Crossover Creativity ของ Dave Trott เป็นหนังสือที่รวบรวมเรื่องราวที่หลากหลายและเปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ในทุกมิติ หนังสือเล่มนี้ไม่ได้แค่พูดถึงความคิดสร้างสรรค์ในเชิงศิลปะหรือเทคโนโลยี แต่ยังขยายมุมมองให้เราเห็นว่า ความคิดสร้างสรรค์สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกสถานการณ์ และที่สำคัญที่สุด มันมักเกิดจากจุดเริ่มต้นที่เรียบง่าย ความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่ได้อยู่แค่ในเทคโนโลยี ในยุคที่ “ความคิดสร้างสรรค์” ถูกเข้าใจว่าหมายถึงนวัตกรรมทางเทคโนโลยี Trott กลับพาเราไปมองในมุมที่แตกต่าง เขาเล่าเรื่องของ Amy Smith อาจารย์จาก MIT ที่นิยามความคิดสร้างสรรค์ว่าเป็นสิ่งที่ช่วยแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน โดยตัวอย่างเช่น Bernard Kiwia นักเรียนจากแทนซาเนียที่นำบทเรียนจาก MIT กลับไปพัฒนาหมู่บ้านที่ไม่มีไฟฟ้า ด้วยการสร้างเครื่องชาร์จมือถือจากจักรยาน เรื่องนี้สะท้อนว่า ความคิดสร้างสรรค์ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานจากความซับซ้อน แต่เกิดจากการมองเห็นโอกาสและการประยุกต์ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่รอบตัว ความคิดสร้างสรรค์เกิดจากความไม่คาดคิด หนึ่งในจุดเด่นของหนังสือเล่มนี้คือการรวบรวมตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า ความคิดสร้างสรรค์มักเกิดขึ้นจากสถานการณ์ที่เราไม่คาดคิด เช่น การที่ Peter Sellers ประทับใจภาพยนตร์ The Producers มากจนออกโฆษณาด้วยเงินส่วนตัวของเขาเอง ทำให้ภาพยนตร์ที่เคยถูกมองข้ามกลับมาได้รับความนิยม หรือกรณีของ George Lucas ที่ไม่ได้ตั้งใจสร้างอาณาจักรธุรกิจระดับพันล้านเมื่อเริ่มต้นสร้าง Star Wars ตัวอย่างเหล่านี้เน้นให้เห็นว่า ความคิดสร้างสรรค์มักไม่ได้เกิดจากการวางแผนอย่างเป็นขั้นตอนเสมอไป แต่มันอาจมาจากการลงมือทำสิ่งเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยความหลงใหล การมองหาไอเดีย: ก่อนที่เราจะต้องการมัน หนึ่งในปรัชญาสำคัญที่ Trott นำเสนอในหนังสือคือ “The best time to look for an idea is before you need it.” เขาเปรียบความคิดสร้างสรรค์เหมือนการสะสมเครื่องมือที่อาจไม่ได้ใช้ทันที แต่ในวันที่เหมาะสม มันจะกลายเป็นสิ่งที่ช่วยเราแก้ปัญหาได้อย่างไม่น่าเชื่อ เช่นเดียวกับคำพูดของ Helmut Krone ที่ว่า “Sometimes you make the revolution, then you decide what it’s for.” แรงบันดาลใจจากความธรรมดา Trott ยังชี้ให้เห็นว่าแรงบันดาลใจสามารถมาจากสิ่งที่ดูธรรมดาที่สุด เช่น การชงชา หรือการดูการแข่งขันม้า ตัวอย่างเช่น Jerry Della Femina ที่ได้เรียนรู้บทเรียนด้านการวิเคราะห์จากสนามแข่งม้า หรือ R. A. Fisher ที่เปลี่ยนแปลงวงการสถิติโดยไม่ได้ตั้งใจจะสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ตั้งแต่แรก เรื่องราวเหล่านี้สอนให้เราเปิดใจและมองหาไอเดียในสิ่งที่อยู่รอบตัว แม้ว่ามันจะดูไม่มีความเกี่ยวข้องในตอนแรก คำพูดที่ตราตรึงใจ หนังสือเล่มนี้ยังแฝงคำสอนที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง เช่น คำพูดของ Mother Teresa ที่ว่า “What you spend years building, someone could destroy overnight; build anyway.” ประโยคนี้เป็นการสะท้อนว่าความคิดสร้างสรรค์ไม่ได้มีเป้าหมายแค่การสร้างผลงาน แต่ยังเกี่ยวข้องกับความกล้าที่จะลงมือทำ แม้รู้ว่าผลลัพธ์อาจไม่เป็นอย่างที่หวัง ความรู้สึกส่วนตัวหลังอ่าน Crossover Creativity เป็นหนังสือที่เต็มไปด้วยพลังบวกและแรงบันดาลใจ มันทำให้เราตระหนักว่าความคิดสร้างสรรค์ไม่ได้เป็นของคนที่มีพรสวรรค์พิเศษหรือทรัพยากรล้นเหลือเท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถพัฒนาได้ หากเรากล้าที่จะมองเห็นสิ่งใหม่ในสิ่งธรรมดา หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นศิลปิน นักธุรกิจ หรือคนธรรมดาที่ต้องการมองชีวิตในมุมใหม่ เพราะมันช่วยเปิดมุมมองว่า “ความคิดสร้างสรรค์ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องวิ่งหา แต่เป็นสิ่งที่เราสามารถสร้างขึ้นเองได้จากทุกสิ่งรอบตัว” Crossover Creativity เป็นหนังสือที่ไม่ได้ให้คำตอบสำเร็จรูปเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ แต่มันกระตุ้นให้เราเรียนรู้และทดลองสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ผ่านมุมมองที่หลากหลาย เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้เปรียบเสมือนแสงไฟที่นำทางในวันที่เรารู้สึกมืดมนในเรื่องไอเดีย หากคุณกำลังมองหาแรงบันดาลใจหรือมุมมองใหม่ ๆ ในการใช้ชีวิต Crossover Creativity คือหนังสือที่ไม่ควรพลาด เพราะมันไม่ได้สอนเพียงแค่ “คิดอย่างไรให้สร้างสรรค์” แต่ยังสอนให้เรากล้าที่จะลงมือทำอย่างสร้างสรรค์ในทุกก้าวของชีวิตค่ะ 💡✨ สามารถหายืมหนังสืออ่านได้ที่ หอสมุดกรุงเทพมหานคร เครดิตภาพถ่าย : ถ่ายเองจากมือถือทุกภาพค่ะ ขอให้ทุกคนมีวันที่ดีค่ะ ขอบคุณค่ะ :)) เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !