วิธีเลือกกระเบื้องมุงหลังคา แบบไหนดี เหมาะสมกับบ้าน | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล การเลือกบ้านหรือการสร้างบ้านนั้น ไม่ใช่ว่าดูแค่เรื่องราคา การขายต่อ ทำเลที่ตั้งหรือแค่ความสะดวกสบายกับระบบสาธารณูปโภคเท่านั้นนะคะ เพราะหากเรามองไปในประเด็นของเรื่องด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมนั้น บ้านที่เราสร้างเพื่ออยู่อาศัย ที่ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาแบบไหนหรือจะอยู่ที่ไหนก็ตามแต่ บ้านคือสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเรา จึงต้องพิถีพิถันในการเลือกสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับบ้าน เพราะเราใช้เวลาอยู่บ้านค่อนข้างมากในหนึ่งวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพูดถึงในเรื่องของกระเบื้องมุงหลังคาบ้าน ที่หลายคนอาจจะยังมองภาพไม่ออกเลยว่า กระเบื้องมุงหลังคาบ้านมีความสำคัญยังไง ทำไมต้องเลือก แล้วต้องดูอะไรบ้าง เคยสงสัยในประเด็นนี้กันไหมคะ ซึ่งต้องบอกว่ามีหลายอย่างที่เราต้องนำมาคิดค่ะ ดังนั้นในบทความนี้เราจะมารู้กันว่า หากจะเลือกกระเบื้องมาเป็นวัสดุมุงหลังคาที่อยู่อาศัยนั้น แบบไหนดี แบบไหนปลอดภัย แบบไหนน่าเลือกซื้อมามุงหลังคาบ้านของเรา กับ 8 เทคนิคดีๆ และน่าสนใจที่สามารถนำไปเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้ ดังนี้ค่ะ 1. เลือกวัสดุที่ไม่เป็นอันตราย การเลือกวัสดุกระเบื้องมุงหลังคาเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งค่ะ เพราะว่าใยหินในกระเบื้อง เมื่อใยหินแตกหักหรือเสื่อมสภาพ จะปล่อยเส้นใยขนาดเล็กออกมาในอากาศ และแม้ว่าการใช้ใยหินจะถูกห้ามในหลายประเทศ แต่ก็ยังอาจพบได้ในอาคารเก่าหรือผลิตภัณฑ์บางชนิด ดังนั้นการตรวจสอบส่วนผสมของกระเบื้องก่อนตัดสินใจซื้อจึงเป็นสิ่งสำคัญ ให้ตรวจสอบฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด หากพบคำว่า “แร่ใยหิน" ควรหลีกเลี่ยงนะคะ และลองเลือกกระเบื้องทำจากดินเหนียวธรรมชาติ มีความทนทาน ระบายความร้อนได้ดี และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นวัสดุธรรมชาติ ไม่ปล่อยสารเคมีอันตราย หรือเลือกกระเบื้องที่เป็นวัสดุสังเคราะห์ที่ปลอดภัย เช่น กระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์ เพราะกระเบื้องแบบนี้ผลิตจากปูนซีเมนต์ผสมกับเส้นใยเซลลูโลสหรือเส้นใยสังเคราะห์ ไม่มีส่วนผสมของใยหินค่ะ ซึ่งการเลือกวัสดุกระเบื้องมุงหลังคาที่ปลอดภัย และยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วยค่ะ 2. พิจารณาการระบายอากาศ การระบายอากาศใต้หลังคาเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ในการรักษาอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสม เพราะส่งผลโดยตรงต่อผู้อยู่อาศัยค่ะ โดยให้เลือกกระเบื้องที่มีคุณสมบัติระบายอากาศได้ดี มีช่องระบายอากาศในตัว ซึ่งกระเบื้องแบบนี้ได้รับการออกแบบให้มีช่องระบายอากาศขนาดเล็ก เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกค่ะ ตลอดจนหากเราเลือกกระเบื้องที่มีรูปทรงที่ช่วยระบายอากาศ แบบนี้ก็สามารถช่วยได้นะคะ โดยกระเบื้องที่มีรูปทรงโค้งหรือมีช่องว่างระหว่างแผ่น จะช่วยให้อากาศไหลเวียนได้ดีขึ้นค่ะ 3. เลือกกระเบื้องที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อน หลายคนยังไม่รู้ว่า การที่เราเลือกกระเบื้องที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อนนั้น ที่เป็นแบบนี้เพราะเราต้องการประโยชน์ในเรื่องของการลดอุณหภูมิภายในบ้านและประหยัดพลังงานค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุณหภูมิใต้หลังคาและภายในบ้าน เพราะเราต้องการทำให้บ้านเย็นสบายขึ้น การลดอุณหภูมิภายในบ้านมีส่วนดีหลายอย่าง โดยเฉพาะกับผู้สูงอายุและเด็กเล็กได้ค่ะ และเพื่อลดความจำเป็นในการใช้เครื่องปรับอากาศ จึงทำให้ประหยัดค่าไฟฟ้าค่ะ อีกทั้งความร้อนที่สะสมบนหลังคาอาจทำให้วัสดุหลังคาเสื่อมสภาพเร็วขึ้น การใช้กระเบื้องสะท้อนความร้อนจะช่วยลดความร้อนสะสมและยืดอายุการใช้งานของหลังคานะคะ ดังนั้นต้องเลือกกระเบื้องที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อน ซึ่งการสะท้อนร้อนของกระเบื้องนั้นเกิดได้จากหลายอย่างนะคะ ได้แก่ ใช้กระเบื้องสีอ่อน กระเบื้องสีอ่อนจะช่วยลดอุณหภูมิพื้นผิวหลังคา และลดความร้อนที่ส่งผ่านเข้าสู่ตัวบ้านค่ะ และตัวอย่างของสีกระเบื้องโทนอ่อน เช่น สีเทาอ่อน หรือสีเบจ โดยสีเหล่านี้จะช่วยสะท้อนแสงแดดได้ดีกว่าสีเข้ม จึงทำให้ความร้อนถูกดูดซับน้อยลงค่ะ มีสารเคลือบสะท้อนความร้อน คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า กระเบื้องบางชนิดได้รับการเคลือบด้วยสารพิเศษที่ช่วยสะท้อนรังสีความร้อนจากแสงอาทิตย์ สารเคลือบที่ว่านี้อาจเป็นสารจำพวกไทเทเนียมไดออกไซด์ หรือสารอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อนสูงค่ะ โดยการเคลือบสารสะท้อนความร้อนนี้ จะทำให้กระเบื้องมีค่าการสะท้อนความร้อนที่สูงกว่ากระเบื้องทั่วไป 4. พิจารณาความทนทานต่อสภาพอากาศ ความทนทานต่อสภาพอากาศของกระเบื้องเป็นสิ่งสำคัญ ในการเลือกกระเบื้องมุงหลังคาที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของบ้านเราค่ะ และตัวอย่างของความทนทานที่เราต้องนำมาคิดก่อนเลือกซื้อกระเบื้องมุงหลังคา มีดังนี้ค่ะ สามารถทนทานต่อฝนและน้ำ โดยให้เลือกกระเบื้องที่มีอัตราการดูดซึมน้ำต่ำ เพื่อป้องกันการรั่วซึมและการเกิดเชื้อรา หรือกระเบื้องที่มีการเคลือบผิวที่ดีจะช่วยลดการดูดซึมน้ำค่ะ มีความทนทานต่อแสงแดดและความร้อน เลือกกระเบื้องที่มีสีที่ทนทานต่อแสงแดด เพื่อป้องกันการซีดจางของสีในระยะยาว โดยกระเบื้องที่มีการเคลือบผิวด้วยสารป้องกันรังสี UV จะช่วยลดการซีดจางของสีค่ะ นอกจากนี้ต้องเลือกกระเบื้องที่มีความทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิได้ด้วย เพื่อป้องกันการแตกร้าวและการบิดเบี้ยว เพราะกระเบื้องที่มีความยืดหยุ่นจะช่วยลดผลกระทบจากการขยายตัวและหดตัวได้ค่ะ ความทนทานต่อลมและพายุ การเลือกกระเบื้องที่มีความแข็งแรงและทนทานต่อแรงลม เพื่อป้องกันการแตกหักและการปลิวหลุดนะคะ โดยให้เลือกกระเบื้องที่มีระบบการยึดเกาะที่แข็งแรง ความทนทานต่อสภาพอากาศอื่นๆ หากพื้นที่ของเรามีลูกเห็บตกบ่อย ก็ควรเลือกกระเบื้องที่มีความทนทานต่อแรงกระแทกจากลูกเห็บค่ะ หากบ้านของเราอยู่ในพื้นที่ที่มีมลภาวะทางอากาศสูง ควรเลือกกระเบื้องที่มีความทนทานต่อสารเคมี 5. เลือกกระเบื้องที่ทำความสะอาดง่าย การเลือกกระเบื้องมุงหลังคาที่ทำความสะอาดง่าย เป็นสิ่งสำคัญในการดูแลรักษาบ้านให้สวยงามและคงทนต่อสภาพอากาศค่ะ เพราะกระเบื้องที่มีการเคลือบผิวที่ดี จะช่วยป้องกันคราบสกปรกและทำให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นด้วย กระเบื้องที่มีพื้นผิวเรียบจะช่วยลดการสะสมของฝุ่นละอองและสิ่งสกปรก กระเบื้องที่มีพื้นผิวที่เรียบและมันเงา ทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาดและทนทานต่อคราบสกปรก ส่วนกระเบื้องที่มีพื้นผิวขรุขระหรือมีร่องลึก เพราะอาจเป็นแหล่งสะสมของคราบสกปรกและเชื้อรา ในขณะที่ถ้าเป็นกระเบื้องที่มีการดูดซึมน้ำต่ำ ทำให้คราบสกปรกไม่ฝังแน่น เพราะช่วยป้องกันคราบสกปรกซึมเข้าสู่เนื้อกระเบื้อง จึงทำให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นค่ะ กระเบื้องที่มีรูปทรงที่ช่วยให้น้ำฝนชะล้างสิ่งสกปรกออกไปได้ง่าย จะช่วยให้หลังคาดูสะอาดอยู่เสมอ ซึ่งการเลือกกระเบื้องมุงหลังคาที่ทำความสะอาดง่าย จะช่วยให้เราประหยัดเวลาและแรงงานในการดูแลรักษาบ้าน และยังช่วยให้หลังคาบ้านของเราดูสวยงามและคงทนต่อสภาพอากาศได้ยาวนานยิ่งขึ้นค่ะ 6. พิจารณาน้ำหนักของกระเบื้อง น้ำหนักของกระเบื้องมีผลโดยตรงต่อการรับน้ำหนักของโครงสร้างหลังคา หากเลือกกระเบื้องที่มีน้ำหนักมากเกินไป อาจทำให้โครงสร้างหลังคาไม่สามารถรับน้ำหนักได้ และเกิดการทรุดตัวหรือพังทลาย อีกทั้งยังสร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมจากการรื้อถอนและซ่อมแซม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีลมแรงหรือมีฝนตกหนักค่ะ การเลือกกระเบื้องที่มีน้ำหนักเหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ และช่วยลดความเสี่ยงต่อการพังทลาย และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการซ่อมแซม กระเบื้องที่มีน้ำหนักมากมักต้องการวัสดุในการผลิตมากกว่า ซึ่งหมายถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติมากขึ้น การเลือกกระเบื้องที่มีน้ำหนักเบาช่วยลดการใช้ทรัพยากรและพลังงานในการผลิตและการขนส่ง การลดน้ำหนักของวัสดุก่อสร้างโดยรวมยังช่วยลดปริมาณของเสียที่เกิดขึ้นจากการก่อสร้างและการรื้อถอน กระเบื้องที่มีน้ำหนักมากทำให้การขนส่งและการติดตั้งยากลำบากและใช้พลังงานมากขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การเลือกกระเบื้องที่มีน้ำหนักเบาช่วยลดการใช้พลังงานในการขนส่งและติดตั้ง ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หลังคาที่รับน้ำหนักมากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เช่น การพังถล่ม การเลือกกระเบื้องที่มีน้ำหนักเหมาะสมช่วยลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุและสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นค่ะ 7. เลือกสีของกระเบื้องให้เข้ากับสภาพแวดล้อม การเลือกสีของกระเบื้องมุงหลังคาให้เข้ากับสภาพแวดล้อม สามารถช่วยให้บ้านของเราดูกลมกลืนและสวยงาม นอกจากนี้ยังส่งผลต่ออุณหภูมิภายในบ้านและอายุการใช้งานของหลังคาด้วยค่ะ หากบ้านของเราตั้งอยู่ในพื้นที่ชนบทที่มีต้นไม้และธรรมชาติเยอะ ควรเลือกสีโทนธรรมชาติ เช่น สีน้ำตาล สีเทา หรือสีเขียว เพื่อให้บ้านดูกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม หากบ้านของเราตั้งอยู่ในพื้นที่ในเมืองที่มีอาคารและสิ่งก่อสร้างเยอะ ควรเลือกสีโทนกลางๆ เช่น สีเทา สีขาวหรือสีเบจ เพื่อให้บ้านดูทันสมัยและเข้ากับสภาพแวดล้อม ถ้าบ้านตั้งอยู่ริมทะเล ควรเลือกสีโทนอ่อนๆ เช่น สีฟ้าอ่อน สีขาว หรือสีเทาอ่อน เพื่อให้บ้านดูสดชื่นและเข้ากับบรรยากาศริมทะเล หากอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศร้อน ควรเลือกสีโทนอ่อน เช่น สีขาว สีเทาอ่อน หรือสีเบจ เพื่อสะท้อนความร้อนและลดอุณหภูมิภายในบ้านค่ะ 8. พิจารณาการบำรุงรักษาในระยะยาว การพิจารณาการบำรุงรักษากระเบื้องมุงหลังคาในระยะยาวสำคัญค่ะ เนื่องจากหลังคาเป็นส่วนสำคัญของบ้านที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่หลากหลาย การเลือกกระเบื้องที่ดูแลรักษาง่ายและมีอายุการใช้งานยาวนาน จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและลดปัญหาในอนาคตได้นะคะ โดยกระเบื้องที่ต้องการการบำรุงรักษาน้อย จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและเปลี่ยนกระเบื้องในอนาคต ส่วนกระเบื้องที่มีอายุการใช้งานยาวนาน จะช่วยลดความถี่ในการเปลี่ยนกระเบื้อง ซึ่งหมายถึงการประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อวัสดุและค่าแรง กระเบื้องที่ดูแลรักษาง่ายจะช่วยให้หลังคาดูสวยงามและอยู่ในสภาพดีตลอดเวลา หลังคาที่อยู่ในสภาพดีจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับบ้านได้ค่ะ กระเบื้องที่ต้องการการบำรุงรักษาน้อยจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหารั่วซึม เชื้อรา หรือความเสียหายอื่นๆ การเลือกวัสดุที่มีอายุการใช้งานยาวนาน ลดความจำเป็นในการเปลี่ยนวัสดุบ่อยครั้ง ลดการใช้ทรัพยากรและลดปริมาณขยะ ดังนั้นการเลือกกระเบื้องมุงหลังคาโดยพิจารณาถึงการบำรุงรักษาในระยะยาว จึงเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างบ้านที่สวยงาม แข็งแรง และประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวค่ะ และทั้งหมดนั้นคือแนวทางที่สำคัญๆ ตอนต้องเลือกกระเบื้องมามุงหลังคาบ้านนะคะ ที่จะว่าไปต่อให้ไปซื้อบ้านที่เขาสร้างเสร็จแล้ว เราก็ยังสามารถนำเทคนิคในบทความนี้ไปใช้ได้ โดยเราอาจดูที่แบบในการกอสร้างก่อได้ เพราะเขาจะเขียนบอกเอาไว้ว่าใช้วัสดุอะไรในการมุงหลังคาค่ะ สำหรับผู้เขียนมีโอกาสได้เลือกกระเบื้องมุงหลังคาอยู่เหมือนกันค่ะ โดยล่าสุดได้เลือกกระเบื้องมุงหลังคาลอนคู่ ชนิดไฟเบอร์ซีเมนต์ แบบไม่มีใยหิน สีเทาแกรนิต มาใช้มุงหลังคาที่ครัวนอกบ้าน ที่นอกจากจะสวยงามดี และเย็นสบายแล้ว ลึกๆ ตัวเองก็สบายใจด้วยค่ะ เพราะกระเบื้องที่เลือกใช้ไม่มีแร่ใยหิน ยังไงนั้นคุณผู้อ่านก็อย่าลืมนำข้อมูลในนี้ไปใช้นะคะ และผู้เขียนหวังว่าเนื้อในบทความนี้จะสามารถเป็นแนวทางให้กับคุณผู้อ่านได้บ้าง ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปก จาก Pixabay โดย Pexels ภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกโดยผู้เขียนใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่คล้ายกันโดยผู้เขียน ทริคซ่อมท่อรับน้ำทิ้ง ทรงกระปุก อุดตันน้ำไหลช้า แก้ไขได้เอง แนวทางปรับปรุงสิ่งแวดล้อมในบ้าน เพื่อส่งเสริมสุขภาพ ทำไมควรดูแลบ้าน ทำให้หน้าบ้านน่ามอง และมีสิ่งแวดล้อมดี เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !