ให้ขอขยายระยะเวลาในการดำเนินการต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ

อย่างไรก็ตาม การกำหนดกรอบเวลาตรวจรับงานที่ชัดเจนนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยเร่งการเบิกจ่ายงบประมาณเท่านั้น แต่ยังถือเป็นการปฏิรูปกระบวนการทำงานของภาครัฐให้มีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และเป็นธรรมต่อภาคเอกชนมากขึ้น เมื่อผู้ประกอบการได้รับเงินเร็วขึ้น สภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจก็จะหมุนเวียนได้ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม"